วันนี้เป็นวันพิเศษ วันแรกเริ่มเดือนใหม่ วันครบรอบด้วย (9 ปี 4 เดือน) ก็เลยอยากกินอะไรพิเศษ มื้อใหญ่ แต่... ใหญ่มากไม่ได้ ฮ่าๆๆ เลยจัดปลาเผา ส้มตำ แซ่บๆ ล่ะกัน มื้อเช้าของวันนี้ (10.30 น.)

กินของคาวเสร็จแล้ว มันอยากของหวานทำไงอ่ะ ที่ร้านมีของหวานให้กินฟรีด้วย ใครที่ไม่ชอบกินส้มตำใส่ปลาร้าอาจจะไม่รู้สึกถึงความคาวปากจ๊ะ ^^ ก็เลยยยย ผสมของหวานเล็กน้อย เม็ดแมงลัก + น้ำเชื่อม (ครึ่งช้อนโต๊ะ) ไม่ใส่กะทิ ก็พอจะแก้ขัดได้บ้างอะไรบ้าง

ตอนบ่ายต้องนั่งทำงาน แต่รู้สึกง่วงอีกแล้ว เดี๋ยวก่อนนอนไปเยอะแล้ว ยังจะง่วงอีก วันนี้จะปล่อยให้ตัวเองนอนไม่ได้ เลยชงกาแฟดำ (ไม่ใส่น้ำตาล) 1 ช้อนชา ดื่ม แต่... ดื่มไม่หมด ได้ครึ่งแก้วอีกตามเคย เลยเก็บใส่ตู้เย็น แล้ว... ไปดื่ม ชาเขียวเย็น! ที่ร้านคาเฟ่ใกล้บ้านจร้าาา ดีงามมั้ยละ ไม่รู้ทำไมมันอยากมาก สงสัย 4 วันแล้ว มันอาจจะมีความโหยยย ก็เลยสั่งแบบหวานน้อยไป แต่เฮ้ย! ปกติสั่งหวานน้อยมันจะไม่ค่อยหวานเท่าไหร่ วันนี้มีความหวานกว่าปกติ ใจนึงก็คิดว่าร่างกายเราต้องเริ่มปรับสภาพน้ำตาลได้แล้วแน่เลย อีกใจหนึ่ง คือ มรึงต้องออกกำลังกายรีดมันออกนะวันนี้ 

การกินของเรายังไม่หมดเพียงเท่านี้ ด้วยความที่วันนี้ฝนตก อยากซดอะไรร้อนๆ ก็เลยจัดก๋วยเตี๋ยวจร้า แต่สั่งเอาวุ้นเส้นเนื้อน้ำตกนะเฮีย สิ่งที่ได้คือ เส้นเล็ก! เพราะปกติเราจะสั่งเส้นเล็กตลอด ทำไงอ่ะ กินดิ แต่ก็แอบแบ่งเส้นครึ่งหนึ่งให้คนข้างๆช่วย ฮ่าๆๆ เลวไปอีก

พอกลับมาที่บ้าน ด้วยความสำนึกผิดของการกินวันนี้ ทำงานบ้านใหญ่เลยจร้า เสร็จแล้วตามด้วยการทำท่าลดไขมันที่กูรูต่างๆ แนะนำ จริงๆ แคปเอาไว้ในมือถือนานมาก แต่ไม่ค่อยจะได้ทำตาม วันนี้ก็ขอจัดหนักจัดเต็ม ให้สมกับที่กินน้ำตาลและแป้งไปเยอะหน่อย

> เครดิตจากเพจ Kawii Thailand นะคะ <

ทำเสร็จแล้ว เป็นอันว่าเกิน 10 นาทีจ๊ะ มันเมื่อยอย่างแรง บร้าจริง หลังจากนี้ก็ไม่มีอะไรมาก อาบน้ำ นอน เพราะเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้า เรามีกิจกรรมใส่บาตรกัน ^^ 

1. หลังจากทำกิจวัตรแบบนี้ตั้งแต่วันที่ 2 มา เราไม่ปวดหัวตอนบ่ายเลย ทั้งที่เราปวดหัวตอนบ่ายตลอดมาเป็นอาทิตย์

2. การกินของเราเหมือนทำ IF เล็กๆ โดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ เพราะมื้อเช้าของเราจะประมาณ 10 โมงเช้า และจะกินอีกมื้อตอนเย็นไม่เกิน 6 โมงเย็น ซึ่งเป็นแบบ 16/8 (ใครอยากรู้ว่า IF คืออะไร ดียังไง ไปหาดูใน Youtube นะ มีกูรูมาแนะนำเยอะมากๆ)

อ้ออีกเรื่องนึง วันนี้ลองชั่งน้ำหนักตอนเช้า คือ พีคมาก อย่างที่รู้ตอนเช้าเราไม่ได้กินอะไรก็จะน้ำหนักน้อยหน่อย ซึ่งปกติน้ำหนักที่เราจะเอามาเก็บเป็นสถิติจะไม่ใช่ตอนเช้า เพราะเราไม่อยากทำให้ตัวเองดีใจว่าน้ำหนักลงเยอะ (แบบนี้ก็ได้ว่ะ) แต่มันก็แอบดีใจแหละ ดูออก เลยอยากเก็บสถิติไว้ 

เพราะเมื่อปลายเดือนก่อนๆ เราชั่งน้ำหนักได้ 66.1 กก. (ชั่งตอนเช้า - ตื่นนอน) ซึ่งพีคในพีคของความอ้วนของเราแล้ว เราเลยเริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจัง วิ่งอย่างบ้าระห่ำ แต่มันก็ยังไม่ได้ทำให้เรารู้สึกน้ำหนักตัวเบาและสัดส่วนลดลงเท่าไหร่ เราเลยตัดสินใจมา ลดน้ำตาลและไขมัน ร่วมด้วยในครั้งนี้ ซึ่งก็คิดไว้ว่าน่าจะได้ผลนะ ชั่งตอนเช้าของวันนี้ก็ 62.8 กก. ในระยะเวลาเดือนนิดๆ พอเป็นกำลังใจ ^^

บันทึกน้ำหนักวันที่ 4 : 63.8