เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
/me Now.geekjuggler
FOR ME, STRANGE IS BEAUTIFUL
  • "ไปที่ไหนก็เหมือนกันหมด พีระไปที่ไหน ที่นั่นก็เป็นพีระ"

    ทุกคนพูดออกมาในทำนองนี้ เมื่อได้เห็นภาพจากสิงคโปร์ ทริปเที่ยวล่าสุดของผม
    คนเหล่านั้นที่ผมส่งภาพให้ไปดู คือ กลุ่มเพื่อนช่างภาพที่สนิทสนม และ ไว้ใจได้ว่าจะวิเคราะห์วิจารณ์ภาพถ่ายของกันและกันอย่างตรงไปตรงมา "ประหลาดดี so you มาก ชอบที่นายมองเห็นอะไรแบบนี้" เพื่อนชาวสิงคโปร์กล่าว

    ฟังแบบนี้เลยไปนั่งคุ้ยรูปเก่าๆ ของตัวเองดู​ ก็พบกับความน่าประหลาดใจ
    กรุงเทพ - ญี่ปุ่น - มาเลย์ - เกาหลี - สิงคโปร์
    ภาพที่ได้การเดินทางสี่ห้าครั้งหลังสุดมีมวลสารอะไรบางอย่างที่ใกล้เคียงกัน

    ความแปลกประหลาด พิสดาร ของคนและสิ่งของข้างทาง ผสมกับ ความเหงาโดดเดี่ยว ราวกับทั้งโลกมีแค่เขากับบรรยากาศรอบข้าง (ใครหลายคนบอกว่า ภาพพวกนี้มีความเป็น หว่องกาไว สูงมาก ซึ่งจริงๆ ก็ไม่เข้าใจ จนต้องไปหา Chungking Express มาดู จนได้คำตอบว่าความหว่องคืออะไร) (แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่ถูกจริตกับหนังหว่องเรื่องนี้สักเท่าไร) (แต่ Faye Wong น่ารัก) (นอกเรื่องละ)

    พอมานั่งนึกไปนึกมาถึงที่มาที่ไปว่าไปกดชัตเตอร์ถ่ายภาพพวกนี้มาทำไม คำตอบที่ผุดขึ้นมาในใจก็มีอยู่สองข้อ

    1. ภาพความงามมาตรฐานมันน่าเบื่อ
    ไม่ได้บอกว่าภาพสวยๆ ของแลนด์มาร์คยอดฮิตมันไม่ดีนะครับ แต่พอเห็นมากๆ มันก็เฝือเหมือนกัน ตัวอย่างง่ายๆ เช่น ถ้าเข้าไปในพันทิป แล้วเจอกระทู้ประมาณว่า "20 ภาพเด็ด กทม. ในดวงใจของผม ฯลฯ" ร้อยละ 80 ไม่ต้องกดเปิดก็จะเดาได้ว่า ข้างในจะมีภาพไฟกลางคืน กทม. มีเส้นสายวิ่งแว้บๆ วัดพระแก้วมุมสูงยามราตรี สะพานพระรามแปด หัวลำโพง วงเวียนโอเดี้ยน บลาๆ ซึ่งเขาก็ถ่ายออกมาได้สวยงามตามมาตรฐาน แต่พอมันเป็นความงามตามมาตรฐาน ทุกคนก็เลยยึดเอาความงามแบบนี้เป็นที่ตั้งกันหมด ภาพที่โพสต์ออกมาเรียกไลค์เรียกแชร์ ก็เลยมาในทางๆ เดียวกัน (เว็บเมืองนอกบางที่บอกว่ามันคือความงามแบบภาพในโปสการ์ด) (แต่ย้ำอีกครั้งว่า ไม่ได้รังเกียจอะไรนะ)

    จากเหตุผลข้างต้น บวกๆ กับความบ้าๆ บอๆ ในตัว เลยทำให้เวลาไปไหนมาไหน ไอ้ตรงไหนที่เขาบอกว่าเป็นจุดถ่ายรูป นี่จะมีความเฉยๆ มาก อ่อ อืม สวยดี อ่ะ สักหนึ่งแชะเป็นหลักฐานว่าได้มาจริงๆ แล้วนะ บาย ออกไปเดินหาอะไรที่มันดูผิดที่ผิดทางถ่ายเล่นดีกว่า

    2. ผมขี้เสือก
    ก็ตามที่เขียน ผมชอบสอดรู้สอดเห็นพฤติกรรมของชาวบ้านน่ะ มันสนุกไปอีกแบบ เช่น เวลายืนเบียดๆ กันบน MRT ผมก็ชอบชำเลืองมองว่า เอ๊ะ เขาเล่นอะไร เขาคุยอะไรกับคนอื่นในไลน์ ที่พีคที่สุดคือ เคยเห็นกระบวนการทำภาพ "สวัสดีวันจันทร์" ตั้งแต่ต้นจนจบจนก๊อปแชร์ต่อให้เพื่อนทุกกรุ๊ปไลน์ของลุงคนนึง ดีใจประหนึ่งดูสารคดีสัตว์โลกแล้วเจอปลาวาฬหายากที่โผล่มาให้เห็นตรงหน้า

    แล้วมันเกี่ยวกับภาพถ่ายยังไง พอเราชอบแอบดูชีวิตชาวบ้าน สายตาผมก็ชอบสอดส่องหานู่นหานี่ดูตลอดเวลา จนทำให้มักจะได้เจอกับสิ่งประหลาดๆ ที่หลายคนมองข้ามอยู่เสมอๆ เช่น โปสเตอร์ที่ตรงลูกตาโดนฉีก หรือ ถังชยะที่มีศพตุ๊กตาหมีนอนอยู่ อะไรทำนองนี้
    และความพิลึกพิลั่นเหล่านี้ มันสุดแสนยั่วยวนใจให้นิ้วมันเลื่อนไปกดชัตเตอร์เหลือเกิน
    คุณจะเจอในสิ่งที่คุณอยากมองหา จำไม่ได้แล้วว่าใครพูดคำนี้ไว้ โคตรจริงเลย

    ผลลัพธ์จากสมการ 1+2 ข้างต้น จึงออกมาเป็นภาพถ่ายความประหลาดเล็กๆ น้อยๆ ในที่ต่างๆ เต็มไปหมด บางคนก็สงสัยว่าถ่ายมาทำไม บางคนก็บอกว่า ของดีๆ ไม่ถ่าย มาถ่ายอะไรก็ไม่รู้

    แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือความสนุกในการถ่ายรูปของผมมากๆ ครับ
    เวลาออกรอบทีไร เหมือนเล่นเกมหาขุมทรัพย์ที่แฝงอยู่ตามซอกหลืบ ถ้าวันไหนดวงดี ไปขุดเจอเข้า ก็จะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปทั้งวัน

    และความแปลกประหลาดเหล่านี้มีอยู่ทุกที่ในโลก จึงไม่น่าแปลกใจ ที่พอไปที่ไหน ภาพก็ออกมาในทำนองเดียวกัน

    จริงๆ ก็ไม่ใช่ข้อเสียร้ายแรงอะไรมากนัก เพราะ ภาพส่วนใหญ่ มันคืองานอดิเรกที่จริงจังของตัวเอง แต่อาจจะลำบากเวลาจะโชว์ผลงานให้คนอื่นดูว่า เฮ้ย ภาพท่องเที่ยวที่สวยงามตามมาตรฐานนิยมเราก็ถ่ายได้นะ เชื่อสิๆ ;__;)/ (จริงๆ นะ ฮือ)

    ถ้าแบบนี้แปลว่า ไม่ต้องไปที่ไหนก็ได้สิ เพราะถ่ายออกมาก็เหมือนกันหมด แถมถ่ายออกมาก็ยังดูแทบไม่ออกว่าเป็นที่ไหน
    จะบ้าหรอ ยิ่งเป็นแบบนี้ ยิ่งต้องออกเดินทาง ออกไปเที่ยว ออกไปสำรวจโลกสิ

    น่าท้าทายจะตายว่า
    ที่ตรงนั้น มันจะมีความแปลกประหลาดให้ผมได้ไปสอยมาเก็บไว้ในกล้องไหม


    ดูภาพจากทริปที่ว่าได้ ที่นี่
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in