หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องของ แซมชายคนนึงที่มีสติปัญญาเท่ากับเด็ก 7 ขวบ เขาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านกาแฟ Starbuck ด้วยอัตราค่าจ้าง 8 เหรียญต่อชั่วโมง เขามีเพื่อนที่มีปัญหาทางด้านสติปัญญาเหมือนกัน มีการใช้ชีวิตที่ทุกๆวันไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปมากนัก ตอนเช้าไปกินข้าวที่ร้านประจำ สั่งอาหารเดิมๆ ทุกสัปดาห์เขาและเพื่อนๆมีนัดดูหนังกัน ซึ่งก็ไม่มีใครผิดนัด แซมใช้ชีวิตอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ จนวันนึง ดันมีลูกกับผู้หญิงคนนึง เขาตั้งชื่อลูกว่าลูซี่ ชีวิตของแซมก็เปลี่ยนไป และต่อมาผู้หญิงคนนั้นทิ้งเขาและลูซี่ไป แซมจึงต้องเลี้ยงลูซี่คนเดียว ด้วยที่เป็นคนที่มีสติปัญญาเท่ากับเด็ก เขาจึงไม่รู้วิธีการเลี้ยงลูก จนแอนนี่เพื่อนบ้านต้องมาแนะนำการเลี้ยงลูก และช่วยเลี้ยงลูซี่ไปพลางๆด้วย อีกทั้งเพื่อนๆของแซมก็ช่วยกันเลี้ยงแบบสุดความสามารถ

หนังพาเราไปหาคำตอบว่า ผู้เป็นพ่อที่มีสติปัญญาเท่ากับเด็ก 7 ขวบ สามารถเลี้ยงลูกให้โตขึ้นอย่างที่เธอควรได้รับหรือไม่ ลูซี่ค่อยๆโตขึ้นจนกระทั่งอายุ 7 ขวบเท่ากับสติปัญญาของแซม ลูซี่เริ่มอ่านหนังสือที่มีคำศัพท์ยากๆได้ ในขณะแซมอ่านไม่ได้ ลูซี่เริ่มมีเหตุผลมากขึ้น ในขณะที่แซมยังใช้แต่อารมณ์ แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าลูซี่และแซมไม่ได้อยากอยู่ด้วยกัน และในที่สุดทางการก็มาเจอพวกเขา และเห็นว่าแซมเป็นบุคคลที่ไร้ความสามารถ จึงไม่สมควรที่จะเลี้ยงลูซี่ และจับพวกเขาสองคนแยกกันอยู่ แซมจึงเริ่มต้นสู้คดี และพบกับทนายคนนึง เธอมีปัญหาเรื่องลูกเช่นกัน ทั้งสองช่วยกันแก้ปัญหาที่ต่างฝ่ายต่างมี

นอกจากเราจะได้รู้จักและรับรู้ปัญหาครอบครัวของแซมและลูซี่แล้ว เรายังได้เจอกับปัญหาครอบครัวของทนายสาวคนนี้ด้วย ชีวิตเธอเหมือนจะสมบูรณ์แบบ มีการงานทำที่ดี มีบ้านใหญ่โตหรูหรา แต่กลับเป็นชีวิตที่ขาดความอบอุ่นในครอบครัว เธอทำแต่งาน จนไม่มีเวลาให้ครอบครัว จนลูกเธอแทบจะเกลียดเธอก็ว่าได้

หนังตอกย้ำเราถึงความไม่สมบูรณ์แบบของชีวิต ทุกคนล้วนต่างวิ่งหาชีวิตที่สมบูรณ์ที่ไม่มีอยู่จริง ต่างก็ต้องเจอกับสิ่งที่ทำให้ชีวิตเว้าแหว่งไปทีละนิดอยู่ดี ครอบครัวนึงมีพ่อลูกที่รักกันมากๆ แต่พ่อมีปัญหาด้านสติปัญญา ในขณะที่ลูกสาวเริ่มที่จะเติบโตและมีพัฒนาการด้านสติปัญญาล้ำหน้าผู้เป็นพ่อขึ้นไปทุกๆวัน อีกทั้งผู้เป็นพ่อไม่ได้มีหน้าที่การงานที่ดี จึงยังเจอปัญหาทางด้านการเงิน อีกครอบครัวนึงพ่อแม่มีหน้าที่การงานที่ดี มีบ้านหลังใหญ่โต แต่กลับไม่มีความสุขเพราะต่างคนต่างทำแต่งาน จนกลางเป็นครอบครัวที่ไม่อบอุ่น

เป็นหนังอีกเรื่องที่ใครดู ก็ต้องเสียน้ำตาให้กับหนังเรืองนี้ ด้วยการแสดงอันสุดยอดของ Sean Penn ที่แสดงเป็นแซม เขาแสดงให้เหมือนคนปัญญาอ่อนที่มีสติปัญญาเท่ากับเด็กจริงๆ ทั้งการพูด และท่าทาง มันทำให้เราเชื่อว่านี่คือคนปัญญาอ่อนจริงๆ แอบคิดเหมือนกันนะว่าคนแบบนี้จะเลี้ยงลูกได้ดีได้รึเปล่า แต่เมื่อเห็นความรักที่แซมมอบให้ลูก เราก็หมดคำถามนี้ไปเลย อีกสองนักแสดงที่อยากพูดถึงคือ Dakota Fanning ที่แสดงเป็นลูซี่ ดาโกด้าตอนเด็กๆน่ารักมากกกกกกกก มีทั้งความน่ารักและความฉลาด แต่เอาจริงๆเราดูหนังเรื่องนี้เพราะน้อง Elle Fanning มากกว่า น้องออกมาให้เห็นแค่นิดเดียวเองในบทลูซี่ (บทเดียวกับพี่สาว) ก่อนที่ลูซี่จะโตและเปลี่ยนเป็น Dakota Fanning เล่นแทน

สรุปแล้วหนังเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องนึงที่ตอกย้ำเราถึงความไม่สมบูรณ์แบบของชีวิต แต่ถึงแม้ชีวิตไม่สมบูรณ์ไม่ได้แปลว่าเราจำดำเนินชีวิตต่อไปไม่ได้ อีกอย่างนึงคือ การเป็นบุคคลไร้ความสามารถ ได่ได้แปลว่าจะเป็นอุปสรรคของการให้ความรักจริงๆ เป็นหนังที่บ่อน้ำตาแตกที่แท้จริง ควรได้ดูสักครั้ง

ฝากบทความนี้ในเฟซบุ๊กด้วย