Sunshine เป็นเพลงที่อยู่ในอัลบั้ม Newton's Apple สตูดิโออัลบั้มเต็มลำดับที่ 6 ของวง NELL (ไม่นับรวมอัลบั้มอินดี้) ออกมาเมื่อปี 2014 เป็นเพลงความยาวพอประมาณที่ 5.37 นาที แม้จะไม่ใช่แทร็คที่มีความยาวมากที่สุดในอัลบั้ม แต่กลับเป็นแทร็คสุดท้ายของ CD1 (TRACK 11.) ที่เราขอนิยามให้เพลงปิดสุดท้ายเป็นตำแหน่งพิฆาต เป็นท่าไม้ตายที่วงมักวางไว้ปิดอัลบั้มเสมอ
หากใครที่ผ่านมาฟังเพลงนี้ เพียงซึบซับในเมโลดี้ที่เป็นธรรมชาติ (ช่วงแรก) และความเพราะของดนตรีที่แยกชั้นความรู้สึกอย่างชัดเจน คงจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจเล็กๆ กับความคอนทราสต์ของเนื้อร้องสว่างๆ อย่างประโยคที่ว่า be brighter than sunshine กับดนตรีหม่นเทา อย่างน้อยเราคนนึงที่รู้สึกอย่างนั้น ในตอนที่ได้ฟังเพลงนี้เป็นครั้งแรก การผสมเนื้อร้องที่ขัดแย้งกับมู้ดของดนตรี สร้างความคลุมเครือของมิติทางอารมณ์ให้ซับซ้อน เพื่อเล่นกับความรู้สึกของคนฟัง ทำให้สงสัยและอยากรู้เหลือเกินว่า เนื้อหาของเพลงนี้ มีนัยยะความหมายอะไรที่ซ่อนเร้นไว้กันแน่
จนได้ถอดคำร้อง ตั้งสติ และเข้ามาดูใกล้ๆ จะพบว่าเนื้อหาของเพลง Sunshine มีความตรงไปตรงมาพอสมควร แถมแฝงนัยยะทางสังคมเล็กๆ ประกอบกับพาร์ทดนตรียังแสดงความสับสนว้าวุ่นใจที่วนค้างอยู่ในเพลงออกมาอย่างซื่อตรง เมื่อความคลุมเครือของเนื้อเพลงหายไป นอกนั้นคงเป็นความรู้สึกล้วนๆ ที่เชื่อว่าใครหลายคนคงเคยผ่านและสัมผัสมาแล้ว
.
Don‘t argue
เพราะสุดท้ายแล้วทั้งหมดก็เพื่อเธอทั้งนั้น
Don‘t argue
เพราะนี่ไม่ใช่เพื่อตัวฉันเองหรอกนะ
จนกว่าน้ำตาของเธอจะแห้งหายไป
แค่อยู่เฉยและอดทน ก็ทำอะไรไม่ได้นี่นา
Don‘t argue
เพราะถึงยังไงก็ไม่มีใครรับฟังเธออยู่แล้ว
Don‘t argue
เพราะไม่ใช่แค่เธอคนเดียวที่รู้สึกเหนื่อยนะ
จนกว่าน้ำตาของเธอจะแห้งหายไป
แค่อยู่เฉยและอดทน ก็ทำอะไรไม่ได้นี่นา
อัญมณีที่ไร้ประกาย ยังไงก็ถูกโยนทิ้งอยู่ดี
I want you to be brighter than sunshine.
I want you to be brighter than sunshine.
brighter than sunshine.
I want you to
be brighter than sunshine.
I want you to
be brighter than sunshine.
I want you to be brighter than sunshine.
I want you to be brighter than sunshine.
I want you to be brighter than sunshine.
คนที่ไม่เปล่งประกายอย่างเธอคงไม่มีใครต้องการ
I want you to be brighter than sunshine.
brighter than sunshine.
/.
ว่ากันว่า Sunshine เป็นเพลงที่คิมจงวาน (นักร้องนำและผู้แต่งเพลงทั้งหมดของ NELL) เขียนขึ้นมาด้วยความรู้สึกต่อต้านคำพูดและการกระทำของผู้ใหญ่ เมื่อครั้งที่เขายังเป็นวัยรุ่น ซึ่งเห็นได้ชัดจากเนื้อเพลง ที่ถ่ายทอดสิ่งที่คนมักพร่ำบอกกับเด็ก ให้ก้มหน้าก้มตาทำสิ่งที่ควรทำ และชี้นำให้เป็นไปในทิศทางของสังคมที่พวกเขาเห็นว่าดี
ประโยคแรกของเพลงเปิดด้วยคำว่า "Don't argue" อย่างนิ่มนวล ตามด้วยเนื้อเพลงในพาร์ทแรก ที่เชื่อว่าวัยเด็กของใครหลายคน คงเคยได้ยินคำพูดทำนองนี้มาบ้าง /ทั้งหมดก็เพื่อตัวเราเองทั้งนั้น อดทนและทำๆไปเถอะ คนอื่นเขาก็เหนื่อยเหมือนกัน บลา บลา บลา/ และที่ปั่นยิ่งกว่านั้น เนื้อเพลงเหล่านี้ถูกห้อมล้อมไปด้วยซาวด์ดนตรีและเมโลดี้ที่เป็นธรรมชาติตลอดครึ่งเพลงแรก ถ่ายทอดผ่านท่วงทำนองที่เบาสบาย คล้ายกับช่วยขับกล่อมคนฟังให้คล้อยตาม
NELL : Sunshine @ NELL'S SEASON 2019 'Quiet yet Loud' (3rd)
จนกระทั่งเนื้อเพลงทริกเกอร์ด้วยประโยคที่ว่า "อัญมณีที่ไร้ประกาย ยังไงก็ถูกโยนทิ้งอยู่ดี" ความเบาสบายของซาวด์ดนตรีในช่วงแรกยุติลง มืดดับหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น ความล่องลอย เสียงหวีดหวิว วังเวง สอดประสานเข้ามาอย่างแนบเนียน เพื่อรับไม้ต่อของความรู้สึกของเพลงในพาร์ทหลัง
I want you to be brighter than sunshine.
จุดหักของเพลงจึงเริ่มต้น พร้อมกับซาวด์ดนตรีที่หักมุมจากช่วงแรกลิบลับ ความหม่นดาร์ควิ่งเข้าใส่อย่างฉับพลัน จมลงไปทุกขณะที่เนื้อเพลงวนซ้ำๆ "I want you to be brighter than sunshine" อินเซปชั่นประโยคนี้เข้าไปในทุกเศษเสี้ยว กลายเป็นประโยคที่มีมวลน้ำหนักกดทับ แข็งกร้าว เต็มไปด้วยความคาดหวัง แต่ก็ยังไม่ทิ้งความเศร้าในน้ำเสียง เขย่าความรู้สึก พร้อมกับซาวด์หวีดหวิวสร้างความปั่นป่วน ไลน์กีตาร์บาดลึก และซาวด์กลองที่เท่มากๆ
การสูญเสียตัวตน สูญเสียประกายในตัวเองมันน่าเศร้า โดยเฉพาะเนื้อร้องที่ซ่อนอยู่ในท่อนท้ายของเพลง "คนที่ไม่เปล่งประกายอย่างเธอคงไม่มีใครต้องการ" ยิ่งตบทับและขยี้สารของเพลงได้อย่างร้ายกาจ Sunshine จึงเป็นเพลงที่สื่อถึงความเจ็บปวดในวัยเยาว์ จากคำพูดหรือการกระทำที่ไม่ว่าคุณจะตั้งใจหรือไม่ สิ่งนั้นล้วนสร้างร่องรอยบาดแผลในจิตใจทั้งสิ้น
NELL : Sunshine @ NELL'S SEASON 2015 '201509' (3rd)
ในช่วงแรกที่อัลบั้ม Newton's Apple ออกมา Sunshine เป็นเพลงเดียวที่วง NELL ไม่เคยแสดงสดเลยในปีนั้น แม้แต่คอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มในปี 2014 ที่วงเพอร์ฟอร์มทุกเพลง แม้แต่เพลง Decompose ที่เป็นแทร็ค intro ก็ถูกใส่ไว้ใน setlist ยกเว้น Sunshine เพลงเดียวที่วงไม่เคยแตะเลย จนในที่สุด NELL ได้เพอร์ฟอร์มเพลงนี้ครั้งแรกในคอนเสิร์ต NELL'S SEASON 2015 '201509' และข้ามมาเล่นครั้งล่าสุดในคอนเสิร์ต NELL'S SEASON 2019 'Quiet yet Loud' รวมสองอีเว้นท์ถ้วนเท่านัั้น ซึ่งวงเคยพูดไว้ในคอนว่าเพลงนี้เล่นยาก แค่นี้เลย จบ
เห็นไหมว่า Setlist ของคอน NELL'S SEASON แรร์ขั้นสุดไปเลย อย่างเพลง The Ending นี่ก็ลับมาก
(อัลบั้ม Slip Away /2012) เป็นเพลงลาก outro ยาวๆ ที่พาร์ทหลังเป็น instrumental หนักๆเหมือนกัน
ซึ่งวงก็เล่นสดในคอนเสิร์ต NELL'S SEASON 2015 '201509' ครั้งเดียวแล้วไม่เล่นอีกเลย เพราะบ่นว่าเล่นยากอีกนั่นแหละ 55555
Sunshine จึงเป็นหนึ่งในเพลงคุณภาพ B-side ของ NELL ที่ค่อนข้างลับแล สองสเตจนั้นจึงกลายเป็นที่จดจำของแฟนเพลง โดยเฉพาะช่วงหักดิบ เปลี่ยนฟิลเข้าพาร์ท instrumental ครึ่งหลัง สร้างความโหวงเหวงน่าขนลุกทุกครั้งที่ได้ยิน เพราะโทนเพลงมันเปลี่ยนแบบพลิกฝ่ามือ ซึ่งวงดีไซน์อารมณ์ของซาวด์ดนตรีตรงนี้ไว้ดีมาก ก่อกวน ดำดิ่ง ทำให้เพลงที่มีเนื้อหาอ่อนไหวอยู่แล้วยิ่งมีความลึกซึ้ง โดยเฉพาะซาวด์กลองในเพลงนี้ที่เราประทับใจมาก ไม่รู้อันนี้คิดไปเองคนเดียวหรือเปล่า แต่รู้สึกว่าไลน์กลองในเพลง NELL หลายๆเพลงมันจะต่างแปลกๆ คือจังหวะที่เล่นไม่เหมือนขนบเพลงทั่วไป แต่มีเสน่ห์มากๆ อย่างจังหวะรัวฉาบในเพลงนี้คือโคตรเฉียบ และด้วยความที่ซาวด์กลองเด่น จะเห็นชัดเลยว่า Sunshine ในสองอีเว้นท์นี้มีความต่างกันอยู่ เพราะมีการปรับไลน์กลอง คือเวอร์ชั่นของ 2015 ที่เล่นครั้งแรก จะฟุ้งๆหน่อย และรู้สึกถึงความออริจินอลมากกว่า ในขณะที่ 2019 จะลดทอนท่อนรัวฉาบช่วงแรกลง ลงสแนร์เพิ่มมากขึ้น แถมจงวานเล่นตีคอร์ดอัดเข้าไปอีก ทำให้เพลงยิ่งดูหนักแน่นมากขึ้นกว่าเดิม
NELL : Sunshine @ NELL'S SEASON 2019 'Quiet yet Loud' (3rd)
การร้องของ
คิมจงวานในเพลงนี้ ยิ่งทำให้ปั่นป่วน ส่วนผสมของความอ่อนโยนและแข็งกร้าว ที่ช่วงท้ายเพลงจะมีความเกรี้ยวมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่เป็นท่อนร้องช้า แต่คุณเขาร้องเพลงเหมือนโกรธใครมา ขยี้ทุกเมสเสจของเพลง ปล่อยความอัดอั้นให้แทรกซึม คำร้องนุ่มแต่เชือดนิ่ม ขับเคลื่อนสารของเพลงให้มีมิติ เพราะบางทีความรู้สึกของคนเราก็ซับซ้อนยากจะอธิบาย มีแฟนเพลงของวงได้ถ่ายทอดมันออกมาในรูปแบบของงานภาพการ์ตูน ฟิลเหมือน story board เล่าความรู้สึกหลังจากที่ได้ฟังเพลงนี้ เป็นงานที่ดีและสื่อความหมายของ
Sunshine ได้ถึงแก่นมากๆ รู้สึกประทับใจจนต้องใส่ไว้ประกอบการเขียนถึงเพลงนี้ เลยขอแปะวาร์ปไว้หน่อย
>> (https://bit.ly/2X55ZuF) / เพราะเราไม่อยากยกออก แม้ว่าจะเป็นการยกออกทั้งเครดิตก็ตาม ดูแล้วจะรู้สึกถึงความแบก และคำว่า
... be brighter than sunshine นั้นเพื่อตัวฉันเองจริงๆ หรือเพื่อใครกันแน่ / เฮ้ออ เป็นวัยรุ่นมันเหนื่อยแท้
NELL : Sunshine @ NELL'S SEASON 2015 '201509' (2nd)
เพลง NELL หลายเพลงพูดถึงเรื่องของความฝัน คิมจงวานมักพูดเสมอว่า เขารู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้ทำในสิ่งที่รัก ได้เล่นดนตรีกับเพื่อนแถมยังยึดถือสิ่งนี้เป็นงานได้จนถึงทุกวันนี้ ในขณะที่หลายคนไม่มีโอกาสแบบนั้น NELL จึงมีเพลงที่สื่อเนื้อหาของความเยาว์และการเติบโตอยู่เสมอ อย่าง 피터팬은 죽었다 (Peter Pan is Dead) / Grey Zone / 청춘연가 (Green Nocturne) / Slow Motion / 꿈을 꾸는 꿈 (Lullaby) เพลง NELL ในหมวด coming of age เลยเป็นจุดที่เราแพ้ทางและชอบ++ เพราะเนื้อหาของมันจี้จุดอ่อนแอของคนได้ดี แม้ว่าบางทีจะดูเลือดเย็นไปหน่อยก็ตาม
และ Sunshine เพลงที่ทำให้ใจสั่นตั้งแต่ฟังครั้งแรก ยิ่งรู้ความหมาย ยิ่งรู้สึกถึงบาดแผลและความเจ็บปวดของการก้าวผ่านเพื่อเติบโต และเราเชื่อว่า NELL ในตอนนั้นก็เติบโตมากขึ้นเช่นกัน เพราะถ้าวงเรียบเรียงเพลงนี้ในช่วงวัยยี่สิบ คงไม่ออกมาเป็นโทนนี้ เป็นความขบถที่ไม่พุ่งชน แต่เต็มไปด้วยความเยือกเย็น ทุกคำร้อง ทุกส่วนชิ้นของดนตรี แทรกซึม พร้อมกรีดลึกให้เราแตกสลายจากข้างใน
และแม้ว่าเนื้อเพลง Sunshine จะเต็มไปด้วยคำพูดบั่นทอน แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง เราอาจสัมผัสได้ถึงความสิ้นหวังของวัยผู้ใหญ่ คนที่เติบโตขึ้น พบเผชิญกับโลกความจริง ทั้งสังคม ค่านิยม ที่เชปพวกเขาเหล่านั้น ให้สูญเสียประกายในตัวเองอย่างอับจนหนทาง จึงสื่อสารถึงคนรุ่นต่อไปอย่างเจ็บปวด
I want you to be brighter than sunshine ,
brighter than sunshine.
.
note 1 : Moments in between อัลบั้มใหม่ของวงออกมาแล้ววว สิ่งเติมเต็มชีวิตในปี 2021 ให้มีความสุขขึ้นเยอะๆ
คิดว่าคงทำตอนรีวิวเหมือนเดิม แต่คราวนี้น่าจะใช้เวลาพอสมควร ขอรวมรวมความคิด ตกตะกอน
และที่สำคัญคือหาเวลาเขียนให้ได้ก่อน
>> https://www.youtube.com/c/SPACEBOHEMIAN <<
note 2 : 2021.09.21 วันที่อัลบั้ม Healing Process ครบรอบ 15 ปีแล้วนะ :)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in