⌛
ไม่รู้จะเริ่มยังไงดีเลย ห่างหายจากการรีวิวคอนเสิร์ตไปนานพอสมควร (พอๆกับที่ไอยูไม่ได้เล่นคอนมาสามปีเลยค่ะ) แต่อยากจะเริ่มจากการตัดสินใจไปคอนในครั้งนี้ของเราเลยค่ะ
ตอนแรกเราไม่มั่นใจมากๆว่าจะไปหรือไม่ไปดี เพราะว่าเพิ่งกลับมาจากทริปเกาหลีเมื่อกลางปี ไปเที่ยวสิงคโปร์มาอีกเดือนที่แล้ว เงินหมดแหละค่ะ 55 บวกกับต้องเตรียมตัวไปเรียนต่อในปลายปีนี้ ทามไลน์ชีวิตยุ่งสุดๆ แต่ก็วอแวกับตัวเองประมานนึง เพราะถ้าไปอีกทริป เงินจะหมดแล้วนะ ไม่มีเงินเก็บแล้วนะ จะเสียใจมั้ยถ้าทำแบบนั้น จะยอมแลกมั้ย อะไรประมานนั้น แถมไปวอแวปรึกษาเพื่อนอยู่เป็นอาทิตย์ (สงสารเพื่อนมาก55) จนเพื่อนถามมาประโยคนึงว่า ‘มึงจะเสียใจที่มึงไป หรือเสียใจที่ไม่ได้ไปมากกว่ากัน’ เท่านั้นแหละค่ะ กดจองตั๋วบินเลยทันที พร้อมกดบัตรวันที่18ไปเลย Go Go!
ออกตัวก่อนเลยว่า ที่กดบัตรวันที่18/09/22วันเดียวเพราะว่า... ซื้อบัตรอัพค่า 555 ไม่ได้สมัครเมมเบอร์ชิพรอบนี้เพราะชะล่าใจแท้ๆ T____T และกดบัตรรอบธรรมดาไม่ได้ (ใครจะทำได้? คนทำได้แสดงตัวที /พี่ลี่ยกมือ??) รอกดบัตรหลุดอยู่ทุกวันทั้งวันเฝ้าหน้าจออยู่ไม่เป็นอันทำอะไรทั้งหมด 8 วันเต็มๆ จนแบบ ไม่ไหวละ ชั้นไม่ต่อสู้ละ ซื้อเลยเหอะจบๆ สรุปก็คือเลือกเป็นวันครบรอบเดบิวต์ 14 ปีของไอยู และเป็นวันที่เก็งว่าเจย์ปาร์คจะมาขึ้นเป็นเกสท์ค่ะ
เข้าเรื่องเลยแล้วกันเนอะ เกริ่นนานเกินละ
รีวิวรอบนี้ไม่รู้ว่าจะทำได้ดีเท่าเดิมมั้ย เพราะกว่าจะได้มาเริ่มเขียนคือทิ้งไว้สองอาทิตย์เต็มๆเลยค่ะ(ตอนนี้ผ่านมาสองเดือน) จะพยายามย้อนกลับไปวันนั้นให้ได้มากที่สุด + อาจจะจำ ment ของไอยูไม่ได้ทั้งหมด VCR ในแต่ละองก์ด้วยค่ะ แต่จะเล่าเท่าที่จำได้เลยนะคะ
18 September 2022
IU’s 14th Anniversary
ตั้งแต่เข้ามานั่งในฮอลล์ก็รู้สึกขนลุกแล้วเพราะว่าจัมชิลโอลิมปิคฮอลใหญ่มากอย่างที่เราทราบกัน วันนึงที่จุคนเข้ามาดูก็ประมาน 45,000คน สองวันก็จะเป็น 90,000 คน เรารู้สึกท่วมท้นตั้งแต่เห็นที่นั่งเต็มทุกที่นั่ง ขนาดที่จัดในฮอลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศแล้วก็ยังมีคนที่กดบัตรไม่ได้ มียูแอนาที่ออกมานั่งรอฟังนอกฮอลก็ยังมี สิ่งนี้ทำให้เราคิดกับตัวเองอยู่เสมอว่า จากวันแรกที่ชอบเขา ก็ไม่คาดฝันว่าจะมีจุดนี้ เหมือนเป็นสิ่งที่เราไม่กล้าคิด จากวันนั้น มีแฟนคลับอยู่แค่หยิบมือ จนวันนี้มีคนมากมายที่มอบความรักให้กับเขาอย่างล้นหลาม มันทำให้เราภูมิใจในตัวไอยูมากจริงๆค่ะ เราเริ่มชอบไอยูตอนสมัยDream High ช่วงนั้นคิดว่าจุดพีคที่สุดของเขาคือ Good Day แล้ว แต่มาวันนี้ ยัยตัวเล็กของเราคนนี้ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า สำหรับศิลปินที่ชื่อไอยู หรือนักแสดงที่ชื่อลีจีอึน เธอยังบินได้สูงกว่านี้ และรักษามาตรฐานที่สร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเธอให้คงที่อย่างไม่มีวันลง มีหลายครั้งที่เราก็ยังแอบคิดอยู่นะว่า หนทางการเป็นศิลปิน มีขาขึ้นวันนึงก็คงมีขาลง แต่เขายังคงเซอร์ไพรส์เราในทุกๆผลงานที่ออกมา ว่าวันนั้นมันอาจจะไม่มีวันมาถึงสำหรับศิลปินที่ชื่อไอยูเลยก็เป็นได้
และแล้วก็ได้เวลาเริ่มคอนเสิร์ตค่ะ นาฬิกาทรายสีส้มตั้งอยู่กลางเวที เป็นเหมือนกับการนับเวลาถอยหลัง พร้อมเสียงบรรเลงของหีบเพลงเหมือนบทเพลงกล่อมนอน เราสังเกตุเห็นดีเทลตรงไฟบนเวทีที่ค่อยๆไล่แสงสีส้มจากซ้ายไปขวาเหมือนเป็นการนับถอยหลังเวลาเริ่มคอน เราว่าตรงนี้ทีมงานคิดมาได้ดีมาก เพราะเนื่องจากฮอลล์ใหญ่มาก และอย่างที่เรารู้กันว่าไอยูให้ความสำคัญกับเวลาเสมอ ทุกตัวเลขคิดมาอย่างดีแล้ว โดยเฉพาะเวลาเริ่มและจบคอนของ The Golden Hour นี้คือ 19.00-22.00 น. ไอยูอยากให้ทุกคนได้อยู่ใต้แสงของพระอาทิตย์สีส้มร่วมกัน การนับถอยหลังด้วยวิธีเปิดเพลงและไล่สีไฟบนเวทีนี้เหมือนเร่งให้คนเข้าที่นั่งของตัวเองได้ทันเวลาก่อนไอยูเริ่มร้องได้พอดิบพอดีเลยค่ะ
1부 :: องก์ที่ 1
เมื่อแสงสีส้มสว่างขึ้นจนเต็มทั้งหมด VCR แรกก็เปิดขึ้นมา สำหรับเรา รู้สึกว่าVCRนี้ต่างจากคอนอื่นที่มีเรื่องราวในแบบของตัวเอง อย่างตอน dlwlrma เป็นโลกแฟนตาซีที่ร้อยเรียงเพลงต่างๆเข้าด้วยกัน Love poem เป็นการรวบรวมบทกวีแห่งรักในรูปแบบต่างๆ แต่ The Golden Hour นี้เปนเหมือนการเล่าเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมา ราวกับกับผู้ชมได้เป็นผู้โดยสารที่ร่วมเดินทางในรถไฟขบวนสุดท้ายของวัย20sของไอยู VCRแรกนี้เป็นการเล่าเปิดของโลกในนิทานของเด็กคนนึงที่อยู่ที่ริมทะเล ถือนาฬิกาทรายซึ่งเป็นสื่อกลางของนิทานและความจริงเอาไว้ เราอาจจะแปลไม่ออกทั้งหมด และอาจจะเป็นการเดาเอาเองว่าคนแต่งเรื่องนี้ต้องการจะสื่ออะไรนะคะ แต่สิ่งที่เราจินตนาการต่อจากภาพที่เรารับรู้เป็นประมานนี้
และอย่างที่ทุกคนเห็นกันในคลิปไลฟ์ของเพลง eight ตั้งแต่เสียงไอยูร้องมาคำแรก เราก็ร้องไห้ออกมาเลยค่ะ การที่มองไปบนเวทีแล้วได้เห็นเขาอยู่บนนั้น การที่ได้นั่งอยู่ในนี้ ร่วมเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ไปกับไอยู ทำให้เรารู้สึกว่าคิดถูกทุกอย่างที่ยอมแลก เทหมดหน้าตักในการมาที่นี่ มันคุ้มค่าและจะเป็นคอนเสิร์ตที่ประเมินค่าไม่ได้สำหรับเรา ตอนที่ไอยูร้องเพลง เห็นเลยว่าน้ำตาคลอ ถึงเราจะร้องไห้นำไปก่อนแล้วก็ตาม55 รู้สึกเหมือนหัวใจของทั้งไอยูและยูแอนามัน sync ถึงกันเลยค่ะ สายตาและรอยยิ้มของเค้าที่มองพวกเราที่ไม่ได้เจอกันแบบนี้มาสามปี และความรู้สึกของเราที่อยากเจอเขามากๆ ผสมกับความภูมิใจในตัวเขาสร้างเสตจแรกของ eight ที่ทั้งเราและไอยูเฝ้าฝันถึงให้ออกมาสมบูรณ์แบบมากจริงๆค่ะ
มันจะมีท่อนนึงในเพลงนี้ ที่ทำให้เราร้องไห้ได้ทุกครั้งที่ฟัง คือท่อนที่ไอยูร้องว่า ‘우리는 서로를 베고 누워, 슬프지 않은 이야기를 나눠, 우울한 결말 따위는 없어, 난 영원히 널 이 기억에서 만나, Forever young’ ‘พวกเราล้มตัวลงนอนข้างกันอยู่บนเบาะ แลกเปลี่ยนเรื่องราวที่จะไม่เจ็บปวดอีกต่อไปของกันและกัน ตอนจบที่น่าเศร้าเหล่านั้นจะไม่มีอีกแล้วนะ เพราะพวกเราจะมาพบกันในความทรงจำนี้ตลอดไปไงล่ะ’
เราทุกคนรู้อยู่ในอกว่าเพลงนี้คือเพลงที่มอบให้ซอลลี่ เหมือนท่อนนี้เป็นท่อนที่เตือนใจเราอยู่เสมอว่าการจากไปของเธอนั้น ไม่ได้เจ็บปวดน้อยลงเลยแม้แต่น้อยตั้งแต่วันนั้น แต่การได้เห็นไอยูผ่านมาได้ และเห็นเขาร้องเพลงนี้ได้อย่างมั่นคงอยู่บนเวทีตรงหน้าเรานี้ มันทำให้เรานับถือในความเข้มแข็งของเขามากๆ
เพลงต่อมาคือ Celebrity เป็นอีกเพลงที่มอบให้ซอลลี่ค่ะ ตอนที่นั่งฟังพร้อมร้องเพลงไปพร้อมกับไอยู นอกจากจะมีความรู้สึกภูมิใจในตัวไอยู ทั้งความรู้สึกคิดถึงซอลลี่ สิ่งที่เราคาดไม่ถึงเลยคืออยู่ดีๆก็รู้สึกรักและภูมิใจในตัวเองขึ้นมาค่ะ55 คงเป็นเพราะไอยูได้มอบเพลงนี้ให้เราทุกคน ที่เป็นดวงดาวในแบบของตัวเอง เราได้มองเห็นดวงดาวตั้งเกือบ5หมื่นดวงในวันนี้เลยเชียวค่ะ สมกับที่เป็นเพลงที่ไม่ว่าจะฟังเมื่อไหร่ ก็รู้สึกโชคดีที่ได้เกิดมาใช้ชีวิตที่น่าสนุกนี้แบบที่ไอยูบอกเลย
(จนถึงเพลงนี้ก็ยังร้องไห้อยู่เลยค่ะ หยุดร้องไม่ได้อ่ะ555)
Dwlrma ไอยูเปลี่ยนจากชุด uniform สีขาว เหลือแต่เดรสชีฟองนุ่มฟูด้านใน น่ารักเหมือนกับเจ้าหญิงเลยค่ะ สเตจนี้คือได้เห็นเลยว่าทีมโปรดัคชั่นเค้าเตรียมตัวกันมาหนักมาก ใช้แดนเซอร์เยอะมากที่สุดเท่าที่เคยใช้มา เติมเต็มเวทีนี้ได้อย่างที่ไม่ดูรกเกิน ต้องยกเครดิตให้พี่โยฮันฝ่ายCheoreograph Director เลยค่ะที่ใช้แดนเซอร์เยอะขนาด Mega Crew แต่ไม่ได้แย่งซีนและไม่ดูรกเลย ทั้งฝ่ายคอสตูมด้วยที่แบ่งเฉดเสื้อแดนเซอร์เป็นกลุ่มๆ ทำให้มองเห็นได้ง่ายขึ้น นอกจากจะได้ดูโชว์จากไอยูแล้วเหมือนได้มาดูบรอดเวย์หรือดูลาลาแลนด์liveไปด้วยเลยค่ะ คุ้มค่าสุดๆ
Every end of the day เพลงสดใสที่อยู่ในท้อปลิสเพลงโปรดของเราค่ะ ยังมีแอบร้องไห้อยู่นิดนึง (อีกละ) เพราะเป็นเพลงที่ปล่อยมาหลังจากที่ไอยูพักงานไปอยู่ช่วงนึง เป็นการกลับมาที่สำคัญกับเรามากๆ และเป็นจุดเริ่มต้นของไอยูที่แข็งแรงสดใสและเข้มแข็งมาถึงตอนนี้ค่ะ คิดไปถึงช่วงนั้น สมัยออกเพลงนี้มา ยังรู้สึกว่าอยากให้เค้าได้รับความรักเยอะๆอยู่เลย มาวันนี้เค้าได้รับความรักจากคนทั้งโลก มีคนชอบเค้าเยอะขนาดนี้เลยนะ ภูมิใจมากๆ ดีใจมากที่พี่ลี่ยังไม่Grad เพลงนี้ออกจากลิสท์ ฮือ
แอบแซวว่าพี่จินูเล่นใหญ่รัชดาลัยมาก เพราะสเกลคอนมันใหญ่อยู่แล้วด้วยแหละ มารอบนี้แอคติ้งคือสุดทุกทาง อยากกราบเอเนอร์จี้พี่เขามาก เล่นใหญ่จนไอยูขำแบบเหนื่อยใจ แบบมองพี่จินูว่าพอยังอ่ะ แต่พี่เขาก็ยังไม่พอ5555
Meaning of You และ Friday เป็นเพลงที่เราเริ่มหยุดร้องไห้และเอ็นจอยมองไอยูได้เต็มสองตาแล้วค่ะ ก่อนหน้านั้นมองเบลอๆไม่มีสติ+น้ำตาบัง55
Palette ทำเราเริ่มร้องไห้อีกรอบ555 (นี่มันบันทึกน้ำตาหนึ่งล้านลิตรรึเปล่า?) ไม่ได้ร้องไห้เพราะเศร้าที่ไอยูจะร้องเพลงนี้ในคอนเสิร์ตเป็นครั้งสุดท้ายหรอกนะคะ ลึกๆเราแอบเสียดายอยู่เหมือนกัน แต่เคารพในทุกการตัดสินใจของเค้าเสมอ อ่ะ กลับมาก่อน เหตุผลที่เราร้องไห้ในเพลงนี้เป็นเพราะรู้สึกคาดหวังถึงตัวเองในวัย25ปีค่ะ นั่นคือปีหน้าที่จะถึงนี้แล้ว เราเกิดคำถามกับตัวเองว่า จะมีอะไรหลายอย่างที่เราคาดหวัง แล้วจะผิดหวังเหมือนวัย23รึเปล่านะ แต่สิ่งนึงที่ทำให้เราผ่านมาได้เสมอ คือเพลงของเค้าค่ะ ทุกปีที่อายุเพิ่มขึ้น และทุกครั้งที่ได้เจอไอยู รู้สึกว่ากลายเป็นคนที่ดีขึ้น เหมือนกับว่าเราค่อยๆเข้าใจชีวิตผ่านเนื้อเพลงของเค้า ปล่อยวางผ่านดนตรีของเค้า ไม่ใช่แค่ความคิดที่โตขึ้น แต่ไอยูทำให้เราคาดหวังในอนาคตของตัวเองไปพร้อมๆกับเธอด้วยค่ะ สมกับที่ 나의 청춘은 역시 아이유다 ‘วัยเยาว์ของฉัน ก็คือไอยู' จริงๆค่ะ
2부 :: องก์ที่ 2
ช่วงที่สองของคอนเสิร์ตเปิดมาด้วย VCR ของเด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่ริมทะเลเช่นเคยแต่ในบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากขึ้น เหมือนนั่งเล่นอยู่ท่ามกลางแสงแดดคลอไปกับคลื่นทะเลที่ซัดอย่างสม่ำเสมอ ดูสดใส เปี่ยมด้วยความหวัง และพร้อมที่จะผจญภัย
Strawberry Moon และแล้วเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง บอลลูนยักษ์สีชมพูที่สั่งทำพิเศษเป็นลายพระจันทร์ค่อยๆส่งแสงวูบวาบลอยออกมาจากด้านหลังเวทีค่ะ รับรู้ได้ถึงความใส่ใจของไอยูที่อยากเข้าใกล้แฟนคลับทุกคนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างที่เราทราบว่าปกติในคอนเสิร์ตที่ผ่านมา จะมีช่วงที่ไอยูจะวิ่งไปรอบๆฮอลเพื่อ interact กับแฟนๆในทุกโซนค่ะ จริงๆไม่ได้expectสิ่งนี้เลย เพราะถ้าให้วิ่งคงจะเหนื่อยมาก แต่สุดท้าย ในคอนเสิร์ตฮอลล์ที่ใหญ่ขนาดนี้ เธอก็ยังคงหาวิธีในแบบของตัวเอง(พุ่ง)เข้าหาแฟนคลับอยู่ดี เพลงนี้กินเวลาอยู่นานเพราะต้องวนบอลลูนรอบนึง เราอยู่ในโซนที่ใกล้บอลลูนตอนผ่านสแตนพอดีค่ะ เห็นถึงความพยายามของทีมงานและไอยูที่ทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้จริงๆ มีคนลากอยู่น่าจะราวๆสิบคนได้ มีคนควบคุมบอลลูนอีกหนึ่งคน และบอลลูนยังเชื่อมสลิงกันไว้เป็นเซฟตี้อีกชั้น แถมไฟของบอลลูนยังระอุแผ่มาถึงคนดูด้วยเลยนะ คนที่ยืนอยู่ในนั้น (ไอยูและคุณพี่คนควบคุม) จะต้องร้อนมากๆแน่เลยค่ะ ;-; มันคือสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของทีมงานและไอยูล้วนๆเลยค่ะ ใครจะคิดว่าจะเกิดสิ่งนี้ขึ้นได้จริงในคอนด้วย555 เราได้มองเห็น strawberry moon ร่วมกันอย่างที่ฝันไว้แล้วนะ!
Hold My Hand เพลงชาติเกาหลีอีกเพลงที่แมสเพราะความน่ารักของคุณเขา เป็นเพลงที่ไอยูแต่งตั้งแต่ตอนอายุ 17 และได้รับความรักอย่างมากมายตอนอายุ 27 ไอยูบอกว่าดีใจมากๆเลยที่ทุกคนร้องกันได้เสียงดังกันหมดเลย จะไม่ร้องดังได้ไง คุณพี่น่ารักเบอร์นี้ ร้องสุดเสียงไปเรยสิคะ
Blueming ไม่ต้องพูดอะไรเยอะเลยค่ะ น่ารักสดใส อินเลิฟ สนุกเหมือนเคย
Last Night Story พี่จินูมันส์มากอีกแล้ว ใส่ไม่ยั้งกันเลยพี่ๆแดนเซอร์ทุกคนด้วย
Good Day ที่ได้ดูรอบนี้ เป็นเพลงที่ขนลุกมากกว่าทุกครั้ง อาจจะเพราะเป็นครั้งสุดท้ายของการได้ฟังเพลงนี้สดๆแล้วด้วย ทำให้รู้สึกnostalgiaขึ้นมา คิดย้อนไปถึงช่วงแรกที่ชอบไอยู ทั้งที่คิดว่าเพลงนี้คือจุดพีคที่สุดของไอยูแล้ว แต่มันกลับไม่ใช่ คิดอยู่ในใจว่าเค้าคือคนที่ไม่มีขาลงรึเปล่านะ? ในทุกๆผลงานที่ทำออกมา เค้ามีแต่จะทำลายสถิติตัวเอง ไม่ต้องแข่งขันกับใคร ค่อยๆบินขึ้นไปอยู่ในที่ที่สูงมากขึ้นไปเรื่อยๆจนเราจินตนาการไม่ออกเลยว่าจะไปสุดที่ตรงไหน
รถไฟขบวนสุดท้ายของวัย20s ได้มาถึงแล้วค่ะ นั่นก็คือเพลง LILAC จริงๆขอสารภาพว่าไม่ได้เทสท์สไตล์ของเพลงนี้ขนาดนั้น แต่เข้าใจไอยูว่าอยากกลับไปทำเพลงแนวที่เคยทำในช่วงวัย20เป็น last farewell แต่พอมาได้ดูperformanceเพลงนี้สดๆแล้วรู้สึกผิดไปเลยที่ไม่ค่อยเห็นน้องไลแลคอยู่ในสายตาเท่าไหร่ น้ำตาคลออีกแล้วเพราะเค้าสดใสมากๆ เปล่งประกายอย่างที่เป็นมาตลอด แต่คราวนี้บนเวที ทำให้เรารู้สึกว่ามันคือความเปล่งประกายที่สุดจริงๆ The golden moment ของคอนนี้ยกให้เพลงนี้เลยค่ะ สมมงแล้วที่เป็นซิงเกิ้ลทิ้งทวนวัยยี่สิบ
GUEST: JAY PARK (Joah, GANADARA (with. HOLYBANG, MVP))
จริงๆ ที่เราเลือกมาคอนในวันนี้เพราะคาดไว้แล้วว่าเจย์ปาร์คต้องมา ทั้งเจย์ปาร์คและไอยู ทั้งสองคนเป็นเมนที่เราตามมาตลอดเกือบ14ทั้งคู่ นอกจากเขาสองคนจะเห็นหน้าค่าตากันมาแล้วเกินครึ่งชีวิต เราก็ได้ใช้วัยเยาว์ทั้งหมดของเราในการติ่งผู้ชายและผู้หญิงคนนี้ค่ะ แค่เจย์ได้ร่วมงานกับไอยูเราก็ถือว่ามันเป็นที่สุดของชีวิตแล้วที่ได้เห็นเมนสองคนทำงานด้วยกัน ยิ่งไปออกรายการพาเลตก็กรี้ดบ้านแทบแตก วนดูเช้าเย็น5555 และที่บินมาถึงตรงนี้ก็เพราะอยากเหนสเตจกานาดาราสักครั้งด้วยตาตัวเอง อยากเห็นทั้งสองคนร้องด้วยกันสดๆซักครั้งแต่ก็น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาส(เพราะไอยูต้องสลับไปเปลี่ยนชุด;__;) เรารู้สึกได้เลยว่าเจย์นับถือไอยูมาก เพราะถึงตัวเองจะโตกว่าและเรียกได้ว่าเป็นรุ่นพี่ (เจย์เดบิ้วต์วันที่ 04/09/08 ไอยูวันที่ 18/09/08) แต่สัมผัสได้ว่าไอยูจะเปนคนที่เจย์ให้ความเคารพและให้เกียรติเสมอค่ะ อย่างที่เจย์พูดเลย คุณไอยูไม่ใช่กุกฮิปวันท้อป* แต่เป็นวันท้อป(ของการเป็นศิลปิน)เลยต่างหาก การที่ได้เห็นเจย์ได้ขึ้นแสดงบนเวทีใหญ่ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ทำให้เราภูมิใจอีกเหมือนกัน เขาทั้งสองคนสำหรับเรา deserved to be love ในระดับที่ยิ่งใหญ่เท่าโอลิมปิคฮอลล์เลยนะ ดีใจกับเจย์มากๆที่ได้รับโอกาสนี้จากไอยู TuT ถึงแม้เราจะเจอเจย์ที่ Hiphopplaya ไปแล้ววันที่ 17 แต่ก็ตัดสินใจถูกจริงๆค่ะที่มาวันนี้
*국힙원탑กุกฮิปวันท้อป : เป็นวลีที่คนในวงการฮิปฮอปยกย่องให้ไอยูเป็นเบอร์หนึ่งของวงการฮิปฮอปค่ะ จะได้เลิกเถียงกันเวลาถามว่าใครเป็นฮิปฮอปเบอร์หนึ่ง ถ้าบอกว่าเป็นไอยู ใครจะกล้าอยู่เหนือกว่านั้นกันล่ะคะ?
3부 :: องก์ที่ 3
VCR รอบนี้จะเป็นฉากของไอยูที่กลับมาที่ห้อง หลังจากวันที่ยุ่งจนไม่ได้พัก ดูอ่อนล้าเหน็ดเหนื่อย เธอกลับห้องมานั่งคิดนั่งทำงานอะไรอยู่คนเดียว ฉากถูกเซ็ตให้เหมือนห้องนอนไอยูจริงๆ เหมือนได้สัมผัสอารมณ์ความรู้สึกของตัวเธอที่อยู่ในห้องนั้น เธอฟุบลงกับโต๊ะ บางทีก็นอนไม่หลับ ลุกขึ้นมาทำงาน แต่บางทีก็เผลอหลับไปทั้งอย่างนั้น
อาการนอนไม่หลับของไอยูเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ทำให้เรารู้สึงโหวงในใจ สงสารไอยูมากที่ต้อง sufferกับสิ่งนี้ เพราะเราเองก็กำลังเผชิญมันอยู่เช่นกัน เราเข้าใจดีว่ามันทรมานมาก บางวันที่เรานอนไม่หลับจนถึงขั้นนั่งร้องไห้เลยก็มี แต่ขนาดไอยูต้องเจอกับอาการนี้ เธอก็ยังมองหาข้อดีของมัน แนะนำคนนอนไม่หลับว่าถ้าตื่นแล้วก็ทำงานซะเลย เผื่อจะเหนื่อยแล้วหลับไปเอง (เป็นสิ่งที่ไม่ได้ทำตามค่ะ เพราะว่าเป็นคนขี้เกียจ55)
และเพลงเปิดแรกของช่วงบัลลาดเป็นKneesค่ะ เพลงนี้ทำให้คิดถึงคุณยายที่เพิ่งเสียไปมาก เราร้องไห้อีกครั้งด้วยความรู้สึกผิด เสียใจ คิดถึง มันผสมกันไปหมด
หลังจากนั้นคือ Winter Sleep เป็นเพลงที่เราไม่สามารถฟังจนจบได้เลยหลังคุณยายเสีย แต่วันนี้ได้มาฟังแบบสดๆและฟังจนจบ แต่ละท่อนมันเหมือนพาเราไปตอนที่ยังอยู่กับเค้า มันเด่นชัด แต่ก็นึกได้ว่ามันจะไม่มีวันชัดแบบนั้นอีกแล้ว สิ่งดีๆที่เราได้รับในวันนี้ และที่จะเกิดในอนาคต สิ่งที่เค้าจะต้องภูมิใจแน่ๆ เค้าไม่ได้รับรู้แล้ว ทำให้เราร้องไห้หนักกว่าเดิม รู้สึกตัวเลยว่าทรมานมาก เพราะร้องไห้จนกัดฟันเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเอง (แอบเกรงใจคนข้างๆนะ ถ้าเขาสังเกตเห็นชั้น เขาคงงงว่าจะร้องอะไรนักหนา55)
จนมาถึงเพลง Only I didn't know เราจึงเริ่มค่อยๆดีขึ้นค่ะ
หลังจากนั้นไอยูมีเม้นขอบคุณเจย์ปาร์คเล็กน้อยถึงการมาเป็นเกสท์ให้จากที่สัญญากันไว้ในรายการพาเล็ตค่ะ ขอบคุณคุณแจบอมที่ช่วยมาร้องเพลงให้ถึงขั้นที่ไอยูสามารถถักเปียออกมาเจอทุกคนได้เลยนะ ไอยูยังบอกกับยูแอนาอีกว่า ถ้าหากแฟนๆได้เจอกับคุณแจบอมข้างนอก อยากให้ฝากความขอบคุณไปบอกเขาด้วยค่ะ
ถัดมาคือเพลงชาติอีกเพลงของไอยูนั่นก็คือ Through the Night ค่ะ ถ้าหากใครจะคิดถึงเพลงชาติของไอยู หลายคนอาจจะบอกว่าเป็น Good Day แต่ในความรู้สึกของไอยูนั้น เพลงที่เป็นตัวเองที่สุด และได้รับความรักอย่างมากมาย ก็คือเพลงนี้นั่นเองค่ะ
สิ่งเดียวที่เราอยากให้คนที่รัก โดยเฉพาะไอยูได้รับในทุกๆวันนั่นคือการนอนหลับ อาจจะไม่ต้องถึงขั้นฝันก็ได้ อยากให้เขานอนหลับก็พอ เพราะเราเข้าใจดีว่าการนอนไม่หลับมันทรมานแค่ไหน
เมื่อจบเพลง มีโดรนที่ลักษณะเหมือนกับหิ่งห้อยบินออกมาจากกลางเวที บินวนรอบฮอลล์และไปรวมกับฝูงโดรนที่ลอยอยู่บนฟ้า วงออเครสตร้าเริ่มบรรเลงขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในเพลง Last Fantasy อย่างที่เราเห็นกันว่าโดรนบินเป็นรูปต่างๆ มันดูยิ่งใหญ่มากๆ อย่างกับพิธีเปิดโอลิมปิคเลยค่ะ อยากรู้จริงๆว่าที่ทำคอนเสิร์ตคือได้กำไรมั้ย หรือเอาความสะใจ 555
Above the time ไอยูออกมาในเดรสลายดอกแสนจะสดใสของGUCCI เหล่าแดนเซอร์บนเวทีดูแล้วเหมือนกับเหล่าตุ๊กตาไขลานตัวเล็กๆที่อยู่ในกล่อง โดยมีไอยูเป็นจุดศูนย์กลาง
หลังจากนั้นคือภาคแรกของเรื่องราวนี้ นั่นก็คือYOU & I ค่ะ
สองโชว์ที่ต่อกันนี้ตื่นตาตื่นใจมากเหมือนอยู่ในดิสนี่ย์แลนด์ เพลงที่บรรเลงโยวงออเครสตร้าดีมาก เหมาะกับโชว์มาก dreamyเหมือนได้ดูขบวนพาเหรดในสวนสนุกเลยค่ะ
ระหว่างขั้นช่วงอังกอร์จะเป็นการทำโปรเจค Love poem ที่ร้องโดยยูแอนาค่ะ มันก็มหัศจรรย์อยู่นะที่คนเกือบห้าหมื่นคนสามารถร้องเพลงพร้อมกันได้555 แถมขึ้นเสียงสูงแล้วขำกันเองจนเจ้าของเพลงแซวอีก1แมช
ENCORE
Love poem ไอยูในเดรสสีดำปักสีทองทั้งตัว สวมมงกุฎเพชร คือไม่ได้เหมือนเจ้าหญิงแล้วค่ะ เป็นราชินีเลยดีกว่า
เราไม่รู้คิดไปเองมั้ย แต่ไอยูเหมือนร้องไห้ ไม่ก็ที่หยดมาคือเหงื่อ (ชีเคลมว่างั้น) แต่ก็เห็นน้ำตาคลออยู่นะ55 เพลงนี้ทำให้เรารู้สึกนับถือเขามาก ที่ขนาดผ่านเรื่องราวมากมายในชีวิตขนาดนี้ สิ่งที่เค้าทำคือการเลือกที่จะร้องเพลงเพื่อปลอบโยนคนอื่นต่อไป แม้อาการที่หูจะแย่ลง แต่เขาก็พยายามสุดความสามารถให้ทุกคนที่ทำงานหนักรอบตัวเขาและแฟนคลับไม่ผิดหวังเลยแม้วินาทีเดียว
ช่วง ment ไอยูชมเรื่องโปรเจคกับเสียงร้องเพลงขงยูแอนาค่ะ เม้ามอยใดใดตามสไตล์คนพูดเก่ง แล้วก็พูดเรื่องแมลงที่บินมาจ้องตากับตัวเอง (วันคอนร้อนและแมลงเยอะสุดๆค่ะ น้องน่าจะบินเข้าหาแสงแหละ ถามว่าสปอตไลท์ลงใครคะ 55)
เพลงสุดท้ายของคอนเสิร์ตนี้คือ My sea ค่ะ เป็นเหมือนการสรุป เล่าเรื่องชีวิตที่ผ่านมาของเธอในวัย 10s 20s และตัวเธอที่กำลังก้าวเข้าสู่วัย 30s ให้สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทำเหมือนไม่รู้จักตัวเองอีกต่อไป
เป็นอีกเพลงที่ร้องไห้หนักมาก คิดถึงชีวิตที่ผ่านมาทั้งหมด คิดถึงชีวิตในอนาคตว่าเราจะเติบโตไปยังไง เค้าเป็นคนนึงที่ทำให้เราอยากหายใจต่อ อยากมีชีวิตเห็นวันข้างหน้าเสมอ ทั้งๆที่ช่วงที่ดีเพรสเราไม่อยากให้วันพรุ่งนี้มาถึงเลยด้วยซ้ำ แต่การได้เห็นเค้าเป็นตัวอย่าง ในช่วงเวลาที่เรารู้สึกว่ายากลำบากเหล่านั้น การมีไอยูให้ look up to มันทำให้เราอยากมีชีวิตต่อ ไม่ใช่แค่เพราะอยากเห็นวันข้างหน้าของเค้า แต่อยากเห็นวันข้างหน้าของตัวเองว่าชีวิตมันจะมีความสุขได้อีกแค่ไหนกันนะ เพลงนี้จบด้วยเสียงคลื่นท่ามกลางเสียงปรบมือของคนทั้งฮอลล์
เราเพิ่งมาเห็นในวิดิโอว่าแท่งไฟก็ไล่แสงเป็นฟองคลื่นจากตัวไอยูไปถึงคนดูที่ชั้นสาม ชอบดีเทลตรงนี้มากๆ อีกอย่างที่ชอบในการดูโชว์บัลลาดของไอยูและการเป็นยูแอนาคือ ในเพลงช้าทุกเพลงเราจะไม่กรี้ดโดยเด็ดขาด ทุกคนจะปรบมือโดยที่ไม่ต้องนัดกันเลย รู้สึกว่ามันเป็นการให้เกียรติกับศิลปินที่คลาสสิคและขลังมากเลยค่ะ
CLOSING VCR ไอยูได้มาพบกับเด็กในหนังสือนิทานคนนั้น นาฬิกาทรายยักษ์ปรับเปลี่ยนเป็นแนวนอน ทำให้ทรายสองฝั่งไหลมาชนกัน ไอยูอยู่ด้านหนึ่ง เด็กน้อยอยู่อีกด้านหนึ่ง เดินมาพบกันที่ตรงกลางของชายหาดทั้งสอง
EN-ENCORE
Ah puh เราชอบมากโดยเฉพาะที่เอามาต่อกับ My Sea เป็นทะเลที่สดใส contrast กันมาก ไอยูสดใสเหมือนกับโมอาน่า สมกับเปนเพลงที่อัคดงทำ ชอบที่ไอยูเอาท่าเต้นของคุณโฮชิSVTกับคุณชานฮยอกAKMUมาใช้ด้วย น่ารักน่าเอ็นดูสุดๆ
Heart เพลงชาติยูแอนา เช่นเคยค่ะ ทุกคนร้องพร้อมกันโดยไอยูแทบไม่ต้องร้องเองเลย
มีการเซอร์ไพรซ์ไอยูด้วยการฉลองครบรอบเดบิวต์14ปี ไอยูทีมออกมารวมกันที่เวทีกลางพร้อมเค้กและผ้าขนหนูต่อกันเป็นเลข14ด้วยค่ะ
Drama ที่ไอยูบอกว่าเป้นเพลงชาติเด็กประถม ขอให้เด็กร้องกันเยอะๆด้วยน้า อีกสิบปีก็มาดูคอนพี่กันอีกน้า (เด็กมาดูเยอะกันมากๆเลยค่ะ จนสี่ทุ่มคุณพ่อคุณแม่ถึงค่อยๆจูงมือพาน้องๆกลับ น่ารักมากก ไม่คิดว่าเดมา14ปีจะมีแฟนคลับวัยประถมกับเค้าด้วย)
เพลงสุดท้ายของท้ายสุดจริงๆแล้วค่ะ Epilogue ก็ร้องไห้ปิดคอนกันไปเลยสิคะตัวชั้น เป็นเพลงที่ทำให้อยากอยู่กับเค้าไปนานๆ รู้สึกขอบคุณที่เค้ายังอยู่ตรงนี้ อยากให้คำตอบเค้ากับคำถามในเพลงนี้เปนล้านๆครั้งว่าจะอยู่ตรงนี้กับงานอดิเรกที่ชื่อไอยูตลอดไปเลย
♡END♡
✎ TMI เพิ่มเติมหลังจบคอน
สัมผัสได้เลยว่าไอยูให้ความสำคัญกับสตาฟ เด็กๆที่มาดู คนกลับบ้านก่อน และคนทำงานเบื้องหลังทุกๆคนที่ทุ่มเททำงานให้ไอยูจนถึงวันนี้ เค้ารับรู้และรู้สึกขอบคุณถึงขั้นส่งขนมไปขอบคุณทุกๆฝ่ายเลยค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in