เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Morocco MomentBANLUEBOOKS
02: แดนพิศวง


  • หลังกำแพงเป็นดินแดนแห่งความพิศวงโดยสมบูรณ์ เบื้องหน้าของเราคือทางแยกมากมาย แตกแขนงยุ่บยั่บเหมือนรากไม้ที่ชอนไชลึกลงในเขตเมืองเก่า เล็กสั้นพาเราเดินวกไปวนมา เข้าตรอกนั้นออกซอยนี้ ไม่นานเขาก็พาเราเดินเข้าซอยเปลี่ยวจนอดหวาดระแวงไม่ได้ 

    ผมใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเราเดินเลี้ยวเข้าไปในย่านตลาดที่มีนักท่องเที่ยวคึกคัก ร้านค้าต่อแถวเรียงรายยาวสุดลูกหูลูกตา แต่แล้วเขาก็พาเราเดินกลับเข้าไปในเขตร้างผู้คนอีกครั้ง ผ่านร้านค้าเงียบเหงาหยากไย่เกาะผ่านสามแยกแมวโทรม ที่มีแมวหน้าตามอมแมมขนยาวรุงรังรวมกลุ่มกันคุ้ยถังขยะ จากนั้นก็เลี้ยวขวาเข้าซอยผีดิบวังเวงกว้างเพียง 1.5 เมตร

    กุ่ยบอกไว้ว่าที่พักของเราอยู่ใจกลางตลาดเก่าเมดิน่า แล้วสภาพแวดล้อมวังเวงสุดฤทธิ์เหมือนหนังฆาตกรรมฆ่าปาดคอนี่คืออะไร? 

    เล็กสั้นพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ตลอดทางเขาสื่อสารกับเราด้วยการหันกลับมามอง ยืนรอ และเดินนำ ซึ่งขณะนี้เขาหยุดนิ่งอยู่ที่ปากทางเข้าซอยมืดไม่มีสัญลักษณ์อะไรสะดุดตา ชายท้องถิ่นชี้ให้เราดูป้ายชื่อที่พัก มันทำจากแผ่นไม้เล็กๆ แอบซ่อนอยู่ใต้คานปูนเก่าขี้ฝุ่นเขรอะเหมือนไม่อยากให้ใครสังเกตเห็น


  • บ้านเก่าหลายหลังในโมร็อกโกถูกดัดแปลงเป็นบ้านพักสไตล์ดั้งเดิมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว คล้ายเรียวกังในประเทศญี่ปุ่น เราเรียกที่พักลักษณะนี้ว่าริยาด (Riad) นักท่องเที่ยวที่มาโมร็อกโก ส่วนใหญ่นิยมพักในริยาดเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศเมืองเก่า เราเองก็ต้องการแบบนั้นเช่นกัน

    ริยาดในเมืองนี้มีให้เลือกหลายเกรด หลักสำคัญในการเลือกของเราคือเน้นความปลอดภัย สะอาด เดินทางสะดวก และราคาเหมาะสม โดยอ้างอิงจากรีวิวของนักท่องเที่ยวชาวตะวันตก เพราะฝรั่งค่อนข้างละเอียดกับเรื่องพวกนี้ เราจึงได้รับอานิสงส์หาที่พักได้ถูกใจถูกราคา

    เรากำลังยืนประจันหน้ากับประตูไม้สีดำเก่าๆ ไร้ลวดลายโดดเด่น สูงราวสองเมตร หน้าตาไม่ต่างกับประตูบ้านหลังอื่นและดูยังไงก็ไม่เหมือนเกสต์เฮาส์


  • เนื่องจากบ้านเมืองนี้ไม่มีออด กระดิ่ง หรือระฆัง การเรียกคนในบ้านต้องเคาะประตูเท่านั้น เล็กสั้นใช้กำปั้นเคาะประตูสองสามครั้ง ชายหนุ่มหน้าใสคนหนึ่งก็โผล่มาต้อนรับ และแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษว่าชื่อ ‘กาเร็ต’ เขาเชิญเราเข้าไปด้านในพร้อมเสิร์ฟ ‘ชามินต์’ หรือ ‘ชาสะระแหน่’ เครื่องดื่มประจำชาติ เป็นเวลคัมดริ๊งก์ 

    คนที่นี่ไม่ได้รินชาจ่อปากแก้วแบบที่เราคุ้นเคย แต่เขาจะยกกาน้ำสูงเหนือแก้วประมาณ 30 – 50 เซนติเมตร เพื่อเป็นการระบายความร้อนก่อนแล้วจึงค่อยริน
  • ปลาถามหากุ่ย แต่กาเร็ตบอกว่าเราเป็นคนเอเชียกลุ่มแรกของวันนี้ เอ๊ะ!? กุ่ยมาถึงก่อนเราครึ่งวัน ตอนนี้เขาควรเข้าที่พักมารอรับเราแล้วแต่ทำไมกลับหายตัวไปซะงั้น

    เนื่องจากยังไม่มีซิมอินเทอร์เน็ตหรือพ็อกเก็ตไวไฟ เราจึงขาดการติดต่อกับกุ่ยมาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อเข้ามาในเขตที่พักที่มีไวไฟ ปืนจึงรีบเปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือ เพื่อดูว่ามีข้อความอะไรส่งมาจากกุ่ยบ้าง


    “หาริยาดไม่เจอ นัดที่ร้านขายน้ำส้มคั้นตรงจัตุรัสแทน”

    นี่เป็นข้อความสุดท้ายในไลน์ที่กุ่ยส่งให้เราเมื่อสามชั่วโมงที่แล้ว ปืนพยายามไลน์กลับไปบอกว่าตอนนี้เราถึงที่พักแล้ว กำลังออกไปหาให้รออยู่ที่เดิม แต่ไม่ว่าจะพิมพ์ข้อความอะไรไปก็ไร้การตอบสนอง

    พวกเราคิดว่ากุ่ยคงหาที่พักไม่เจอ เพราะพิกัดของริยาดซับซ้อนเกินบรรยาย ที่สำคัญคือเขาไม่มีคนท้องถิ่นช่วยนำทางแบบเรา กุ่ยน่าจะอาศัยสัญญาณไวไฟเล็กๆ น้อยๆ ตามร้านอาหารส่งข้อความมาหาเรา แต่เมื่อไร้การตอบสนองเขาเลยเดินหาที่พักอีกรอบ ทำให้เราติดต่อกันไม่ได้

    เมื่อสรุปได้ดังนี้ เราจึงตกลงกันว่าภารกิจสำคัญที่ต้องปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนคือการบุกจัตุรัสเขาวงกตเพื่อตามตัวก่ยุ กลับมา เพราะเขาเป็นผ้กุมชะตากรรมทุกอย่างของเรา ตั้งแต่แผนการเดินทางไปจนถึงรายละเอียดติดต่อที่พักและบริษัททัวร์ทั้งหมดในทริปนี้

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in