เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
One Shot StoryLilith
เรื่องลับที่ไม่น่ารู้
  • "ไม่มีความลับในโลก" ผมได้ยินใครบางคนเคยพูดไว้เช่นนั้น นับแต่นั้นมาไม่ว่าจะทำอะไร ผมจะเก็บสิ่งที่ไม่อยากให้ใครรู้ไว้กับตัวเองเท่านั้น ไม่ว่าภาระของมันจะหนักแค่ไหน ผมไม่เคยจะปล่อยมันออกไปเพื่อระบาย และผมคิดว่า..."ทุกคนต่างก็มีความลับของตัวเองกันทั้งนั้น"

    ผมก็เช่นเดียวกัน ผมไม่อาจประมาณได้ว่าความลับของผม หรือของคนรอบข้าง หรือของคนอื่นๆ ที่ห่างออกไปใครจะมีมากกว่ากัน แต่ผมมีความลับของผม ความลับมากมายที่ไม่เคยได้บอกใคร ยกเว้นการเขียนไว้ ณ กระดาษแผ่นนี้ ซึ่งมันคงจะถูกทำลายไปในภายหลัง เมื่อผมพบความสำเร็จในการสร้างสรรค์งานศิลปะอันงดงามเรียบร้อยแล้ว

    ผมคิดว่าเรื่องราวในจิตใจคนนั้นยากจะตักตวงหรือหยั่งถึง คุณอาจจะเคยเดินสวนผ่านกับผม เคยนั่งกินข้าวตรงหน้าผม เคยสัมผัสมือผมตอนที่คุณทอนเงินหรือส่งเอกสารให้ผม แต่ที่แน่ๆ คุณจะไม่มีวันรู้ว่าผมคิดจะทำอะไรอยู่ตอนนี้ 

    เช่นเดียวกับที่ผมเองก็คงไม่มีทางรู้ว่าตอนคุณเดินสวนผ่านตัวผม คุณจะรู้สึกเหม็นกลิ่นน้ำมันดินจนต้องย่นจมูกด้วยความรังเกียจ ตอนคุณกินข้าวตรงข้ามผมในโรงอาหาร...คุณอาจจะเกลียดการต้องนั่งอยู่ใกล้คนแต่งตัวกรรมกรใช้แรงงานที่มีรอยเปื้อนเขม่าเต็มตัว หรือกระทั่งตอนผมรับเงินทอนและทิ้งกลิ่นควันไฟไว้บนปลายนิ้วของคุณ คุณอาจจะรีบคิดว่าควรรีบไปล้างมือทันที

    ในเมื่อเรื่องราวในจิตใจคนนั้นยากจะตักตวงหรือหยั่งถึง
    ผมจึงเชื่อมั่นในปริมาตรการตวงดินปืนมากกว่า
    รวมถึงการกะปริมาณของน้ำมันก๊าซ ให้พอดีกับเส้นชนวน
    และการต่อวงจรไฟฟ้าที่ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ก็ยากที่จะเกิดปัญหา

    แต่ก็ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบหรอก ผมพลาดมาแล้วหลายครั้ง
    ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่ผมตั้งใจว่าจะไม่พลาดอีก ทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบ แม้แต่ปริมาณดินปืน น้ำมันก๊าซ ความยาวของสายชนวน ระบบวงจรที่ต่อมายังโทรศัพท์แบบพกพา ทุกอย่างที่มีความรุนแรงพอจะระเบิดทุกสิ่งทุกอย่างในระยะ 1 กิโลเมตรให้ราบคาบ ไม่ใช่เพียงแค่ทำให้รถทหารพลิกคว่ำ หรือแค่หน้าประตูห้างสรรพสินค้าเสียหาย คราวนี้ผมเลือกเป้าหมายไม่พลาด 

    ลึกลงไปใต้ดินซึ่งแทบไม่มีใครอยากลงมา ในท่อระบายน้ำเก่าๆ ทางเดินสายไฟใต้ดินระโยงระยางเป็นแนว บวกกับแรงอัดระเบิดที่คำนวณมาแล้วว่ามากพอจะทำลายรากฐานของสิ่งปลูกสร้างด้านบนให้ถล่มลงมา 

    ภาพของตัวตึกที่ค่อยๆ ยับย่นลงมาพร้อมควันสีขาว สีเทา สะเก็ดปูนซีเมนต์ที่กระจายออกดุจดังพลุไฟหลากสีบนท้องฟ้ากว้าง หรือการหดตัวของขี้ผึ้งที่ถูกหลอมละลายด้วยการเผาไหม้ไส้เทียน มันคืองานศิลปะของผม คือความสวยงามในแบบของผม คือความลับอันตรายในสายตาของคนอื่น แต่คือดนตรีอันไพเราะยากจะลบเลือนในสายตาของผม 

    เพียงแค่คิดก็แทบทำให้ผมหลั่งน้ำตาด้วยความปิติ ผมวาดฝันถึงตอนที่ตัวเองกดรหัสจากระยะที่ห่างไปหลายช่วงตึก เฝ้ามองผลงานซึ่งบรรจงสร้างและคำนวณมาอย่างดี และนับว่าเป็นผลงานชิ้นใหญ่นับแต่สร้างมาของผม แล้วก็จะถึงเวลาเกษียณตัวเองออกจากสิ่งเหล่านี้เสียที

    ไม่! ไม่สิ ผมคงไม่มีวันหยุดได้กับความลับอันตรายที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกในหัวของผม มันราวกับเมื่อผมเดินขึ้นบันไดขั้นแรกแล้ว ผมจะต้องอยากรู้ว่าขั้นต่อไปจะพาตัวเองสูงไปได้อีกแค่ไหน ขั้นบันไดเหล่านี้ราวกับไม่รู้จบ ผมจะต้องพาตัวเองก้าวต่อไป และก้าวต่อไป

    ผลงานชิ้นนี้คงเป็นอีกก้าวที่ยิ่งใหญ่ และผมจะต้องก้าวไปสู่ความยิ่งใหญ่ที่มากกว่า มันต้องเรียกว่ามโหฬาร เพียงแค่ผมมั่นใจว่าผมเตรียมทุกอย่างอย่างเงียบเชียบ ไม่มีใครรู้เห็น ความลับยังคงถูกรักษาไว้ในก้อนสมองของผมอย่างปลอดภัย รวมถึงกระดาษแผ่นนี้ ไม่ว่าความลับนั้นจะอันตรายแค่ไหน มันก็จะถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี

    ผมลากสายวงจร ต่อขั้วพวกมันเรียบร้อยแล้ว ตรวจเช็คว่าทุกอย่างยังไม่มีอะไรผิดแผน ก่อนจะถอยหลังมาดูภาพรวมอีกที นี่คงเป็นภาพสุดท้ายที่ผมจะได้เห็นพวกมัน เมื่อนั้นผมจึงเอื้อมมือไปเพื่อทดสอบแผงวงจรด้วยการกดรหัสลับที่ผมรู้เพียงผู้เดียวบนโลกใบนี้

    เมื่อนั้นผมจึงลุกขึ้นยืนจากจุดที่วางแผงวงจร มองประจุไฟฟ้าทำหน้าที่แสดงผลตรงหลอดไฟเพื่อบอกสถานะการจุดชนวน มันเรียบร้อยไม่มีที่ติ ผมว่าแล้ว! มันคือผลงานชิ้นใหม่อันยอดเยี่ยมและสมบูรณ์แบบที่สุดตั้งแต่ผมสร้างอะไรแบบนี้ขึ้นมา

    ผมมองตัวเลขที่นับถอยหลังจากหนึ่งนาที พร้อมกับเขียนถ้อยคำเหล่านี้ลงกระดาษอย่างรวดเร็ว เพราะผมจะทิ้งมันไว้ ณ ที่แห่งนี้ ที่ซึ่งจะพังทลายไม่มีชิ้นดี กระดาษแผ่นนี้คงจะถูกทำลายด้วยแรงระเบิดจนไม่เหลือซาก และความลับอันตรายของผม ก็จะยังคงเป็นความลับ 

    อา...เมื่อตัวเลขมาจนถึงสิบวินาที ผมเริ่มสัมผัสได้ถึงข้อบกพร่อง...ข้อบกพร่องที่ผมมีเวลาพอจะเขียนทิ้งเอาไว้ แต่แก้ไขไม่ทัน นั่นคือ...ผมทำงานครั้งนี้อย่างเรียบร้อยจนเกินไป จนลืมไปว่าไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ ไม่มีความลับใดในโลก รวมถึงความลับอันตรายในหัวของผม

    ผม...ผู้หลงลืมว่าได้ต่อสายชนวนระเบิดเรียบร้อยทุกเส้น และกดรหัสลับซึ่งมีผมเพียงผู้เดียวได้รับรู้ และนับถอยหลังสู่ภาพศิลปะที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ซ้ำอีกต่อไป เพราะความสมบูรณ์แบบอันไร้ที่ติ รวมถึงการเก็บความลับและทำงานแต่เพียงผู้เดียว 

    ผมจึงเป็นคนแรกที่ได้ลิ้มรสสัมผัสงานของผม
    ราวกับจังหวะเปิดจุกแชมเปญที่พวยพุ่งอย่างยากหยุดยั้ง

    ถึงตอนนี้ผมคงทำอะไรไม่ได้ นอกเสียจากระบายความภาคภูมิใจที่อาจไม่มีใครได้รับรู้ลงบนกระดาษแผ่นนี้ งานของผมสำเร็จแล้ว ทุกอย่างกำลังเดินไปสู่จุดมุ่งหมายของมัน ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ทุกอย่างช่างสมบูรณ์ ไร้ที่ติ และมันจะต้องงดงาม...มันจะต้องงดงามเป็นที่จดจำไปชั่วกาลนาน 

    จะมีคนพูดถึงผลงานของผม อาจจะเป็นอาทิตย์ อาจจะเป็นเดือน ยาวนานถึงปี หรือไกลไปมากกว่านั้น ผมคงไม่ทันได้รับรู้ เพราะนาทีนี้ ไม่สิ อีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า ผมก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะของผมเอง และนี่ล่ะมั้ง...คือการเกษียณออกจากอาชีพสร้างงานศิลปะของผม การที่ผมกลายเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ผมสร้างขึ้น กระนั้นเอง...

    และความลับอันตรายของผม ก็จะยังคงเป็นความลับใครว่าความลับไม่มีในโลก...ใครว่าไม่มีสิ่งที่สมบูรณ์แบบ...ผมคือความสมบูรณ์แบบหากคุณได้อ่านกระดาษแผ่นนี้อยู่ โปรดรู้ว่าผมกับความลับยัง......


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in