เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ห้องตรวจหมายเลข 5นักเล่าเรื่อง
เคตามีนรอบใหม่ ไม่ใช่เคตามีนรอบสอง
  • “อืมม..ครั้งนี้ถือเป็นการทำเคตามีนรอบใหม่เลยใช่มั้ยเนี่ย” พยาบาลถามฉันระหว่างกำลังทำการเปิดเส้นเลือดที่หลังมือ หลังจากที่ฉันเข้าไปเป็นผู้ป่วยในของวอร์ดจิตเวชผู้ใหญ่ ฉันก็พบว่าคนที่อยู่ที่นี่ก็หน้าเดิมๆ เป็นแล้วดีขึ้น ดีขึ้นแล้วก็กลับมาเป็นอีก คล้ายๆกับตัวฉันที่วนเวียนอยู่ที่ OPD จิตเวช กับวอร์ดจิตเวชเพียง 2 ที่นี้ ฉันกลับมาสวมชุดสีม่วงดอกรักและต้องนอนแยกห้องกับผู้ป่วยคนอื่นตามมาตรการป้องกัน Covid-19 ของโรงพยาบาลนี้ กิจวัตรประจำวันของที่นี่ยังน่าเบื่อเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นการต่อคิวอาบน้ำที่มีอยู่ห้องเดียว การกินอาหารไร้รสชาติ และการวัดความดันเช้าเย็น ฉันแอบคัดค้านการกินยาด้วยตัวเองด้วยการคายยาทิ้งเมื่อพยาบาลเผลอและแอบเอาไปทิ้งในชักโครก หลังจากที่ฉันก้าวผ่านช่วงเวลาอันน่าเบื่อไปด้วยนิยายของฮิงาชิโนะ เคโงะไปประมาณ 2-3 วัน หมอก็มาแจ้งกับฉันว่าฉันต้องให้ยาเคตามีน 1 รอบ (6 ครั้ง) ซึ่งถือว่าเป็นการให้เคตามีนรอบใหม่ ไม่ใช่การให้เคตามีนรอบสอง เพราะรอบนี้ไม่ได้มีผลยึดโยงอะไรกับการทำเคตามีนรอบที่แล้วเลย และเหมือนเดิมฉันแอบอธิษฐานในใจว่าขอหมอ J เป็นหมอที่มาทำเคตามีนให้เถอะนะ ฉันรู้ดีจากการให้เคตามีนครั้งที่แล้วว่าฉันจะอาการกลับมาแย่อีกครั้งหลังจากหยุดเคตามีนไปประมาณ 1 เดือน ฉันจึงตัดสินใจเขียนจดหมายถึงตัวเอง
    ‘ถึง ตัวฉันผู้แสนสุข
    เรารู้ดีว่าเมื่อยาเคตามีนมันออกฤทธิ์และได้ผล มันจะทำให้ตัวเรามีความสุขมาก มองโลกนี้อย่างสวยงามอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันเหมือนมีคนยื่นมือมาดึงตัวเราออกมาจากหลุมลึกที่ไม่มีทางขึ้นไปเองได้ แต่จงจำไว้ว่าความสุขที่ได้จากการทำเคตามีนล้วนเป็นสิ่งหลอกลวง มันจะอยู่กับเราแค่เดือนเดียวและจะทิ้งเราไปอย่างไร้เยื่อใย สุดท้ายเราก็ต้องไปยืนอยู่บนชั้น 29 ของคอนโด และทิ้งตัวดิ่งลงมาสู่ด้างล่าวอยู่ดี ถึงเวลานั้นจงอย่าลังเล สิ่งที่รออยู่มันโหดร้ายเกินกว่าจะมีชีวิตรับรู้มันต่อไป
    จาก ตัวฉันผู้แสนเศร้า’
         เคตามีนครั้งที่ 1 - หมอ A
    ฉันประเดิมการทำเคตามีนครั้งที่ 1 ในวันพุธแรกของเดือนมกรา หมอ A เดินเข้ามาในห้องและยิ้มให้ ถือว่าเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์ฉันมากๆที่คนแรกที่ทำเคตามีนให้ฉันคือคนที่ฉันเขียนอีเมล์ลาตายไปถึง หมอ A บอกว่าทางโรงพยาบาลใช้วิธีไม่ให้หมอคุยกับคนไข้ระหว่างให้ยาเคตามีน เพราะมีการทดสอบแล้วว่ามันอาจทำให้คนไข้มีอาการดิ่งได้มากและยาเคตามีนจะไม่มีประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้นระหว่างที่ฉันกำลังนอนรับยาเคตามีนเข้าเส้นเลือดอยู่นั้นหมอ A ก็เปิดเพลงให้ฟังคลอไปเบาๆ หมอเลือกใช้ทฤษฎี Here and Now คือให้ฉันพยายามอยู่กับปัจจุบัน ทำสมองให้ว่างเปล่า ไม่ต้องคิดเรื่องอะไรทั้งนั้น ในโลกนี้มีเพียงฉันคนเดียว ในระหว่างที่ยาเคออกฤทธิ์ ภาพเพดานในห้องตรวจหมุนเคว้งคว้าง ภาพหน้าร้านกาแฟอเมซอนเล็กๆภายในโรงพยาบาลปรากฏขึ้นมาตรงหน้า มันเป็นร้านที่ฉันซื้อลาเต้เย็นไม่หวานตอนเช้าวันอาทิตย์ที่มีนัดกับหมอ C ฉันสัมผัสได้แม้กระทั่งอุณหภูมิรอบกายที่ค่อนข้างเย็นในตอนเช้าของกรุงเทพ ความรู้สึกผ่อนคลายที่ฉันจะได้เจอหมอ C ฉันจะได้พูดระบายสิ่งที่อัดอั้นไว้ 2-3 อาทิตย์ออกมา กาแฟขมๆเย็นๆผ่านเข้าไปในลำคอตามด้วยเอแคลร์ใส้ครีมก้อนเล็กๆ น้ำตาฉันไหลออกมาไม่ขาดสาย ฉันคิดถึงหมอ C ฉันคิดถึงคำบอกลาของหมอก่อนฉันจะออกจากห้องตรวจครั้งที่แล้ว ทำไมหมอ C ถึงบอกลาฉันนะ? หรือเพราะฉันเกินเยียวยาแล้วจริงๆ? เพลงที่ทำฉันร้องไห้โฮตอนนอนทำเคตามีนครั้งที่ 1 :


         เคตามีนครั้งที่ 2 - หมอผู้หญิงคนหนึ่ง
    ฉันต้องบอกตรงๆว่าไม่ค่อยถูกกับหมอคนนี้ซักเท่าไหร่ อาจจะเพราะบุคลิกของหมอที่ออกจะพูดห้วนๆ เงียบๆ ไม่ชวนคุยเหมือนหมอคนอื่น เรียกได้ว่าคนประเภทเดียวกันมักอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่หมอพยายามเปิดเพลงที่ฉันร้องขอไปและฉันได้ฟังเพลงใหม่ของ T_047 อีกนิดหน่อย ภาพปลายเท้าของฉันยืนอยู่บนเก้าอี้สแตนเลสสีเงินวาว เบื้องล่างเป็นหลังคาส่วนกลางชั้น 5 ที่อยู่ไกลจากสายตาเหลือเกิน ฉันไม่แน่ใจว่าในภาพนั้นฉันยืนอยู่ชั้นที่เท่าไหร่ แต่ฉันคาดว่ามันเป็นชั้นที่ 29 เหมือนเดิม ลมพัดหวีดหวิวต้องแผ่นหลัง ฉันทิ้งตัวลงไปเบื้องล่าง ความรู้สึกพะอืดพะอมเหมือนตอนขึ้นลิฟท์ความเร็วสูง เพลงดินแดนแห่งสายลมของ T_047 ดังขึ้นอยู่ข้างหู ฉันร้องไห้เงียบๆในห้องตรวจแห่งความมืด

         เคตามีนครั้งที่ 3 - หมอ Panna
    รอบนี้มีอาการเวียนหัวหลังจากให้ยาเคตามีนเยอะกว่าครั้งที่เคยได้ อาจจะเพราะว่าคืนก่อนหน้าที่จะต้องไปให้เคตามีนฉันมีอาการดิ่งสุดขีด ร้องไห้จนปวดหัว มีภาพตัวเองยืนอยู่บนระเบียงชั้น 29 ลอยเข้ามาในหัวตลอดเวลา หมอทุกคนบอกกับฉันว่าเค้าเคารพการตัดสินใจของฉันนะถ้าฉันจะฆ่าตัวตาย แต่ตอนที่ตัดสินใจอยู่นั้นต้องเป็นการคิดตอนที่อาการหายดีแล้ว ไม่ใช่มองไปทางไหนก็มืดบอดอย่างนี้ นั่นแสดงว่าถ้าถึงที่สุดแล้วฉันยังอยากตาย ฉันก็ไปได้ใช่มั้ย?
         หมอ : อะไรที่ยังรั้งคุณมาได้จนถึงทุกวันนี้ล่ะคะ?
         ฉัน : คำลาจากหมอ J ค่ะ ฉันอยากได้คำลาจากหมอ J
         เคตามีนครั้งที่ 4 - หมอ Kr
    “หมอว่ามั้ยคะว่าทำไมคนเราวางแผนจัดงานวันเกิดได้ ออกแบบธีมงานวันแต่งได้ แต่พอมีคนออกแบบงานศพของตัวเองคนนั้นกลับโดนส่งไปหาจิตแพทย์ ถ้าเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา ทำไมพอคนเราจะตายแล้วจิตแพทย์ต้องมาห้ามด้วยคะ” ฉันถามหมอ Kr ระหว่างที่กำลังนอนให้เคตามีนในห้องเดิม หมอ Kr ใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะตอบกลับ “ถ้าคุณตายตอนนี้แล้วยังมีสิ่งที่อยากทำอีกมากมายที่ไม่ได้ทำ มันจะทำให้คุณรู้สึกเสียดายนะครับ” “แต่ถ้าเราตายไปแล้วมันก็ไม่รู้สึกอะไรแล้วไม่ใช่เหรอคะ” ฉันเถียงหมอกลับไปทันทีทั้งที่ยังเมายาเคตามีนอยู่ ห้องหมุนวืดไปมา หลอดไฟบนเพดานกลายเป็นเส้นขด ตัวฉันเหมือนลอยในอวกาศ เคตามีนรอบนี้ฉันให้หมอเปิดเพลงของ Coldplay คลอไปด้วย “ยิ่งเปิดเพลงของ Coldplay แล้วทำให้คุณยิ่งดิ่งรึเปล่า” หมอถามเมื่อเห็นน้ำตาของฉัน “ไม่ใช่ค่ะ ฉันไม่ได้ดิ่ง ฉันแค่รู้สึกคิดถึง” ใช่ ฉันคิดถึงหมอ J ผู้ชอบวง Coldplay ซะเหลือเกิน ความจริงฉันชอบ Maroon5 ต่างหาก

         เคตามีนครั้งที่ 5 - หมอผู้ชายคนหนึ่ง
    เคตามีนครั้งนี้ถูกเลื่อนจากวันศุกร์เป็นวันจันทร์ของอีกอาทิตย์หนึ่ง เพราะสองครั้งที่แล้วความดันของฉันขึ้น ไม่แน่ใจว่าเพราะความคิดถึงของฉันรึเปล่า เคตามีนครั้งที่ห้านี้มีจิตแพทย์ผู้ชายตัวเตี้ยๆมาคอยดูแล และถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยว่าหมอไม่สามารถเปิดเพลงให้ฟังได้ครับ ไม่สะดวกจริงๆ ฉันต้องนอนให้ยาเคตามีนไปเงียบๆ โดยมีหมอเดินมาคุยเช็คอาการทุกๆ 10 นาที การให้ยาครั้งนี้มันช่างเงียบเหงาเหลือเกิน ครั้งหน้าจะเป็นครั้งสุดท้ายของฉัน ขอให้เป็นหมอ J ด้วยเถอะ
         เคตามีนครั้งที่ 6 (ครั้งสุดท้าย) - หมอ R
    เคตามีนครั้งนี้ฉันก็ยังไม่ได้เจอหมอ J อีกเช่นเคย แต่ฉันได้เจอหมอ R ซึ่งเป็นเพื่อนกับหมอ J หมอบอกฉันว่าตอนนี้หมอ J ไปตรวจที่แผนกอื่น ไม่ได้มาตรวจแผนกจิตเวช ฉันเข้าใจได้โดยง่ายแต่ก็รู้สึกเสียใจมากอยู่ดี
         หมอ R : คุณมีธุระอะไรกับหมอ J เหรอครับ
         ฉัน : ไม่มีอะไรค่ะ แค่อยากเจอเค้าก่อนตาย
    บรรยากาศในห้องเปลี่ยนเป็นเงียบเหงาและหนักอึ้งมากขึ้น ฉันนอนนิ่งๆอยู่อย่างนั้นจนยาเคตามีนหมดหลอด ให้ยาครั้งสุดท้ายนี้ทำฉันเวียนหัวและติดอยู่ในอวกาศจนเกือบบ่ายสามโมง ในหัวของฉันมันมีแต่ภาพหมอ J สลับกับภาพปลายเท้าตัวเองบนระเบียงชั้น 29



    รวมๆแล้วฉันอกหักถึง 6 ครั้ง!!

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in