วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการจัดกิจกรรมนิทานสารพัดนึกประจำปี พ.ศ.2567 โดยนิทานหลักที่จะใช้ในวันนี้มีชื่อว่า “มัวซัวตัวดูดฝัน” ที่เป็นเรื่องราวของมัวซัวที่มีหน้าตาสองด้าน ด้านแรกสดใส มีหน้าที่ดูดฝันดีของเด็ก ๆ อีกด้านเป็นหน้าหม่นหมอง มีหน้าที่ดูดฝันของเด็ก ๆ วันหนึ่งมัวซัวถูกจับขังโดยนางฟ้าสามพี่น้องที่คอยถักทอความฝัน นางฟ้าทั้งสามคิดว่าหากไม่มีมัวซัวเด็ก ๆ ทุกคนก็จะไม่ถูกแย่งความฝัน แต่แล้วสิ่งที่พวกเธอคิดกลับเปลี่ยนแปลงโลกของความฝันไปตลอดกาล กิจกรรมภายในวันนี้ประกอบไปด้วย “DIY ตาข่ายดักฝัน“ ที่เป็นการทำตาข่ายดักฝันจากลวดกำมะหยี่และไหมพรม และกิจกรรม “พามัวซัวกลับบ้าน” จะเป็นใบงานเขาวงกตมามัวซัวกลับบ้าน โดยทั้งวันของการทำกิจกรรมจะถูกเริ่มด้วยการเล่านิทานและการพูดคุยเล็กน้อยระหว่างผู้พูดและผู้ฟัง จากนั้นจึงทำกิจกรรม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่ให้เด็ก ๆ ได้ปลดปล่อยพลังอย่างกิจกรรมวิ่งเล่นและกระโดดตามเส้นทางที่กำหนด โดยกิจกรรมนี้ได้รับความสนใจจากเด็ก ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม

วันนี้ทั้งวันพบว่ามีเด็กเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 15 คน ระหว่างการทำกิจกรรมเขาวงกตและตาข่ายดักฝันไม่พบอุปสรรคใด ๆ ผลตอบรับจากเด็กและผู้ปกครองเป็นไปในทิศทางที่ดี อีกทั้งยังมีการขอทำกิจกรรมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมที่สร้างความสนุกและเสริมสร้างความสัมพัทธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัวได้เป็นอย่างดี เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันสุดท้ายของกิจกรรมจึงทำให้เด็ก ๆ ที่มาตื่นเต้นเป็นพิเศษจนทำให้ตลอดทั้งกิจกรรมต้องเล่านิทานเรื่องเดิมใหม่ถึง 4 รอบด้วยกัน นอกจากนี้ยังเรื่องอื่น ๆ ที่เด็ก ๆ ถือมาให้พี่พะแพงเล่าถึง 3 เล่มด้วยกัน จากการทำกิจกรรมที่แม้ว่าจะเหนื่อยกาย แต่กลับสบายใจมากกว่าจนทำให้ความเมื่อยล้าที่เกิดขึ้นหายไปอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อีกทั้งอยากขอบคุณเด็ก ๆ และผู้ปกครองทุกท่านที่ให้ความสนใจกับกิจกรรมนิทานสารพัดนึกและตลอดทั้งช่วงเวลาที่ได้ฝึกงานด้วยค่ะ