[EQ นั้นมีความสำคัญมากพอๆ กับ IQ ]
ในการดำเนินชีวิตแต่ละวันเราต้องใช้ทั้งเหตุผลและอารมณ์ควบคู่กันไป เพราะมนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างมาให้อยู่คนเดียว แต่ต้องอยู่ร่วมกันเป็นสังคม เราจึงต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
และเพื่อรักษาความสัมพันธ์นี้เอง ความฉลาดทางอารมณ์จึงมีบทบาทสำคัญในชีวิตของเรา
ความฉลาดทางอารมณ์ประกอบไปด้วยทักษะทั้ง 5 ข้อ ได้แก่
1. Self-awareness การตระหนักรู้ในตนเอง
การตระหนักรู้ในตนเองหมายถึงการรู้จักทั้งข้อดีและข้อด้อยของตัวเอง แล้วนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์
2. Self-regulation การควบคุมอารมณ์ของตนเอง
คิดก่อนพูดและคิดก่อนทำ หากคนเป็นผู้นำไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ก็คงไม่มีใครให้ความเคารพนับถือ การควบคุมอารมณ์เป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากเราจำเป็นต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น
3. Motivation แรงจูงใจ
หมายถึงการอยากประสบความสำเร็จ อยากบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยแรงจูงใจในที่นี้คือการเสริมสร้างมันขึ้นจากภายใน ไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก
4. Empathy การเห็นอกเห็นใจ
ต้องเข้าใจก่อนว่าไม่มีใครเหมือนกับเรา ทุกคนย่อมเผชิญกับเส้นทางที่แตกต่างกันไป หล่อหลอมให้เราทุกคนเป็นตัวเองเฉกเช่นทุกวันนี้ เราจึงจำเป็นที่จะต้องรับฟังความรู้สึกของผู้อื่น ทำความเข้าใจ และเห็นใจคนเหล่านั้น เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้
5. Social skill ทักษะทางสังคม
อาจกล่าวได้ว่าข้อนี้นั้นมีความสำคัญมากที่สุด เนื่องจากเราจำเป็นที่จะต้องมี connection เพื่อประสบความสำเร็จ เช่นในการทำงานกลุ่ม การทำงานเป็นทีม เราจำเป็นต้องมีทักษะการเข้าสังคมติดตัวไว้เพื่อใช้ในยามจำเป็น
ความฉลาดทางอารมณ์ไม่ใช่พรสวรรค์ แต่เป็นสิ่งที่สามารถฝึกฝนได้ ผู้เขียนมีหนังสือเล่มหนึ่งมาแนะนำ นั่นก็คือ
หนังสือ Permission To Feel โลกที่ผู้คนมีความฉลาดทางอารมณ์
“หากเราไม่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกและหาวิธีรับมือ มันจะเข้ามาครอบงำชีวิตเราอย่างที่เกิดขึ้นกับผมในวัยเด็ก ความกลัวและความวิตกกังวลทำให้ผมไม่สามารถแก้ไขปัญหาของตัวเอง ผมรู้สึกอ่อนเปลี้ยไปหมด”
“มีศาสตร์การทำความเข้าใจอารมณ์อยู่ เราไม่ได้เกิดมาพร้อมความสามารถพิเศษที่จะรับรู้ว่าตัวเราเองและคนอื่นๆ กำลังรู้สึกอะไรและทำไม เราทุกคนต่างต้องเรียนรู้ทักษะนี้”
ผู้เขียนอธิบายว่าความฉลาดทางอารมณ์คือ “ความสามารถที่จะเฝ้าสังเกตอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองและผู้อื่น แยกแยะอารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้นได้ และสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อนำทางการคิดและการกระทำของตน”
โดยหนังสือเล่มนี้จะบอกเล่าถึงดร.มาร์ค แบร็กเก็ตต์ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการศูนย์ความฉลาดทางอารมณ์ มหาวิทยาลัยเยล และหลักการ RULER หรือก็คือ แนวทางการเรียนรู้ด้านอารมณ์และสังคมโดยอิงหลักฐานเชิงประจักษ์
โดยทักษะ RULER ก็คือ
R - รับรู้อารมณ์
U - ทำความเข้าใจอารมณ์
L - ระบุอารมณ์
E - แสดงอารมณ์
R - ควบคุมอารมณ์
ทั้งนี้ยังมีการประยุกต์ใช้ทักษะทางอารมณ์เพื่อสุขภาวะและความสำเร็จสูงสุด ดังนั้นหากใครที่ต้องการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ของตัวเอง เราแนะนำหนังสือเล่มนี้ค่ะ เป็น non-fiction ที่เมื่ออ่านจบแล้วจะทำเราเข้าใจว่า ชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เมื่อเราเข้าใจและมีทักษะทางอารมณ์
*ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก The Standard Podcast
*เป็นการเขียนบทความครั้งแรกของเรา หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in