genre (s): comedy, romance, homosexual  

“มาที่นี่เพราะชอบฟังแจ๊สหรือ” ชายหนุ่มที่นั่งถัดไปเอ่ยทักขึ้นหลังจากเราดื่มหมดไปคนละสองแก้ว เขาเอียงคอ แกว่งแก้วไวน์ในมือเล็กน้อย น้ำแข็งในแก้วกระทบกันเสียงเบาเคล้าเสียงเพลงแช่มช้าแว่วมาจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ตั้งห่างออกไปไม่ไกล 

"จะว่างั้นก็ได้" ผมตอบ รีบยกเครื่องดื่มในมือขึ้นจิบกลบเกลื่อน ผมแทบไม่รู้จักเพลงแจ๊ส อันที่จริงแยกแจ๊สกับบลูส์ไม่ออกเสียด้วยซ้ำ ระหว่างฝืนกลืนเหล้ารสขมปร่าลงคอจึงได้แต่ภาวนาให้เขาไม่ชวนคุยเรื่องดนตรีต่อ ก่อนมาที่นี่ได้ยินมาว่าบาร์นี้ขึ้นชื่อเรื่องเพลงหายาก แน่นอนว่าผมไม่ได้มาเพราะเรื่องนั้น

“Let’s do it” เขาว่า  ยิ้มมุมปาก มองมาด้วยสายตาเหมือนผู้ใหญ่ที่เข้าใจทุกสิ่งอย่างกระจ่างแจ้งทั้งที่เราน่าจะอายุไล่เลี่ยกัน และทั้งที่ไม่มีมนุษย์คนใดเข้าใจโลกอย่างแท้จริง 

ผมเลิกคิ้ว

“Let’s Fall in Love” ดวงตาสีเข้มทอประกายแพรวพราว ผมนิ่งค้างเหมือนเด็กที่โดนพ่อแม่จับได้ว่าแอบเอาลูกหมามาเลี้ยง

 “ชื่อเพลงน่ะ เอลลา ฟิทซ์เจอรัลด์” เขาหลุดหัวเราะชี้ไปทางเครื่องเล่นแผ่นเสียง “นี่มัวมองจนไม่ได้ฟังเลยหรือไง” 

ผมไม่ตอบ แสร้งเบนสายตาไปทางอื่นแก้เก้อทว่าด้วยพื้นที่ของบาร์ที่ค่อนข้างแคบทำให้ไม่มีอะไรให้มองมากนัก กวาดสายตาเห็นบาร์เทนเดอร์ยืนพิงเคาเตอร์ด้วยท่าทีเคร่งขรึม ด้านหลังมีขวดเครื่องดื่มบนชั้นเรียงเป็นระเบียบล้อแสงสลัวสีส้มอ่อน  ตรงมุมมีเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ยังคงหมุนเอื่อย เพลงเดิมยังเล่นอยู่ 

People say in Boston even beans do it

Let's do it, let's fall in love

อย่าดีกว่า

หากตกลงปลงใจไปตอนนี้ ความสัมพันธ์ของเราจะจบเมื่อแสงแรกของพรุ่งนี้มาเยือน มีเพียงเรื่องนั้นที่ชัดเจน

เราต่างกันเกินไป...ในหลายๆ แง่

“ผมชอบ In the Mood” เขาว่า เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ “บอกชื่อเพลงแจ๊สที่ชอบมาสักเพลงซิ”

ผมยิ้มมุมปากเลียนแบบเขา หันไปยื่นแบงก์พันให้บาร์เทนเดอร์

“มือลั่นครับ”

//ลาก่อน

แปะสำหรับคนที่งง : 

ช่างกล้าาาาาาาาา ทั้งเรื่องมุกนี้และเรื่องที่ตอบรับคำชวนเล่น Novelber ไป 555555555 ไม่ได้เขียนมาร่วมสามปีได้มั้ง ใครหลงเข้ามาก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ //กำกาวแน่น 

ปล. ทุกเรื่องเขียนวันต่อวันค่ะ ไม่มีพล็อตแน่นอน *หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง*

cover photo from https://www.ted.com/playlists/335/talks_for_jazz_lovers