จริงๆไปมาหลายคอนเสิร์ตแล้วแต่นี่จะเป็นครั้งแรกที่มาลองเขียนรีวิว อยากลองเขียนอะไรที่มันจริงจังดูแต่ไม่รู้จะเขียนอะไร ก็เลยเริ่มจากสิ่งที่เราชอบแล้วกันเนอะ :)

.

.

เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาเรามีโอกาสได้ไปงาน Mangosteen Music Festival ที่จัดที่ไบเทคบางนา ศิลปินที่เข้าร่วมมี Polycat, Phum Viphurit, Sunset Rollercoaster, Fickle Friends และ Kodaline 

จะขอข้ามรายละเอียดวงอื่นๆไปเพราะPolycatเราดูมาหลายรอบแล้ว Fickle Friends เราเฉยๆแต่เค้าเป็นวงที่เล่นสดได้ So much energyดีนะขนาดเจ้าตัวบอกว่า jetlag  ที่เสียดายสุดเลยคือ Sunset Rollercoaster (ชอบ My Jinjiกับ My Monday Throneมาก) เพราะเข้าไปฟังไม่ทัน มัวแต่รอข้าว หิวก็หิว เพลงก็อยากฟัง ก็เอาเป็นว่าอด เพราะหิวแบบกินหมีได้

.

.

ที่เซอร์ไพรส์เลยคือน้องภูมิและแบนด์เล่นดีมากกก เหนือความคาดหมาย ทำเราตกอยู่ในภวังค์ แต่น้องอาจจะยังเอนเตอร์เทนไม่เก่งยังมีเขินๆอยู่บ้าง แต่เรื่องฝีมือนี่ยอมรับเลย เพลง Sweet Hurricane คือสุดมากไม่ได้หยิบมือถือขึ้นมาถ่าย มัวแต่ฟัง ท่อนโซโล่คือสุดตีนจ้า รักน้อง

  

Call me lover boy
                                                             

 

หลังจากกินเบียร์ไป 2 แก้ว พระเอกของงานของเราก็มา เปิดตัวด้วยเพลง 'Head Held High' ทั้งฮอล์ช่วยกันร้อง รู้สึกได้เลยว่าทุกคนดีใจแล้วก็ตื่นเต้นเหมือนเราอ่ะ คือรอกันมานานในที่สุดเค้าก็มา เข้าใจความรู้สึกมัั้ยมันท่วมท้น ตื่นเต้น ใจเต้นมากๆ วินาทีที่เค้าปรากฏตัวขึ้นมาบนเวที ศิลปินที่เราฟังในยูทูป ดูไลฟ์เค้าบ่อยๆแล้วคิดว่าสักวันชั้นต้องฟังสดๆให้ได้ ตอนนี้เค้ามาอยู่ตรงหน้าเราอ่ะ น้ำตาจะไหลโว้ยยยยย

แม้ว่าครั้งนี้จะไม่ใช่คอนเสิร์ตเต็มรูปแบบ แต่เราก็พยามจอยกับมันให้มากที่สุด วงขนมาทั้งเพลงเก่าเพลงใหม่ ไม่เรียงเซตลิสต์นะเพราะจำไม่ได้ ถถถถถ 'Brother'เป็นเพลงจากอัลบั้มใหม่ที่เราชอบมากๆ ได้ฟังสดๆโคตรดีใจ เซอร์ไพรส์เล็กน้อยที่มารู้ทีหลังว่าแต่งให้พี่น้อง Gallagher 5555555 

มาถึงเพลง 'I wouldn't be' คือร้องประสาน อะแคปเปลล่าทั้งเพลงแบบโอโหหห บ้าไปแล้ววว โคตรเพราะเลย ทุกคนคือตกอยู่ในภวังค์มาก คือเราเฉยๆกับเพลงนี้นะแต่พอได้ฟังประสานสดๆคือชอบมาก 

เพลงเก่าๆอย่าง Brand new day, One day, Love like this, และ The one ที่คนร้องตามกันทั้งเสียงดังทั้งฮอล์วงก็ขนมาเล่น แม้จะเสียดายนิดหน่อยที่ยังมีอีกหลายเพลงที่เราอยากฟังก็เถอะ

ตัดมาถึงสามเพลงพีคของเรา ซึ่งเป็นอะไรที่สาบานกับตัวเองว่าก่อนตายกูต้องได้ฟัง 

'Love will set you free' เราชอบเพลงนี้มากกก ด้วยความหมายของมันคือพยุงเราตอนเศร้าๆซึมๆ ให้ดีขึ้นได้อ่ะ ชอบความหมายเพลงมากจริงๆ ฟีลนั้นทุกอย่างมันท่วมท้นไปหมด ยืนดูด้วยความรู้สึกแบบนี่ได้ฟังแล้วจริงๆใช่ป่ะ อยากโทรไปบอกแม่ อยากเขียนใส่เรซูเม่ ฮือ ตอนจบเพลงคือมีกระดาษโปรยแบบสวยมาก / ปาดหัวตา 

หลังจากอังกอร์ ในที่สุดก็ถึงคิว 'All I want' ความตื้นตันเป็นยังไง ให้มาดูหน้าเราตอนนั้น ร้องไห้ได้ก็ร้องแล้วอ่ะ คือดีใจมากๆ ร้องตามทั้งเพลงเลย ยิ่งตอนท่อนดนตรีโซโล่แบบโอโห ถึงนิพพานแล้วแม่

ปิดท้ายด้วย 'High Hopes' ขึ้นมาท่อนแรก "Broken bottles in the hotel lobby"  ก็ขนลุกแล้ว คนร้องตามกันทั้งฮอล์ ตอนเราฟังเพลงนี้ครั้งแรกมัน broke มาก ยิ่งดูเอ็มวียิ่งแบบโอ้ย จะแหลกไปไหน เป็นหนึ่งในเพลงโปรดของเราเลย ในที่สุดวันนี้ก็ทำความฝันสำเร็จไปหนึ่งอย่างคือได้ฟังเพลงนี้สดๆแล้วเนอะ :)

Kodaline ย้ำบ่อยมากว่าเราจะกลับมา เชื่อนะว้อยยย ถ้ากลับมาอีกก็ไปอ่ะ โคตรเติมเต็มเราเลย คอนเสิร์ตมันมีพลังเสมอ มันเหมือนรวมคนที่มีพลัง มีความชอบอย่างเดียวกันไว้ด้วยกัน ฟีลที่ได้แหกปากร้องเพลงไปพร้อมๆกับคนแปลกหน้าทั้งฮอล์มันโคตรดี 

อย่าลืมเติมพลังชีวิตให้ตัวเองนะ ถึงชีวิตจะเศร้าจะป่วงขนาดไหนแกก็ต้องมีความสุข ขอบคุณโลกบ้าๆนี่ที่ยังมีเพลงดีๆให้เราฟัง มีคอนเสิร์ตให้เราดู ดนตรีและคอนเสิร์ตจะเยียวยาทุกอย่างเอง :)