หนังสือเล่มนี้เป็นผลงานการประพันธ์ของนทธี ศศิวิมลที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากครั้งที่เธอลงพื้นที่ไปพูดคุยกับผู้คนในชุมชนวัดห้วยพรหมตำบลอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เพื่อนำเรื่องราวเหล่านั้นมาเขียนเป็นชุดวรรณกรรมจากชุมชนท้องถิ่น และการเดินทางมาครั้งนี้ก็ทำให้เธอได้พบกับคณะกลองยาวสมานจิตบันเทิงที่มีสมาชิกเป็นผู้ป่วยจิตเวช ซึ่งสร้างความประทับให้เธอจนถ่ายทอดออกเป็นสมานจิตบันเทิงเล่มนี้ผ่านสำนวนภาษาที่เข้าใจง่าย แต่แฝงข้อคิดหลายอย่างไว้ในนั้น
สมานจิตบันเทิง นวนิยายที่บอกเล่าถึงคณะกลองยาวผู้ป่วยจิตเวชในชุมชนวัดห้วยพรหมที่ได้รับการดูแลจากผู้คนในชุมชนที่เข้าใจในสิ่งที่ผู้ป่วยเป็นแสดงให้ผู้อ่านเห็นว่า ผู้ป่วยจิตเวชไม่ใช่บุคคลที่จะอยู่ร่วมกับเราไม่ได้พวกเขาไม่ใช่ผีบ้า แต่คือผู้ป่วยที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในชุมชนได้เช่นเดียวกับเราและแสดงถึงความเมตตาที่หลวงพ่อพระครูมีต่อผู้ป่วย โดยไม่ได้มองว่าพวกเขาเป็นภาระเพราะเรา “เปลี่ยนภาระ ให้เป็นพลัง” ได้ (หน้า ๑๐๑) ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวของคนในชุมชนและตัวละครที่มีเค้าโครงชีวิตมาจากบุคคลที่ผู้เขียนรู้จัก
วัดห้วยพรหม ตำบลอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เป็นที่ตั้งของคณะกลองยาวสมานจิตบันเทิงมีสมาชิกเช่น ลุงบูรณ์ ชายชราอายุราว ๗๐ ปี เป็นโรคอัลไซเมอร์ แต่ว่ามีนิสัยรักสัตว์ประภาศิริ หรือ น้าหริ อดีตหัวหน้าแผนกพยาบาลที่มักจะนึกว่าตนเองเป็นนักศึกษาพยาบาลอยู่เสมอปานชนก หรือ พี่ปาน สาวเชื้อสายจีนที่มีอาการซึมเศร้าหลังจากสามีเสียชีวิต ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของแก้วตานักจิตวิทยาผู้มีพรสวรรค์ทางด้านงานเขียน หลวงพ่อพระครูวัดห้วยพรหม มัคนายกอ๊อดและเหล่าผู้คนในชุมชนที่เข้าใจในผู้ป่วยว่าเป็นเช่นไร นอกจากผู้ป่วยจิตเวชแล้วยังมีไอ้ฟู สุนัขพูเดิลถูกทิ้งที่มาอาศัยอยู่ในวัดมีเพียงลุงบูรณ์เท่านั้นที่มันยอมให้เข้าใกล้ แต่ละคนมีที่มาและพื้นเพต่างกันแต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้จากแรกเริ่มที่เป็นเพียงคณะมือสมัครเล่น แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ได้ไปเล่นในงานใหญ่ระดับประเทศ การใช้ดนตรีบำบัดเป็นหนึ่งในแนวทางการดูแลผู้ป่วยจิตเวช ที่วัดห้วยพรหมกำลังจะมีงานลอยกระทงซึ่งคณะกลองยาวสมานจิตบันเทิงก็เข้าร่วมแสดงมีสำนักข่าวมาทำข่าว และในวันนั้นก็เกิดเหตุการณ์นายตุ้ย นักเขียนนวนิยายสยองขวัญจากกรุงเทพจมน้ำ แต่ผู้คนในชุมชนก็มาช่วยไว้ได้ทันเนื่องด้วยที่มีสำนักข่าวมาทำข่าวลุงบูรณ์จึงได้ออกโทรทัศน์ ทำให้ลูกชายเห็นจึงมารับลุงบูรณ์กลับบ้านอันที่จริงลุงบูรณ์มีชื่อว่าไพศาล บูรณ์คือชื่อของลูกชาย และจากนั้นไม่นานก็ได้มารับมัคนายกอ๊อดไปอยู่ด้วยกันเพราะลุงไพศาลผูกพันกับเขามาก สมาชิกคนอื่นก็มีเส้นทางของตนเองปานชนกแต่งงานกับสามีเก่าอีกครั้ง ประภาศิริมีอาการทรุดลงจนต้องกลับไปอยู่กับลูก ส่วนตุ้ยกับแก้วตาก็ตกลงคบหากันและวางแผนที่จะแต่งงานในอีก ๒-๓ ปีข้างหน้าและยังได้รับไอ้ฟูไปดูแลอีกด้วย
สมานจิตบันเทิงเป็นนวนิยายที่มุ่งเน้นทำให้ผู้อ่านเข้าใจ และไม่มีอคติกับผู้ป่วยจิตเวช รวมถึงได้แสดงให้เห็นว่าชีวิตในต่างจังหวัดไม่ได้แย่สำหรับคนในเมืองเสมอไปเช่นที่ตุ้ยบอกกับแก้วตาเรื่องบ้านพักของเขาว่า “ไปทางวังน้ำเขียวห่างตัวเมืองไปหน่อย แต่บรรยากาศดีมาก เงียบสงบ” (หน้า ๑๖๗) ทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ว่าไม่ว่าที่จะเป็นใด หากว่ามีกัลยาณมิตรและสภาพแวดล้อมที่ดีเราทุกคนสามารถ ใช้ชีวิตอยู่ได้
ข้าพเจ้าใคร่จะแนะนำหนังสือเล่มนี้แก่ผู้อ่าน เนื่องจากเป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับผู้อ่านทุกเพศทุกวัยสามารถสอนใจผู้อ่านได้ว่าเราควรวางอคติลง มองผู้อื่นด้วยจิตใจที่เป็นกลางไม่ตัดสินผู้ใดจากภายนอก สมานจิตบันเทิงนั้นจะสร้างบันเทิงแก่ผู้อ่านอย่างแน่นอน แม้แต่ผู้ป่วยทางจิตเวชยังมีความสุขในชีวิต เราทุกคนก็มีความสุขได้เช่นกัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in