นี่ นายกับคังแดเนียลเป็นอะไรกัน
คำถามจากพี่จีซองเมื่อตอนเย็นที่จู่ๆก็ผุดขึ้นมาตอนกำลังนั่งรถเมล์กลับหอ หน้าต่างรถที่เปิดไว้พัดเอากลิ่นของควัน กลิ่นของแดดที่แผดเผาพื้นถนน และกลิ่นของอากาศยามเย็นที่แสนจะวุ่นวายเข้ามาจนเต็มปอด
ซองอูสูดหายใจลึกๆเพื่อสัมผัสกับความวุ่นวายไร้ตัวตนพวกนั้นก่อนจะถอนหายใจออกมา เท้าแขนกับหน้าต่างแล้วเหม่อมองผู้คนข้างทางในตอนรถติด
เสพความวุ่นวายเพื่อที่จะปกปิดความวุ่นวายในจิตใจ
นั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกถามอะไรแบบนี้ แต่เป็นครั้งแรกที่ถูกถามด้วยสายตาจริงจังขนาดนั้นและซองอูเข้าใจดีว่าพี่จีซองสนิทกับแดเนียลเลยสงสัยและมีคำถาม เหมือนกับคนอื่นๆที่ไม่ว่าจะสนิทกับผมฝ่ายเดียวหรือทั้งสองฝ่ายก็ตาม
เราไม่ได้เป็นอะไรกัน
นั่นคือคำตอบของคำถามที่ถามแบบเปิดกว้างและคำตอบแบบเดียวกันก็ถูกส่งกลับไป
เพียงแต่ลึกลงไปในจังหวะเต้นของหัวใจ ในการกระพริบตา ในการสัมผัสแตะต้องกัน ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานะที่ไร้ตัวตนพวกนั้น มันกลับเป็นอะไรที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเหมือนน้ำที่เทลงไปในแก้วแล้วล้นทะลักออกมา
ตกหลุมรัก?
ไม่มากพอ
ชอบ?
อาจจะใกล้เคียง
สนิท?
อืม ก็คงใช่
จะว่าเราสนิทกันก็อาจจะใช่ แม้ว่าการไปเที่ยวด้วยกันหลังจากบังเอิญเจอกันหรือการไปนั่งร่วมโต๊ะเมื่อเจอที่ร้านข้าวจะดูน้อยเกินไปและไกลกว่าเกินกว่าสถานะเพื่อนสนิทก็ตาม เราไม่เคยตะขิดตะขวงใจจะอยู่ด้วยกันหลังจากที่ไม่เจอหน้ากันสองเดือน เหมือนเพื่อนเก่าที่กลับมาเจอกันอีกครั้งอะไรแบบนั้น
ทั้งที่ความจริงเรารู้จักกันแค่สี่เดือน
และสี่เดือนนั่นเราเจอกันแค่สี่ครั้ง
น้อยครั้งเกินกว่าจะสนิทกัน ไม่ใช่เจอกันเดือนละครั้งด้วยซ้ำเมื่อบางเดือนเราไม่เจอกันเลย ตามประสาคนอยู่กันคนละคณะกันและมันไกลขนาดแค่คิดจะไปก็ยังเหนื่อย
ครั้งแรกที่รู้จักคือความสัมพันธ์แบบคืนเดียว
และนั่นแหละจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายวกวนภายในหัวใจ
เราไม่ได้ตกหลุมรักกันและกันหลังจากสัมผัสร่างกายอะไรแบบนั้นเหมือนในละครหรือนิยาย เพียงแต่มันเป็นความทรงจำที่จะโผล่มาชั่วแวบตอนกำลังเลือกหนังสือ เดินเล่นหรือแค่ก้าวเดินขึ้นบันได
ผ่านมาแล้วเลือนหายไปโดยที่ไม่เปลี่ยนแม้กระทั่งการเต้นของจังหวะหัวใจด้วยซ้ำ
เพียงแต่ทุกครั้งที่ผมอยู่กับเขา อยู่กับคังแดเนียลคนนั้น ก็เหมือนกับกำลังวางหัวใจไว้กลางมหาสมุทร มีคลื่นซัดสาดมาเป็นจังหวะตามแรงลมหรือแรงสั่นไหวของหัวใจ และบางครั้งก็เหมือนถูกสึนามิที่เป็นคลื่นใต้น้ำกลบฝังแบบไม่ทันตั้งตัว
พังระเนระนาด
และคลื่นพวกนั้นก็ถอยกลับไปทิ้งไว้เพียงเศษซากความเสียหายที่ซ่อมแซมตัวมันเองอีกครั้ง
เพื่อจะถูกคลื่นพวกนั้นโหมกระหน่ำเข้ามาอีกครั้ง
เป็นแบบนั้นทุกครั้งที่พบกัน
เราไม่ได้ตกหลุมรักกันและกัน
เพียงแต่มีบางครั้งที่หัวใจเราเป็นจังหวะเดียวกัน
ไม่นานและไม่สั้น
ไม่ช้าและไม่เร็ว
ก่อนจะราบเรียบและขาดตอนไป
ถามว่าเป็นอะไรกัน
ก็ตอบว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน
หลายคนมองว่ามันคลุมเครือไม่ชัดเจน น่าอึดอัดจนเหมือนกับกำลังจมน้ำ เศษเสี้ยวตัวตนของผมก็คงคิดแบบเดียวกัน เป็นการจมน้ำที่คนประสบภัยไม่อยากจะโผล่ขึ้นมาสูดอากาศเหนือผิวน้ำ ยินยอมจมดิ่งลงไปอย่างลึกล้ำ
ใต้น้ำก็มีผลต่อจังหวะหัวใจ
เราไม่ได้เป็นอะไรกัน
เราไม่เคยเป็นเจ้าของกันและกัน
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกครั้งที่จ้องตากัน เราจะถูกดึงดูด
เพียงชั่ววินาที
และรอยยิ้มที่เหมือนจะมีถ้อยคำนับล้าน
อ่านเพียงชั่วแวบก็เข้าใจได้ทั้งหมด
เราไม่ปฏิเสธว่าการสัมผัสกันมันทำให้รู้สึกดี
และไม่ปฏิเสธว่าที่เป็นแบบนี้มันดีอยู่แล้ว
ผมไม่เคยต้องการครอบครองพื้นที่สักตารางเดียวของแดเนียล และหมอนั่นคงคิดเหมือนกัน เราแค่ผ่านมาแล้วสัมผัสกันแผ่วเบาก่อนจะจากไปไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยการสัมผัสพวกนั้น
ไม่ได้เดือดร้อนในจังหวะที่เดี๋ยวเนิบนาบเดี๋ยวรุนแรงของความสัมพันธ์
ไม่ได้อยากก้าวไปข้างหน้ามากกว่านั้น
มันเป็นเพียง
การเต้นของหัวใจที่ไปพร้อมกันในช่วงเวลาเท่านั้น
ไม่รู้ว่าในอนาคตจะเป็นยังไง
แต่การที่ในวันนี้มหาสมุทรยังอยู่ที่เดิม
คนจมน้ำก็ยังคงดำดิ่งลงใจกลางมหาสมุทรนั้น
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in