คอนเสิร์ตครั้งนี้ ใช้ชื่อว่า ACT III, M.O.T.T.E (Moment Of Truth The End) ซึ่งคำว่า MOTTE จะพ้องกับคำในภาษาเกาหลีที่ออกเสียงว่า "ม็อทเท" แปลว่า มดลูกของแม่ และยังหมายถึง "ตั้งแต่เกิด" อีกด้วย รูปแบบโชว์ในครั้งนี้จึงเป็นการบอกเล่าเรื่องราวต่างๆตลอดช่วงเวลาที่เขาเป็นศิลปินที่คนทั่วไปรู้จักในนาม G-DRAGON หรือ GD แห่งวง BIGBANG ซึ่งกว่าจะประสบความสำเร็จจนถึงจุดสูงสุด ชีวิตของผู้ชายที่ชื่อ ควอนจียง ต้องผ่านอะไรมาบ้าง
ต่อไปจะขอเล่าแบบเป็นกันเองแต่เก็บทุกเม็ดของความทรงจำละกันนะ จริงๆเราไปมาทั้งสองวันที่แสดงเลย แต่ขอเล่าตามลำดับของการแสดงทั้งสองวัน เมื่อการแสดงเริ่มขึ้น เสียงกรี๊ดของเหล่าวีไอพีก็ดังขึ้นพร้อมกับแสงจากอุปกรณ์ที่ชาวติ่งเรียกกันว่าแท่งไฟก็พร้อมใจส่องสว่าง รวมพลังเป็นทะเลมงกุฎสีเหลืองสัญลักษณ์ของวง BIGBANG (อันนี้สงสัยจะทางการไปนิด>///<) การแสดงเปิดตัวด้วยเพลง Heartbreaker ซึ่งเป็นเพลง Title จากอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของ G-DRAGON งานไฟ งานเอฟเฟ็กต์จัดเต็ม อลังการมาก นับเป็นการเลือกเพลงเปิดตัวได้เหมาะสมที่สุด เพราะเป็นเพลงที่ทำให้ G-DRAGON ได้แสดงในฐานะศิลปินเดี่ยวเป็นอัลบั้มแรก เรียกเสียงกรี๊ดจากวีไอพีทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ แฟนบอยแฟนเกิร์ลทุกคนต่างตื่นเต้นที่จะร่วมสนุกไปกับบทเพลงของเขาแล้ว จากนั้นก็ต่อด้วยเพลง Breath และ A Boy ตามลำดับ ซึ่งสามเพลงแรกก็ล้วนมากจากอัลบั้มเดี่ยวอัลบั้มแรกในชีวิตของ G-DRAGON
จากนั้นพ่อหนุ่มตัวเล็กก็จัดเต็มกับเพลงที่เริ่มแดนซ์ขึ้นมาหน่อยกับเซตเพลงต่อไปนี้ เริ่มจาก But I Love You ซึ่งเพลงนี้ใครร้องได้นับว่าเป็นวีไอพีรุ่นบ้านแดง เพราะเป็นเพลงโซโล่จากมินิอัลบั้ม Hot Issue เมื่อปี 2007 ซึ่งนานมากแล้วที่ GD ไม่ได้นำมาแสดงสด นับเป็นความประทับใจอย่างยิ่งที่ได้ฟังอีกครั้ง ต่อด้วยเพลง Obsession Michigo One Of A Kind และ R.O.D ซึ่งก็เรียกเสียงกรี๊ดจากเหล่าวายจีสแตน (ผู้สนับสนุนศิลปิน YG ค่ายเพลงที่ GD และวง BIGBANG สังกัดนั่นเอง) เพราะน้องรักของพี่จียงอย่าง CL หรือ CL อดีตสมาชิกวง 2NE1 ได้มาร่วมฟีทเจอริ่งผ่านจอสกรีน ซึ่งมาแค่ภาพยังขนาดนี้แล้วถ้าตัวจริงมาจะขนาดไหนคิดดูสิ เรานี่ก็กรี๊ดเป็นบ้าเป็นหลังเพราะชอบ CL มากกกกกกก เช่นกัน แถมยังเป็น Skydragon shipper ตัวยงด้วยนะ (คืออะไรไม่บอกละกัน^^)
หลังจากแดนซ์ไปพอหอมปากหอมคอพร้อมกับชมเอฟเฟกต์ไฟตระการตาเป็นระยะๆ GD ก็ขอพักด้วยการส่งเข้าเซ็ตเพลงช้า นั่งฟังสบายๆให้เหล่าวีไอพีได้พักเหนื่อยกันบ้าง ส่งเข้าด้วยเพลง That XX ซึ่งเหล่าผู้ชมทั้งอิมแพคอารีน่าพร้อมใจกันร้องอย่างทรงพลัง ศิลปินคนที่นั่งอยู่บนเวทีได้ฟังก็คงชื่นใจไม่แพ้กัน ต่อด้วยเพลง Black ที่ได้ลูกสาวจากวง BLACKPINK อย่างน้อง Jennie ซึ่งตอนนั้นยังเป็น Jennie Kim เทรนนีหญิงของ YG มาร่วมฟีทเจอริ่งในเพลงนี้ และถึงแม้ในการแสดงคอนเสิร์ตเธอจะมาแค่เสียงร้อง แต่ก็ทำให้เพลง Black สื่ออารมณ์ออกมาได้ดีไม่แพ้กัน ต่อด้วยเพลง Missing You เป็นเพลงที่เรารักมากๆ เพลงช้าๆเหงาๆฟังสบาย และได้เสียงร้องหวานๆของ Kim Yuna นักร้องนำวง JAURIM(จาอูริม) สุดยอดวงร็อควงหนึ่งของเกาหลีใต้มาทำให้เพลงดูหน่วงขึ้นไปอีก เพลงนี้ทำให้เรามีความสุขทุกครั้งที่ได้ฟัง และขอบคุณพี่จียงมากๆที่นำเพลงนี้มาร้องตั้งแต่ World Tour เมื่อปี 2013 แล้ว จากนั้นก็สนุกไปกับเพลง Who You ที่ทุกคนลุกขึ้นมาโยกกันอีกครั้ง เป็นเพลงฮิตอีกเพลงที่ได้ยินเสียงร้องลั่นฮอลล์ของเหล่าคนดู แต่เรานั้นนั่งยิ้มเพราะร้องไม่ได้ :) แต่เพลงต่อไปนี่สิ ชั้นจะร้องให้สุดเสียง เพราะเป็นเพลงโปรดเลย เป็นครั้งแรกที่ GD นำมาร้องในคอนเสิร์ตอีกด้วย เพลงนั้นมีชื่อว่า I Love It ซึ่งก็ได้ Zion.T ศิลปิน R&B เกาหลีใต้มาร่วมร้อง และ Boys Noize นักดนตรีชาวเยอรมันในการร่วมทำดนตรีอีกด้วย เพลงนี้เราสนุกมากๆ ร้องเต็มที่ และแอบบอกว่าส่วนตัวก็ปลื้ม Zion.T ด้วยไง ^^
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in