Ong Seongwu x Park Jihoon
Title : You’re the only one I see
Colorverse
#cloudystory
Note : เพิ่งเคยเขียนเวิร์สนี้ยังไงก็ ฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ :-)
-You’re the only one I see-
คุณเห็นโลกใบนี้เป็นสีอะไรครับ
เหลือง
ชมพู
หรืออาจจะฟ้า
แต่ว่าผมเห็นโลกใบนี้
–
-You’re the only one I see-
สีเทา
เป็นเฉดสีที่องซองอูคุ้นชินกับมันมากที่สุด
ตั้งแต่จำความได้เขาก็มองเห็นสีสันของโลกใบนี้ได้เพียงแค่สีขาวและสีดำโรคประหลาดที่แม้แต่วิทยาศาสตร์ก็หาคำตอบให้ไม่ได้เขาเป็นมนุษย์ตาบอดสีในเคสที่แสนแปลกพร้อมกับคำทำนายจากหมอดูอีกหนึ่งอย่างที่มนุษย์ในยุคโลกาภิวัตน์อย่างเขาไม่คิดจะปักใจเชื่อ
เขาจะสามารถเห็นสีได้ก็ต่อเมื่อเจอโซลเมทนั่นน่ะหรือ
มันไม่ไร้สาระไปหน่อยหรืออย่างไรกัน
แต่ถ้าหากเหนือฟ้ายังมีฟ้า
เหนือโรคประหลาดที่เขาเป็นอยู่นี้ก็ไม่แน่ว่าปาฏิหาริย์
–
ดั่งเช่นตอนนี้ตรงหน้าของเขา เด็กหนุ่มที่มาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างดวงตาสุกใสคล้ายเก็บเอากาแล็คซี่นับพันไว้ข้างในมันแวววาวสดใสแม้เขาจะมองเห็นเพียงสีขาวและดำ และ ตอนที่เราสบตากัน ณ ตอนนั้น
'
ชื่อของเด็กคนนั้น
และสีในโลกของเขา
ที่ไม่เหมือนเดิม
-You’re the only one I see-
ในวันนั้นที่แสงแดดแผดจ้าและอุณหภูมิที่ร้อนระอุเสียยิ่งกว่าทุกวัน
ในวันนั้น
ณเวลาเก้าโมงเศษท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนแรงของกรุงโซลองซองอูกำลังทำหน้าบอกบุญไม่รับพร้อมกับสะพายกล้องตัวเก่งท่ามกลางผู้คนมากมายที่เขาไม่เคยชินเอาเสียเลย
คนที่ถูกขอร้องกึ่งบังคับจากฮวังมินฮยอนให้มาช่วยเก็บภาพบรรยากาศการถ่ายแบบดาวเดือนของแต่ละคณะยืนหน้าหงิกอยู่มุมห้องรับรองในขณะที่ไอ้คนที่บังคับเขามากำลังยิ้มร่าถ่ายรูปกับคนนั้นทีคนนี้ที
โธ่พ่อเดือนมหาลัย!
“
“
“
เขาเอ่ยปัดเพื่อนที่กำลังจะขอโทษเขาเป็นรอบที่ร้อยของวันนี้ร่างสูงโปร่งกวาดมองโลกสีเทาของเขาที่ยังคงเป็นเช่นเดิมเหมือนทุกๆวัน มีสีขาว เทาไล่ระดับไปจนถึงสีดำ องซองอูเคยชินกับมันรวมถึงมินฮยอนที่รับรู้ถึงความแปลกประหลาดในการมองเห็นของเขาด้วย
เขาหยิบกล้องขึ้นมาเช็คความพร้อมในขณะที่มินฮยอนเดินหายไปในกลีบเมฆอีกรอบดวงตาคมหยีลงหนึ่งข้างขณะที่เริ่มมองโลกใบนี้ผ่านเลนส์กล้อง เขากวาดสายตาไปเรื่อยเด็กหนุ่มสาวหลายคนกำลังถูกแต่งเติมสีสันบนใบหน้าที่องซองอูตอบไม่ได้หรอกว่ามันมีสีอะไรบ้าง
แชะ
เสียงชัตเตอร์ดังในยามที่เขากดนิ้วเก็บภาพตามหน้าที่ผ่านมุมมองสีเทา เลื่อนเลนส์ไปทางซ้ายบ้างขวาบ้างตามแต่ที่อยากทำ
น้องคนนั้นสวยดีเขาก็กด
แชะ
น้องคนนั้นหล่อดีเขาก็กด
แชะ
และสีผมน้องคนนั้นเด่นดีเขาก็กด
แชะ
เฮ้ย!
องซองอูเบิกตาโพลงในขณะที่ปล่อยกล้องหลุดจากมือสายคล้องคอของมันทำหน้าที่ได้ดีโดยการห้อยต่องแต่งกระแทกกับอกของเขา
แต่องซองอูไม่มีใจจะมาสนเรื่องนั้นหรอก
ก็ความสนใจของเขาน่ะ
“
“…”
“
มันถูกพัคจีฮุนผมสีอะไรสักอย่างดึงไปหมดแล้วยังไงล่ะ
-You’re the only one I see-
กว่าจะรู้ตัวว่านิ่งอึ้งไปนานแค่ไหนก็ตอนที่ศอกแหลมๆของฮวังมินฮยอนกระแทกเข้าที่สีข้างนั่นล่ะองซองอูละสายตาจากกลุ่มผมสีโดดเด่นท่ามกลางโลกสีเทาของเขา
"
.
.
.
.
ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงกว่าๆการถ่ายภาพเดี่ยวในช่วงเช้าผ่านไปด้วยดีเหล่าพี่เลี้ยงและตัวแทนคณะแยกกันนั่งทานข้าวเที่ยงอยู่คนละมุมรวมถึงทวนสคริปต์คำถามไปด้วยองซองอูที่ทานข้าวเรียบร้อยยังคงทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป เก็บรูปน้องคนนั้นบ้างคนนี้บ้าง ต้นไม้(ที่เขามองไม่เห็นสี)
องซองอูก็ยังหันเลนส์กล้องกลับไปหาพัคจีฮุนคนนั้นและ
แชะ
รูปของเด็กคนนั้นถูกบันทึกผ่านมุมมองสีเทาของเขาเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจนับได้
"
"
"
"
"
"
"
"
"
"
แต่ก็นั่นแหละ
"
บางที
"
เขาคงต้องยอมรับมันจริงๆแล้วล่ะ
-You’re the only one I see-
เขาโดนทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกครั้งในช่วงบ่ายฮวังมินฮยอนหายไปคุมน้องอีกรอบ ในขณะที่เขาเดินร่อนไปมาถ่ายรูปตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้าง อันที่จริงวันนี้ก็สนุกดี ได้มาเจอกิจกรรมที่เขาไม่เคยได้ทำได้เห็นความสนิทสนมกันอย่่างรวดเร็วของเด็กๆหลายคนในแบบที่คนเก็บตัวและเพื่อนน้อยแบบเขาไม่ค่อยได้เจอข้อจำกัดเรื่องการมองเห็นของเขาเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เขาไม่ค่อยผูกมิตรกับใครนักนอกจากฮวังมินฮยอนที่รู้จักกันมาตั้งแต่ตัวเท่าเข่าเพื่อนของเขาก็มีเพียงแค่คังแดเนียล คิมแจฮวาน และเพื่อนต่างคณะอีกคนอย่างคังดงโฮ
แชะ
"
เจ้าของร่างสูงโปร่งสะดุ้งโหยงมือใหญ่กำกล้องตัวโปรดแน่นเขาอยากจะตีมือไม่รักดีที่เอาแต่จะหันไปหาเด็กผมแดงคนนั้นอยู่นั่นพัคจีฮุนที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามเขาขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะเดินเขามานั่งข้างๆเรือนผมสีแดงสดโดดเด่นท่ามกลางโลกสีเทาของเขา กลิ่นน้ำหอมลอยแตะจมูกยามที่เด็กคนนั้นโน้มตัวเข้าใกล้
"
และกาแล็คซี่ขนาดย่อมคู่นั้นก็ดึงดูดให้องซองอูตกลงไปในนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
-You’re the only one I see-
"
"
"
"
แต่เท่านั้นก็เพียงพอ
"
เพียงพอที่จะทำให้โลกขององซองอู
มีสีสันเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
-You’re the only one I see-
เย็นวันเดียวกันนั้นเป็นวันที่ทางเดินกลับหอขององซองอูต่างไปจากเดิมเขาก็เพิ่งรู้ว่าสีฟ้าของท้องฟ้า มันน่ามองขนาดนี้รู้ตัวอีกทีสีที่เขาเพิ่งเรียนรู้ก็ถูกกลืนหายไปในขณะที่สีรัตติกาลแสนคุ้นเคยกำลังเข้ามาแทนที่
องซองอูละสายตาจากท้องฟ้ายามค่ำคืนนอกระเบียงเขาเสียบเมมโมรี่ของกล้องเข้ากับแล็ปท็อป รอรูปโหลดเข้าเครื่องสักพักก่อนจะค่อยๆไล่ดูรูปในวันนี้ รูปแล้วรูปเล่าผ่านตาเขาไป ก็บอกแล้ว องซองอูน่ะดูไม่ออกหรอกว่ารูปไหนสวยหรือไม่สวย สุดท้ายเขาก็ต้องส่งให้มินฮยอนเป็นคนเลือกอยู่ดีซองอูกดปิดรูปทั้งหมดลง ขณะที่แจ้งเตือนโปรแกรมแชทจากมินฮยอนเด้งขึ้นมาพร้อมๆกับแจ้งเตือนจากใครบางคน
Minhyun
มึง กูคิดว่า
ถ้าลองดูสักที
มันก็ไม่เสียหายอะไรนะเว้ย
PJH.
พี่ครับ
ผมมาทวงรูปครับ :-)
อืม
ก็อย่างที่มินฮยอนว่า
ลองดูสักที
-You’re the only one I see-
สี่ห้าวันมานี้องซองอูคิดว่าโลกของเขาเปลี่ยนไปจากเดิมอยู่นิดหน่อยนอกจากสีที่เขาเรียนรู้มากขึ้นมาสองสี
พัคจีฮุน
ก็ดูจะเป็นสิ่งแปลกใหม่ในโลกของเขาเช่นกัน
เรือนผมสีโดดเด่นยังคงตรึงสายตาเขาไว้เช่นเคยเหมือนกับกาแล็คซี่พราวระยับคู่นั้นที่ยังคงฉุดเขาลงไปในหลุมของพัคจีฮุนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
"
อือก็ไม่ได้ต่างจากทุกวัน
ยกเว้นแว่นทรงกลมบนใบหน้ารูปไข่นั่นที่ทำให้วันนี้พัคจีฮุนดูต่างไปจากเดิม
"
"
"
"
อะไรวะ
องซองอูประมวลผลตามคำพูดของเพื่อนสนิทมันชวนเขามาคาเฟ่นี่ แล้วพัคจีฮุนก็โผล่มาแล้วมันก็ทิ้งเขาพร้อมกับฝากฝังอนาคตเกรดเจนเคมของเด็กคนนึงไว้ในมือเขา
แบบนี้เหรอ
ย้อนไปถึงวันแรกที่เขาเล่าถึงสาเหตุของสีแปลกตาในโลกของเขาฮวังมินฮยอนก็ฟันธงในทันทีว่าพัคจีฮุนน่ะ เป็นเนื้อคู่ของเขาจริงแท้แน่นอนถึงจะหาเหตุผลมาเถียงยากแต่องซองอูที่ไม่เคยเห็นด้วยกับคำทำนายนั้นก็ยังค้านอยู่ลึกๆในใจเขาไม่ค่อยเชื่อเรื่องพรมลิขิตหรือเนื้อคู่อะไรทำนองนั้นสักเท่าไหร่
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาประทับใจพัคจีฮุนคนนี้
–
-You’re the only one I see-
จากหน้าที่การเป็นติวเตอร์ในวันนั้นทำให้เราสนิทกันขึ้นมาเสียอย่างนั้นองซองอูค้นพบว่าเรามีหลายสิ่งที่คล้ายกัน สไตล์เพลงที่ฟัง แนวของหนังที่ชอบดาราคนโปรดจากความประทับใจในคราแรกที่เป็นเพียงแค่การที่เขาได้มองเห็นสีเพราะเด็กคนนั้นในตอนนี้ องซองอูชักไม่แน่ใจเท่าไหร่แล้วว่าการที่เขาอยากเจอพัคจีฮุนในทุกๆวันมันเป็นเพราะเขาโลภในสีพวกนั้น
หรือโลภ
ที่อยากจะอยู่ใกล้พัคจีฮุนกันแน่
.
.
.
.
องซองอูรู้จักดอกทานตะวันดอกไม้หน้าตาคล้ายพระอาทิตย์ในการ์ตูนเด็ก มีก้านชูคอยาว รวมถึงมีกลีบสีเหลืองสดใสในตลอดชีวิตยี่สิบปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้ว่าไอ้คำว่าสีเหลืองสดใสน่ะมันเป็นแบบไหนแต่วันหนึ่งในเดือนกันยา วันที่อุณหภูมิพอดิบพอดีในความรู้สึก ในตอนนั้น ณเวลาสิบห้านาฬิกา
สีเหลืองสดใสที่ว่านั่นน่ะ
"
เทียบกับสีเหลืองบนตัวของพัคจีฮุนไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
-You’re the only one I see-
องซองอูทอดมองเด็กหนุ่มที่ตัวสูงเลยไหล่เขามาเพียงคืบกับเสื้อฮู้ดสีเหลืองสดใสที่กำลังกระโดดไปทางนั้นทีทางนี้ทีมองดูคล้ายกับกระต่ายในคอกเล็กๆที่เจ้าตัวกำลังป้อนแครอทใส่ปากให้
แชะ
"
อืม
แล้วจะให้เขาอดใจไม่ลั่นชัตเตอร์ไหวได้ยังไงกัน
-You’re the only one I see-
"
ในตอนบ่ายแก่ๆเราสองคนเลือกที่จะจบทริปตามใจพัคจีฮุนในวันนี้ด้วยคาเฟ่ร้านดังร้านหนึ่งเขาเลือกมอคค่าเย็นหนึ่งแก้ว ขณะที่เด็กคนนั้นเลือกช็อคโกแลตปั่นและบราวนี่สองก้อนอาจเพราะคาเฟ่นี้อยู่บนพื้นที่ที่เป็นเนินทำให้วิวจากบาร์ติดหน้าต่างที่เราสองคนเลือกนั่งดูสวยแปลกตาองซองอูทอดมองโลกสีเทาของเขาที่ตอนนี้มีหลายอย่างเปลี่ยนไปเขาได้เรียนรู้ที่จะรู้จักสีหลายเฉดในแบบที่ไม่เคยคาดหวังว่าจะได้เห็น
และสิ่งหนึ่งที่เขายินดีที่สุดที่ได้เรียนรู้
ที่เข้ามาทำให้โลกสีทึมของเขาเปลี่ยนไป
"
"
"
ครานี้ดวงตาคู่นั้นหันกลับมาสะท้อนภาพเขามันพราวระยับราวกับผืนน้ำ
"
ราวกับกาแล็คซี่ย่อส่วนที่คอยจะดูดดึงทุกสิ่งอย่าง
"
และทุกสิ่งอย่่างนั้น
"
ก็รวมไปถึงองซองอูคนนี้ด้วย
.
.
.
.
.
"
เสียงเอะอะจากซอกตึกลับตาคนเด็กผู้ชายในชุดนักเรียนม.ต้นทับด้วยคาร์ดิแกนตัวโคร่งและเด็กที่ตัวใหญ่กว่าสามคนที่องซองอูคุ้นหน้าคุ้นตาดี
'
'
'
คนที่ตัวจ้อยสุดในวงล้อมนั้นถอยกรูดเมื่อถูกย่างสามขุมเข้าหากำปั้นใหญ่ที่ถูกรวบเข้าหากันถูกเงื้อขึ้นและนั่นก็มากเพียงพอที่จะทำให้ความอดทนขององซองอูหมดลง
'
'
'
'
เออเขาก็หวังว่ามันจะมาเอาคืนไปจริงๆสักที
'
'
'
"
"
"
“
"
ณวินาทีนั้น
"
องซองอูเพิ่งเข้าใจว่าทำไม
"
สีชมพู...
"
ดวงตาพราวระยับนั้นช้อนสบเข้ากับเขา
และเท่านั้นก็มากพอ
ที่องซองอูจะพ่ายแพ้ให้กับพัคจีฮุน
"
"..."
"
"
องซองอูเคยบอกหรือยังว่าเขามีความลับ
"
และความลับของเขาน่ะ-
"
ความลับของเขา
มือข้างหนึ่งวางลงบนแก้มนิ่มที่เฝ้ามองตลอดมาองซองอูมองลึกเข้าไปในตาคู่สวยที่เขาแอบชื่นชม ลูกแก้วสีน้ำตาลใสคลอด้วยหยาดน้ำมันสะท้อนภาพรอยยิ้มเบาบางบนใบหน้าของเขา
"
"
"
-You’re the only one I see-
[talk]
โฮฮฮฮฮฮโมเม้นวันก่อนมันเกินจะรับไหวจริงๆนะคะ T___T
เราอยากลองเวิร์สนี้มานานมากๆแล้วแต่ไม่ได้เขียนสักที พอพี่เขาลงรูปเท่านั้นล่ะค่ะ ไม่ไหวแล้ว ต้องจัดแล้ว
ถ้าหากผิดพลาดตรงไหนขออภัยมาณ ที่นี้ด้วยนะคะ ;w;
แล้วก็หวังว่าหลายๆคนจะชอบเรื่องนี้น้า
ขอบคุณองซองอูที่ทำให้เราได้อัพฟิคด้วยนะคะ
คิดถึงคนอ่านแล้วก็คิดถึงการเขียนฟิคมากๆเลย ;- ;
หวังว่าเราจะได้มาอัพฟิคให้ทุกคนได้อ่านอีกบ่อยๆนะคะ
สำหรับตอนนี้เราต้องลาไปตบตีกับมิดเทอมก่อนแล้วค่ะ T_____T
ไว้เจอกันเรื่องหน้าน้า
#cloudystory
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in