'แค่แอบหลงรักเธอเล่นๆ
ตามลำพังข้างเดียวในหัวใจ
แต่เมื่อมารู้สึกนึกอีกที เมื่อรู้ตัวอีกที
ฉันก็รักจนลึกข้างใน...
What wiil I do?'
- - -
“มีข่าวดีจะบอกเดือนหน้ามีวันหยุดเพิ่มอีกวันนะจ๊ะ!”
คำพูดของพี่หัวหน้าฝ่ายบุคคลทำให้เสียงพูดคุยในช่วงพักเที่ยงของเราทุกคนหยุดชะงัก คนแรกที่ถามคือเพื่อนสนิทของผมที่นั่งอยู่ข้างกัน
“ทำไมวะเจ๊?”
“ลูกสาวบอสแต่งงานน่ะสิ บอสเลยหยุดให้ 1 วันพวกเราจะได้เตรียมตัวไปงานแต่งกันสนุกๆ”
สนุกตายล่ะ...
ผมแอบตอบในใจพร้อมกับที่พี่ผู้ชายจากฝ่ายซ่อมบำรุงถามขึ้นมาอีก
“แล้วเจ้าบ่าวคือใครวะพี่”
“อ้าว! นี่ไงพวกนายช่างวันๆเอาแต่ทำงานกับเครื่องจักร แฟนลูกสาวบอสก็น้องที่ทำบัญชีต่างประเทศไง”
“คนไหนวะ?”
“คนที่ลูกพี่เห็นข้างหลังแล้วคิดว่าเป็นทอม จำได้มั้ย?”
“อ๋อไอ้น้องคนนั้น แล้วมันไม่ได้เป็นตุ๊ดเหรอวะ?”
“ตุ๊ดอะไรล่ะ ได้ข่าวว่าเค้าคบกับลูกสาวบอสแบบเงียบๆมาตั้งนานแล้ว แต่ก็เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปี จนนี่จะแต่งงานกันแล้วเนี่ย”
“ไม่น่าเชื่อ...”
“ไม่เชื่อพี่ก็ถามนี่เพื่อนผมๆ เกย์ตัวพ่อ ตามตำราที่เค้าว่ากันว่าผีจะเห็นผี มึงๆ มึงว่าน้องบัญชีคนนั้นแมนปะ?
โถ่เอ๊ย! -- ทั้งๆที่ผมตั้งใจนั่งเงียบๆเหมือนตัวเองไม่ได้อยู่ในห้องนี้แล้วแท้ๆ
ไอ้เพื่อนตัวดีมันยังเสือกจะดึงผมเข้าไปยุ่งจนได้
ตอนนี้ทุกสายตาในห้องกินข้าวของบริษัทหันมามองที่ผมเป็นตาเดียว ผมเองก็ไล่สายตามองทุกคน ก่อนจะพูดคำสามคำหนักอึ้งในความรู้สึกจนอธิบายไม่ถูกออกมา
“ไม่ใช่หรอก...”
,
“กูไม่ได้บอกว่ารักไม่มีจริง มันมี... แต่ไม่ได้มีไว้สำหรับทุกคน”
ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดพล่อยๆของผมจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรารู้จักกัน
วันนั้นเป็นงานเลี้ยงปีใหม่ของบริษัท พวกผมนั่งจับกลุ่มคุยกันเรื่องสัพเพเหระ กินอาหารบ้าง ดื่มกันบ้าง ก็ไม่ต่างจากทุกปี จนกระทั่งมีคนจุดประเด็นเรื่องการแต่งงานขึ้นมาว่าทำไมออฟฟิศเรามันถึงได้มีแต่คนโสด
ทั้งผู้หญิงผู้ชายโสดกันหมด บางคนมีแฟนอยู่ดีๆ พอเข้ามาทำงานที่นี่ก็เลิกรากันไปซะเฉยๆ
ผมฟังแล้วยังแอบขำ พอคิดย้อนไปมันก็เป็นอย่างที่ว่าจริงๆนั่นแหละ แล้วเรื่องคนโสดก็ขยับไปสู่เรื่องของความรัก ตอนนั้นเองที่เพื่อนสนิทหาเรื่องให้ผมตามเคยโดยการโพล่งออกมากลางวงว่า ผมเป็นพวกไม่เชื่อในรักแท้ คบใครก็คบเล่นๆ ง่ายๆ ไม่ผูกมัด
...ก็เลยต้องแก้ตัวด้วยการพูดประโยคนั้นออกไป
ซึ่งก็ไม่ได้โกหกอะไร ผมเชื่ออย่างนั้นจริงๆ
ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าความรักมีอยู่จริง แต่ก็พูดไม่ได้อยู่ดีว่าทุกๆความรักที่เกิดขึ้น เป็นความรักที่ดี
ยังมีคนอีกมากในโลกนี้ที่ยิ่งรักยิ่งห่วย ยิ่งรักยิ่งชีวิตพัง คนพวกนั้น บางทีอาจจะไม่เหมาะกับความรัก
ผมเลยเชื่อว่าความรักมันมีอยู่ในโลกนี้ – แต่ก็ไม่ได้มีไว้สำหรับทุกคน...
อย่างน้อยก็สำหรับผม
หลังจากหัวข้อความรักผ่านไปได้สักพักผมก็ลุกขึ้น เดินออกมาสูบบุหรี่ที่ด้านนอก หลังจากบุหรี่ไหม้ลงไปไม่ถึงครึ่งมวน เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นก็เรียกให้ผมหันไปมอง... เขาอยู่ตรงนั้น
สารภาพตามตรงว่าผมไม่เคยสังเกตเห็นอีกฝ่ายมาก่อน แต่ในวินาทีนั้น... ใบหน้าที่ได้เห็น รอยยิ้มและท่วงท่าการขยับตัวของเขาช่างสะดุดตาจนผมต้องส่งยิ้มมุมปากไปให้ พร้อมส่งสายตาทักทาย
เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดและสูบ ยืนพิงกำแพงข้างๆผม ปล่อยให้ความเงียบลอยผ่านไปสักพัก ก่อนจะเอ่ยทักขึ้นมา
“เรื่องความรักน่ะ...คุณคิดอย่างนั้นจริงๆเหรอ?”
ผมหันไปมองเลิกคิ้ว แล้วก็เข้าใจได้ว่าคงหมายถึงเรื่องรักแท้ไร้สาระอะไรนั่นที่ผมเคยพูดไป
“อืม...ครับ”
ผมรับคำทั้งๆที่ยังคาบบุหรี่ไว้ในปาก
“ผมก็เหมือนกัน...”
พูดจบเขาก็ขยับเข้ามาใกล้จนผมเห็นรายละเอียดของใบหน้านั้นได้อย่างละเอียด
ดวงตาโตกับหางตาเรียว จมูกเล็กโด่งรั้ง ผิวขาวที่เรื่อสีชมพูอมส้มเพราะแอลกอฮอล์
วินาทีที่เขามองลึกเข้ามาในดวงตาของผม ก่อนจะกระพริบตาลงจนเห็นแพขนตาชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งมันเป็นเหมือนเป็นสัญญานการเริ่มต้นของอะไรบางอย่าง... ริมฝีปากของเราประกบกัน บดเบียดแนบชิด ปลายลิ้นเกี่ยวพันแลกสัมผัสโดยไม่ลังเล
ทันทีที่ผละจูบออกมาผมก็คว้าบุหรี่ในมือของอีกฝ่าย โยนทิ้งลงไปที่พื้นทั้งของเขาและของตนเอง ก่อนจะขยี้รองเท้าดับไฟให้สนิท ขยับตัวมายืนคร่อม มือข้างนึงกดไหล่คนตรงหน้าไว้ให้แผ่นหลังพิงกำแพง ส่วนอีกข้างสัมผัสผิวต้นคอที่ร้อนผ่าวและโน้มตัวลงไปสานต่อจากเหตุการณ์ก่อนหน้า
ข้อตกลงระหว่างเราถูกกำหนดขึ้นในเช้าวันต่อไป...
ข้อแรก มันเป็นแค่เรื่องทางกายเท่านั้น ไม่มีความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง
ข้อที่สอง จะไม่มีการค้างคืนถ้าไม่จำเป็น หลังจากความต้องการถูกเติมเต็มเราจะแยกย้ายกันทันที
ส่วนข้อสามมันเกิดขึ้นโดยไม่ได้มีการตกลงอะไร ...แต่เขาไม่ยอมให้ผมได้สัมผัสริมฝีปากคู่นั้นอีก
หลังจากนั้นประมาณ1 เดือนคนในบริษัทก็เริ่มรู้เรื่องที่เขากำลังคบหากับลูกชายของท่านประธาน
...แต่เรื่องของเราก็ยังคงเป็นอย่างนั้นต่อไป ภายใต้ข้อตกลงที่สร้างขึ้น
เราไม่เคยทักทายกันที่บริษัท แต่จะนัดหมายกันทางโทรศัพท์มือถือ บางครั้งก็เป็นที่คอนโดของผม หรือไม่ก็ของเขา เคยรู้สึกเบื่อกับสังคมที่ใช้ชีวิตอยู่มากๆ จนหนีไปเที่ยวรีสอร์ตบนดอยที่เชียงใหม่ด้วยกันหนึ่งครั้ง ส่วนอีกครั้งเป็นโรงแรมที่หัวหิน
วันนั้นผมตื่นขึ้นมาเห็นเขานอนขดตัวดูน่าสงสารเหมือนลูกแมวตัวเล็กๆ แต่ก็น่ารักน่าเอ็นดูจนเผลอยิ้มออกมาตอนที่กำลังห่มผ้าให้ พอเห็นว่าอีกฝ่ายนอนสบายขึ้นผมก็เลื่อนปลายนิ้วไปสัมผัสผิวแก้มนุ่มมือลืมตัวก้มลงไปประทับจูบลงบนริมฝีปากสีอ่อน
นั่นทำให้เขาตื่นขึ้นมาทันที กับสีหน้านิ่งสนิท
ภายใต้ความเงียบที่กดดัน เขากลับลุกขึ้นนั่ง แล้วพูดออกมาสั้นๆ
"กลับกรุงเทพกัน..."
หลังจากนั้น ระหว่างเราก็มีแต่ความเงียบ...
วินาทีนึงในตอนที่ผมกำลังขับรถกลับเข้ามาในตัวเมือง เขาเลื่อนมือไปกดปิดเพลงจากรายการวิทยุที่เปิดอยู่แล้วพูดออกมา
“เรื่องของเราพอแค่นี้ดีมั้ย? ผมเบื่อแล้ว...”
แล้วเรื่องของเราก็จบลงแบบนั้น...
ผมไม่ได้อ้อนวอนให้เขาอยู่ ไม่ได้ต่อรองให้เรื่องของเรายังคงดำเนินต่อไป
และไม่รู้จะเอาข้ออ้างอะไรมายื้อความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียกอันนี้เอาไว้
ผมใช้ชีวิตต่อไปโดยทำเหมือนทุกอย่างยังเป็นปกติ และไม่พยายามหาคำตอบว่าน้ำตาที่หยดลงมาในวันที่โทรศัพท์ของผมถูกเขาตัดสายทิ้งอย่างไม่ใยดีครั้งแล้วครั่งเล่านั้นมีที่มาอย่างไร
,
ปกติแล้วผมมีวันหยุดสัปดาห์ละ1 วัน คือวันอาทิตย์
แต่วันเสาร์นี้ผมกลับได้ใช้เวลาอยู่ที่บ้าน เปิดโทรทัศน์ทิ้งไว้โดยไม่ได้ใส่ใจตั้งแต่เช้า บนโต๊ะมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ต้มไว้และยังกินไม่หมด ข้างๆกันเป็นกระป๋องเบียร์วางเรียงไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแบบที่ไม่คิดจะนับจำนวน
ผมนั่งอยู่บนโซฟาและพบว่าความอดทนทั้งหมดของตัวเองพังทลายลง เพราะยอมหยิบโทรศัพท์ที่กดปิดเครื่องไปตั้งแต่เช้ามาเปิดจนได้
หนึ่งในหลายการแจ้งเตือนที่ดังขึ้นมาจากเฟสบุ๊ค ซึ่งบอกว่ามีคนต้องการที่จะแท็กรูปภาพให้ผมได้เห็น
มันคือรูปภาพของกลุ่มเพื่อนที่ทำงานซึ่งอยู่ในชุดไม่คุ้นตา เพื่อนผู้ชายใส่สูท ส่วนผู้หญิงเป็นชุดราตรีทั้งแบบสั้นและแบบยาว...ทุกคนอยู่ในงานแต่งงาน
ปลายนิ้วผมเลื่อนไปดูรูปภาพอื่นๆที่ถูกถ่ายในสถานที่เดียวกัน หนึ่งในนั้นเป็นรูปคู่บ่าวสาวที่จุมพิตกันอย่างอ่อนโยน...
ผมมองรูปภาพ มองริมฝีปากคู่นั้นที่เขามักจะปฏิเสธเสมอเวลาที่ผมต้องการสัมผัสบ้าง มือของผมกำแน่นอย่างไร้ทางออก ก่อนจะวางโทรศัพท์คว่ำลงกับโต๊ะตรงหน้า ลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เย็นและหยิบเบียร์ออกมาอีกกระป๋อง
เพราะทุกอย่างเริ่มต้นอย่างไร้ความรู้สึก
...ก็ถูกต้องแล้วที่มันจะจบลงแบบนั้น
END
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in