รูปพาสปอร์ตก่อนบิน ไม่ถ่ายไม่ได้จริงๆ 5555
เครื่องแลนด์ปุ๊ป รีบลากกระเป๋าผ่านตม.ไปหาคนขับรถที่นัดไว้หน้าร้านเบเกอรี่ใน Arrival Hall ซึ่งผลปรากฎว่าเราหาร้านนั้นไม่เจอค่ะ เดินไปเดินมาสักพักนึง สุดท้ายตัดใจไปถาม tourist center ที่คนเยอะมากเว่อร์ กว่าจะได้ถาม กว่าจะเจอ พอเจอเค้า ก็โดนบ่นเบาๆว่า too late หนูขอโทษ แง้
พวงมาลัยซ้ายครั้งแรกก็ตื่นเต้นแล้ว ทุกอย่างน่าสนใจไปหมด
นั่งรถประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงออฟฟิศ ที่ทำงานเราเป็น apartment เก่า จะแบ่งเป็นห้องๆไป นอกจากนี้ที่นี่เค้ามีกฏหมายเกี่ยวกับแรงงาน หรือ เกี่ยวกับสิทธิที่ค่อนข้างเข้มงวดมาก เช่น จะมีคนมาตรวจที่ออฟฟิศว่า ความสูงหน้าจอคอมพอดีสายตามั้ย เก้าอี้ห่างพอมั้ย แสงไฟ สภาพแวดล้อมต่างๆเหมาะสมกับการทำงานรึเปล่า โอ้โหหหห ความคุณภาพชีวิตที่ดีนี้ค่ะคุณ
ทักทายเพื่อนที่ทำงานหลายๆคน เค้าก็แนะนำออฟฟิศว่า ห้องครัว ห้องน้ำ โต๊ะทำงานเราอยู่ตรงไหน คนที่พูดอังกฤษไม่คล่องก็พูดเยอรมันแล้วให้คนที่พูดได้แปลให้เราฟัง เพราะความรู้ภาษาเยอรมันเราทั้งชีวิตตอนนั้นเท่ากับศูนย์ ไม่รู้อะไรเลยจ้าาา
เนื่องจากเราพึ่งมาถึง วันนี้เราเลยได้ day off ไม่ต้องทำงาน เย้!
ทักทายทุกคนเสร็จเรียบร้อยก็เก็บของไปที่พัก ที่อยู่ห่างจากออฟฟิศแค่หัวมุมตึก
เดินแค่ 10 ก้าวก็ไปทำงานได้แล้ว สวรรค์สำหรับคนชอบตื่นสายมีอยู่จริง
ที่เห็นขาวๆสูงๆซ้ายมือคือ Votive Church ซึ่งก็ใกล้ห้องแค่นี้ เลยกะว่าวันว่างๆค่อยเดินไปเที่ยว
ซึึ่งสุุดท้ายไม่ได้ไปค่ะ ฮืออ55555555
เก็บของเข้าห้องเสร็จเพื่อนที่ทำงานก็อาสาพาเราไปซุปเปอร์ใกล้ๆ เผื่อเราซื้อของมาทำกับข้าว
ซึ่งทำเป็นมั้ย .... ไม่เป็นจ้า
เค้าถามว่าจะซื้อเลยมั้ย เราก็ตอบเค้าไปว่ายัง อยากเดินมาซื้อเองตอนเย็น จะได้จำทางได้
ซึ่่งความเป็นจริงเมื่อเดิินเองคือ หลงจ้า555555
วันแรกไม่ได้เดินอะไรเท่าไหร่ เพราะเหนื่อย ล้า บวกกับ jet lag และอากาศหนาวประมาณติดลบถึงศูนย์องศา ซึ่งถือว่าหนาวมากสำหรับคนขี้หนาวอย่างเรา555555
นั่งๆนอนๆเล่นมือถือ คิดไว้ว่าพรุ่งนี้ค่อยไปเดินในเมืองแล้วกัน แต่แล้วความใจดีของเพื่อนที่ทำงาน
ที่สร้าง group chat ให้ และทักมาถามว่าเราว่างไปเดินดูเมืองพรุ่งนี้มั้ย จะพาเราเที่ยวพรุ่งนี้!
โอ้ยยยยย ความใจดีนี้ วันหยุดยังมาใช้เวลากับเราอีก
แน่นอนค่ะว่าตอบตกลงไปอย่างรวดเร็ว มีไกด์เราก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in