เรื่องราวการผจญภัยของเจ้าชายฟาอิซและยักษ์ในตะเกียงวิเศษเริ่มต้นมาด้วยความบังเอิญจากการหนีตายของเจ้าชาย....
เจ้าชายฟาอิซเป็นลูกชายของท่านหญิงฟาริซ่ากับสุลต่านผู้ครองนคร นามว่า ฮาซีฟ หรือชีคฮาซีฟ ครั้งหนึ่งท่านหญิงฟาริซ่าได้ช่วยเหลือชีคจากความตาย ท่านชีคให้สัญญาว่าจะทำตามคำขอของนางหนึ่งอย่าง นางจึงขอบุตรชายเป็นการแลกเปลี่ยน คืนหนึ่งท่านหญิงฟาริซ่าเล่าเรื่องนึงให้ฟาอิซน้อยฟัง
เรื่องราวของ "ตำนานของวิเศษ" ได้ถูกเล่าให้ฟัง เจ้าชายเป็นที่รักยิ่งของบิดามารดา
เติบโตเป็นฟาอิซน้อยที่อ่อนโยนและน่ารัก
กาลเวลาผันผ่าน คืนหนึ่งท่านหญิงฟาริซ่าหายตัวไปอย่างลึกลับ ชีคฮาซีฟออกตามหาแต่ไม่ว่าจะตามหาอย่างไรก็ไม่มีวี่แวว พระชายาจารีนและอัครเสนาบดีจูดาร์ได้จ้างหญิงผู้หนึ่งกล่าวความเท็จว่าท่านหญิงฟาริซ่าหนีตามชายชู้ไป นับแต่นั้นมาชีคฮาชีฟก็ไม่เคยกล่าวถึงท่านหญิงฟาริซ่าอีกเลย ชีวิตของฟาอิซตัวน้อยผกผัน จากเจ้าชายรัชทายาท จากผู้ได้รับความรักกลับกลายเป็นลูกนอกสมรส ไม่เคยได้กลับไปอยู่ในสายตาของบิดาอีกเลย
แม้จะต้องเติบโตท่ามกลางความโหดร้ายของวังหลวง
เจ้าชายฟาอิซก็ต้องเข้มแข็งขึ้น แม้จะไร้ความรักจากทั้งบิดาและมารดา แต่เขาก็ยังไม่ไร้คนที่รักเขา
เสือดาวน้อยเพื่อนรักเติบโตมาเป็นเสือดาวอันน่าเกรงขาม เคียร์ มีทั้งเขี้ยวที่แหลมคม และมีความอันตรายของสัตว์เวทย์ เสียงคำรามของมันสามารถสร้างบาดแผลให้แก่ศัตรูได้อย่างง่ายดาย
แต่โลกก็ไม่ได้ใจดีขนาดนั้น เมื่อเจ้าชายฟาอิซถูกขับออกจากนครฮาลาอันเป็นบ้านเกิด...
การหนีตายของเจ้าชายได้ผ่านเส้นทางป่าโบราณด้านหลังวัง ทำให้ได้เจอกับตะเกียงวิเศษที่เป็นสาเหตุของการเริ่มต้นการผจญภัยในชีวิตของเจ้าชาย การพบกันครั้งแรกระหว่างฟาอิซและ "คามาร์" จะเรียกว่าน่าประทับใจก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะยามนั้นเจ้าชายฟาอิซหรืออีกฉายาคือเจ้าชายทมิฬ ไม่ได้สนใจว่าผู้คนรอบตัวเขาจะคิดยังไงกับเขา กับเจ้ายักษ์นี่ก็เช่นกัน ไม่จำเป็นจะต้องถนอมน้ำใจ เป็นความสัมพันธ์ดั่งนาย - บ่าว คามาร์ถึงกับบ่นกระปอดกระแปดว่าฟาอิซไม่น่ารักเอาเสียเลย 55
คามาร์พาฟาอิซหนีออกจากการตามล่าได้สำเร็จ เจ้าชายฟาอิซได้หวนคิดถึงเรื่องเล่าของตำนานของวิเศษทั้ง 4 ที่มารดาเคยเล่าให้ฟัง การออกตามหาของวิเศษอีกสามอย่างจึงเริ่มต้นขึ้น ตะเกียงวิเศษอยู่ในครอบครองของฟาอิซแล้ว ของอีกสามอย่างที่ต้องตามหาคือ พรมวิเศษ แหวนวิเศษ และมีดวิเศษ ของแต่ละชิ้นกระจัดกระจายอยู่ในแต่ละพื้นที่ของอาณาจักรทะเลทรายอันกว้างใหญ่นี้
เรื่องราวระหว่างรวบรวมของวิเศษที่เหลือมีทั้งการผจญภัยอันน่าตื่นเต้น ตั้งแต่การตามหาพรมวิเศษที่ชอบอยู่ใต้กระโปรงของนักระบำหน้าท้อง (?) แหวนวิเศษที่ถูกซ่อนอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แล้วมีดวิเศษที่ไม่เป็นที่โปรดปรานของเหล่าของวิเศษเพราะข้อแม้ในการใช้งานของเจ้ามีดเล่มนี้ ฟาอิซเดินทางรวบรวมของวิเศษทั้งสี่อย่างจนครบ แต่หนทางของเขาก็ไม่ง่ายดายเพียงแค่รวบรวมของวิเศษได้
ระหว่างทางฟาอิซต้องพบเจอกับบททดสอบต่าง ๆ ที่ค่อย ๆ เปลี่ยนความคิดของเขา เปลี่ยนแปลงมุมมองของเจ้าชายทมิฬให้อ่อนโยนขึ้น คิดถึงผู้อื่นมากขึ้น เมื่อได้รัก ก็ต้องมีการสูญเสีย เขาได้สูญเสียเพื่อนร่วมทางไปในหลาย ๆ ครั้ง แม้จะเสียใจ แต่ชีวิตก็คือชีวิต ฟาอิซต้องเข้มแข็งเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายที่เขาได้ตั้งเป้าเอาไว้
การเดินทางครั้งนี้ทำให้เจ้าชายฟาอิซได้รับรู้ความลับของตัวเอง ว่าเขาคือใคร ท่านหญิงฟาริซ่าผู้เป็นมารดาไม่ได้เป็นเพียงนักบวชอย่างที่เคยเข้าใจ ยักษ์คามาร์มีอดีตอันลึกลับมากมาย เหตุใดเขาถึงรู้สึกผูกพันกับยักษ์ตนนี้มากมายขนาดนี้กันนะ เรื่องราวลึกลับกว่าหลายพันปีที่ผ่านมา เหตุใดอาณาจักรที่เคยรุ่งเรืองถึงได้ล่มจม
ฟาอิซไม่เพียงแต่พัฒนาตนเอง แต่การเดินทางในครั้งนี้ได้พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเขาและคามาร์ แรกเริ่มเป็นเพียงนาย - บ่าว เจ้ายักษ์ขี้บ่นชอบบ่นฟาอิซว่าไม่น่ารักบ้าง ฟาอิซก็ไม่ได้สนใจ แต่การเดินทางผจญภัยก็มีหลาย ๆ ครั้งที่ทั้งสองคนได้ใกล้ชิดกัน แม้โมเม้นท์ของทั้งคู่ในเรื่องจะไม่ได้มีเยอะ เพราะเราจะเห็นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อย ๆ พัฒนา จากไม่รัก เป็นห่วงใย (แบบซึน ๆ ของเจ้าหนูฟาอิซนะคะ 555) ห่วงใยกลายเป็นห่วงหา มีจังหวะกระทบกระทั่งกัน แต่ก็ถือเป็นบททดสอบในความสมัพันธ์ของทั้งคู่
เจ้ายักษ์คามาร์ที่มีความลับเยอะซธเหลือเกินก็ดูแลฟาอิซในแบบยักษ์ ๆ แกล้งบ้างกวนบ้างตามประสา แต่เหตุผลหลักที่ทำแบบนั้นเพราะเขารักฟาอิซน้อยมาก อ่านไปจะค่อย ๆ ซึมซับความห่วงหาและอาวรณ์จากยักษ์ตนนี้ได้อย่างดีเลยค่ะ คน ๆ นึงจะสามารถรักใครได้มากขนาดรอเขามาหลายพันปีได้ไหม
คามาร์คือคำตอบนั้นเลยค่ะ
ซีนดราม่าเรื่องนี้มีอยู่บ้างค่ะ แต่ไม่หนักหนามาก อ่านไปเราก็น้ำตาไหลอยู่ (อ่อนไหวง่ายเป็นทุนเดิม5555) แต่ถือเป็นจุดสำคัญของเรื่องเลยก็ว่าได้ ห้ามพลาดตรงซีนดราม่าเลย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in