เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Movie / Series Therapymer961111
WORK FROM HOME DAY24 | (เล่าให้ฟัง) ซีรีย์เกาหลี Misaeng : Incomplete Life
  • Misaeng เป็นภาษาเกาหลี แปลว่า ชีวิตที่ไม่สมบูรณ์ ไปอ่านมาบางเพจบอกว่าเป็นศัพท์ที่มาจากการเล่นหมากล้อมแปลได้ว่าเหมือนตอนที่หมากโดนล้อมไว้จนไม่สามารถขยับได้ แต่อย่างไรก็แล้วแต่หากแปลโดยรวมแล้วคำว่า Misaeng ก็คงจะหมายถึง ชีวิตที่ไม่ได้สมบูรณ์ราบรื่นมากหนัก จริง ๆ ซีรีย์เรื่องนี้เคยดูนานแล้ว แต่เห็นในทวิตเตอร์มีคนพูดถึงเลยนึกขึ้นได้เลยอยากจากเขียนถึงดู 


    Misaeng เป็นซีรีย์ที่พูดถึงชีวิตการทำงานในรูปแบบที่เราคิดว่าถ้าใครกำลังเริ่มต้นงานใหม่ ๆ คงอินมากเพราะตอนที่ดูนี้ร้องไห้ไปหลายรอบ ซีรีย์เริื่องนี้ดำเนินเรื่องโดยจางกือแรที่เคยเป็นเซียนหมากล้อมแต่ชีวิตกับพลิกพลันทำให้เขาต้องเข้าสู่ชีวิตการทำงานแบบชาวออฟฟิศ หากจะกล่าวว่าพวกที่ไม่ได้จบมหาวิทยาลัยดังนั้นเริ่มต้นจาก 0 ส่วนคนที่ไม่ได้จบแม้แต่มหาวิทยาลัยนั้นเริ่มต้นจากติดลบคงไม่เกินจริง และจางกือแรคือคนที่ติดลบเขาไม่ได้เรียนจบมหาวิทยาลัยทำให้ในบริษัทเขาดูเหมือนแปลกแยก อีกทั้งวิธีการเข้าทำงานของเขานั้นอาจจะพูดว่าไม่สุจริตก็ได้ แต่หากมองในโลกความเป็นจริงแล้วเรื่องของเส้นสายเป็นเรื่องที่ปกติมากในการทำงานแม้ว่าบ้างครั้งแต่ละหน่วยงานจะเปิดโอกาสให้คนที่มีความสามารถก็ตามแต่กระนั้นระบบอุปถัมป์ก็ยังมีอยู่ และเชื่อว่าไม่ใช่แค่ในไทยแต่ทั่วโลกก็น่าจะมีระบบแบบนี้แฝงอยู่ในหน่วยงานไม่น้อย ทั้งนี้หลังเข้าทำงานในช่วงแรกจางกือแรต้องเผชิญกับสังคมที่ตัวเขารู้สึกว่ามันไม่ใช่ที่ ๆ เขาควรอยู่ บรรยากาศในช่วงแรกของซีรีย์อึดอัดมากไม่รู้ว่าในวงการเกี่ยวกับหนัง ละคร เขามีวิธีการยังไงแต่ภาพ แล้วก็ Mood & Tone สีหน้าตัวละคร มันชวนให้อึดอัดไปหมด และถ้าใครเคยผ่านประสบการณ์การเริ่มต้นชีวิตการทำงานช่วงแรกคงเข้าใจกือแรดีเลย เพราะเป็นช่วงที่เราต้องปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ ในนั้นเต็มไปด้วยความหลากหลายทั้งเพศ อายุ การศึกษา ครอบครัว และหันไปทางไหนก็รู้สึกประดักประเดิดไปหมด อยากเข้าไปช่วยเขาทำงานแต่ก็ทำไม่ได้ หรือพออยู่เฉยรอคนมาสอนงานก็ดูไม่ตั้งใจไปอีก มันอึดอัดมากจนอยากร้องไห้เลย นอกจากนั้นคำกล่าวว่าในชีวิตการทำงานได้หัวหน้าดีคือลาภอันประเสริฐเป็นเรื่องจริง กือแรเองในช่วงแรกเขาไม่ได้รับการยอมแม้กระทั่งคนเป็นหัวหน้า ทุก ๆ คนตั้งคำถามกับการมาของเขาแต่หัวหน้าที่ดูแลกือแรเองด้วยความเป็นผู้ใหญ่ทำให้เขาไม่ได้แสดงท่าที่ว่าชอบแต่ก็ไม่ถึงกับรังแกจนน่าเกลียด กือแรฝึกงานในแผนกโดยทำทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นถ่ายเอกสาร ซื้อกาแฟทำ หรือเรื่องที่คนอื่นวานขอให้ช่วยมากมาย จนได้รับการยอมรับจากหัวหน้าและเริ่มมอบหมายหน้าที่ให้ทำ ชีวิตการทำงานของเขาดูเหมือนจะง่ายแต่ในองค์กรใหญ่นั้นจะมีสิ่งที่เรียกว่าการเมืองอยู่ในนั้นเสมอ และถ้าเลือกข้างผิดชีวิตจบทันทีแต่ถ้าไม่เลือกข้างนั้นก็ไม่ได้ทำให้เรามีชีวิตที่ปลอดภัยเท่าไหร่ กือแรเองก็ไม่ได้เลือกข้างโดยตรงแต่เขาอยู่กับหัวหน้าทำให้ถูกมองว่าเป็นพวกเดียวกัน ซึ่งด้วยความตรงฉินของหัวหน้าเขาทำให้ไปขัดผลประโยชน์ของคนกลุ่มใหญ่ แผนกของเขาจึงมีปัญหาให้แก้โดยตลอด ในพาร์ทแรก ๆ ของซีรีย์จะเน้นนักไปที่การต่อสู้ในชีวิตการทำงาน การปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ ๆ รวมถึงการเอาชนะใจตัวเองของจางกือแร แต่พาร์ทต่อ ๆ ไปแม้ว่าจะมีกือแรเป็นตัวนำแต่บทถูกเกลี่ยให้คนที่มาฝึกงานพร้อมกับกือแรมากขึ้น

    นอกจากชีวิตการทำงานของชายที่ไม่ได้มีต้นทุนอย่างจางกือแรแล้วซีรีย์เรื่องนี้ยังเล่าถึงชีวิตการทำงานของคนทำงานอย่างตรงไปตรงมา บทของยางยี แบคกี ซอกยอนนั้นสะท้อนชีวิตการทำงานได้อย่างเจ็บปวด ยางยี แบคกี ซอกยอนถือว่าเป็นตัวเต็งในตอนที่พวกเขาฝึกงานก่อนจะได้รับการประเมินให้เข้าร่วมบริษัท ทุกคนทำหน้าที่อย่างดีในแผนกที่ตัวเองอยู่ช่วงฝึกงานจนถึงการประเมินแม้ว่าจะมีเหตุการณ์มากมายแต่ทุกคนก็ผ่านมันมาได้ แต่โลกแห่งความจริงกับช่วงฝึกงานนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ยางยีที่เคยทำได้ดีพอเข้าสู่แผนกการทำงานจริง ๆ กลับถูกกดทับด้วยเพศสภาพเนื่องด้วยกลุ่มที่เธออยู่นั้นเป็นผู้ชายล้วนเธอมักถูกหัวหน้าต่อว่า และดูถูกเรื่องที่เธอเป็นผู้หญิงอยู่เสมอซึ่งในส่วนนี้ชอบมากเพราะในชีวิตจริงของผู้หญิงเกาหลีไม่น้อยที่ต้องถูกเหยียดเพียงพอเธอเป็นผู้หญิง มีการพูดถึงเรื่องลาคลอดพวกผู้ชายไม่อยากถูกเอาเปรียบหากเธอต้องลาคลอด และหายไปหลายเดือน หรือการพูดว่าเธอใส่เสื้อผ้าที่ยั่วยวน วัน ๆ คิดแต่เรื่องการแต่งตัว ชื่นชมตรงที่ซีรีย์กล้าทำเพราะปกติประเทศเกาหลีความเหลื่อมล้ำของผู้หญิงกับผู้ชายในการทำงานนั้นมีมาก และบทที่ใส่มารุนแรงมากถ้าเทียบกับเรื่องอื่น ๆ แต่เขาก็สะท้อนมันออกมาให้สังคมได้เห็น และชวนให้ขบคิดว่าวิถีปฏิบัติที่ทำกันอยู่มันถูกต้องแล้วหรือ ส่วนแบคกีเขาเป็นคนหน้าตาดี และฉลาด เขาเป็นหนึ่งในผู้ฝึกงานที่ทุกแผนกต้องการตัว หลังจากผ่านการประเมินแบคกีเจอเรื่องไม่คาดฝันเขาได้ไปอยู่ในแผนกที่เขาไม่อยากอยู่ ซึ่งเขาไม่ได้รับการสอนงานอย่างที่หัวหน้าฝ่ายอื่น ๆ ทำ เขาไม่ชอบหัวหน้าของตัวเอง และรู้สึกว่าศักดิ์ศรีของเขาถูกลดทอนเมื่อมาอยู่ในแผนกนี้ บทของแบคกีเป็นบทบาทที่ไม่ใช่ตัวร้ายแต่ก็ไม่ได้เป็นคนดี แบคกีคือมนุษย์ที่เราเห็นได้ในชีวิตจริงของคนทั่วไป ซึ่งทุกคนน่าจะมีความเป็นแบคกีอยู่ในตัว เพราะบางครั้งก็รู้สึกเหย่อยิ่งเกินกว่าจะก้มหัวให้ใคร คิดว่าสิ่งที่เราทำมันถูกต้องที่สุดคนอื่นนั้นเต็มไปด้วยอคติเพราะเขาเกลียดเรา ไม่ชอบสิ่งที่เราทำ อาจเพราะว่าเราเผลอเข้าข้างตัวเองว่าเรานั้นเก่งเกินใคร แต่ถ้ามองจริง ๆ แล้วเรานั้นยังเป็นแค่เด็กหัดเดินในเรื่องที่เราไม่รู้ บางเรื่องมันต้องอาศัยประสบการณ์ และการเรียนรู้มากกว่าในตำราเพื่อที่จะเข้าใจสิ่งนั้นได้ บทบาทของแบคกีนั้นเราชอบมากเพราะคังฮานึลเล่น สุดท้ายซอกยอนเขาคือคนที่เชี่ยวชาญด้านภาคพื้นเข้าใจแรงงานมากกว่าใครแต่สุดท้ายหลังกันประเมินเขากลับถูกขังอยู่ในออฟฟิศโดยไม่มีแม้แต่โอกาสไปแตะสิ่งที่เขาถนัด ซอกยอนต้องเจอกับหัวหน้าที่ร้ายกาจจนรู้สึกทนไม่ไหว และหาทางจะเอาคืนอยู่เสมอ ในชีวิตการทำงานของเขาหลังการประเมินเต็มไปด้วยความเจ็บช้ำจากการถูกใช้งานอย่างเอารัดเอาเปรียบ การเบียดเบียนโดยใช้เงินของเขาในแต่ละครั้ง เขาพยายามหาทางที่จะร้องเรียน แต่ก็ไม่เป็นผลจนในที่สุดเขาตัดสินใจที่แฉหัวหน้าของเขาอย่างแยบยล สิ่งที่ซอกยอนเจออาจดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่หากมีคนที่ไม่ใช่แบบซอกยอนความเลวร้ายที่เกิดขึ้นจะมากกว่านี้หรือเปล่า เพราะถ้าสถานการณ์บีบคั้นคนที่เขาจนตรอกมาก ๆ โดยที่เขาไม่ได้รับความเป็นธรรม  ความรุนแรงอาจจะถูกนำมาเป็นทางออกได้ เราคงเห็นได้ชัด ๆ จาก กรณีเมื่อต้นปีที่มีนายทหารไล่ทำร้ายผู้อื่นเพราะเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมจากหน่วยงาน หรืออย่างล่าสุดที่มีประชาชนบุกไปกระทรวงเพราะไม่ได้รับการเยียวยาโดยไม่กลัวการติดโรคโควิด

    เรื่องนี้สนุกมากถ้าใครชอบดูซีรีย์เกี่ยวกับการทำงานแนะนำ เพราะปกติซีรีืย์เกี่ยวกับอาชีพของเกาหลีส่วนใหญ่เป็นแบบเฉพาะทางซะส่วนใหญ่เราจะไม่ค่อยได้เห็นเอกสารกองโต ไม่เห็นแผ่นกั้นระหว่างโต๊ะ หรือเสียงโทรศัพท์ที่ดังอยู่ตลอด หรือแม้ยูนิฟอร์มที่ชาวออฟฟิศชอบใส่ ซึ่งเราจะได้เห็นในซีรีย์เรื่องนี้แน่นอน การทำงานในเรื่องมันสมจริงมาก และก็สะท้อนสังคมการทำงานจริง ๆ เรื่องนี้ไม่ค่อยมีเลิฟไลน์มากแต่ก็มีอยู่ซึ่งส่วนตัวชอบเพราะไม่ชอบดูละครที่อบอวลไปด้วยการจีบกันของพระเอกนางเอกเท่าไหร่ อีกอย่างหนึ่งที่เราชอบคือตัวเอกของเรื่องอย่างจากงกือแรเล่นได้อึดอัดมาก ดูแล้วแบบอยากร้องไห้หรือจะอ้วกอะมันเหมือนมีก้อนบางอย่างอยู่เวลาที่เขาอยู่ในที่ทำงาน หรือกำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ในออฟฟิศ แต่ถือว่าพัฒนาการของตัวละครเรื่องนี้คือดีเพราะทุกคนมีพัฒนาการหมดเอาเป็นว่าดูแล้วคิดถึงตัวเองใครสนใจก็ลองไปติดตามดูได้ 


    Misaeng มีทั้งหมด 20 ตอน ตอนละชั่วโมงกว่า มีฉายใน Netflix กับ Viu นำแสดงโดย  Im Si Wan , Kang Sora ,Kang Haneul , Byun Yohan ,Lee Sungmin




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in