'สยาม' จัดได้ว่า เป็นย่านที่แสนคึกคักที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร
แต่ในวันนี้ 'สยาม' ที่เรารู้จักกันอาจจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ก่อนยุคโคโรน่า หากวันใดจะเข้าไปทำธุระที่สยามแล้ว เราจะต้องเผื่อเวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง กว่าจะได้เลี้ยงเข้าสยาม กว่าจะหาที่จอดรถ ก็กินเวลาไปนานโข แต่ในวันนี้ สถานที่อันแสนจอแจ แออัดไปด้วยผู้คน ช่างต่างออกไปจากภาพที่เราคุ้นเคยเหลือเกิน...
แม้ร้านรวงต่างๆจะเริ่มเปิดทำการเป็นปกติ แต่สยามแสควร์ในวันนี้ก็ออกจะเงียบเหงาไปสักนิด โดยเฉพาะร้านอาหาร ตั้งแต่ ก้าวเท้าเข้าประตูร้านจะมีพนักงานใส่ ผ้าปิดปากและface shield คอยตรวจวัดดุณหภูมิของร่างกาย เมื่อผ่านด่านแรกมาก็จะได้ยินคำพูดอันแสนคุ้นเคยว่า 'มีโต๊ะหรือยังคะ?' ซึ่งเป็นความเคยชินอันแสนย้อนแย้งกับวิถีในปัจจุบันเหลือเกิน เพราะ ทุกวันนี้ หนึ่งโต๊ะสามารถนั่งได้เพียงหนึ่งคนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม คุณพนักงานได้จัดโต๊ะแบบแยก แต่อยู่ใกล้กันให้กับครอบครัวหรือเพื่อนฝูงที่มาด้วยกันอย่างใส่ใจ
เมื่อเราได้ที่นั่งเป็นของตัวเองแล้ว พนักงานก็นำเมนูมาให้ ซึ่งหากสังเกตดีๆ ในเมนูยังมีละอองจากการพ่นแอลกอฮอล์ติดอยู่เลยหล่ะ และก่อนจะทิ้งให้เราได้เลือกรายการอาหารที่ต้องการอย่างเงียบเชียเพียงคนเดียวแล้ว พนักงานก็ได้แนะนำ QR code ที่ใช้ติดตามตัว โดยจะต้องกรอกข้อมูล ทั้งตอน check-in และ check-out ซึ่งหลังจากพยายามเข้าเว็บไป 3 รอบก็เข้าไม่ได้เสียที แม้จะรู้สึกผิดอยู่บ้าง แต่ก็ต้องล้มเลิกความตั้งใจไป เพราะอย่างไรเสีย น้องสาวของเราที่มาด้วยกันก็ได้กรอกข้อมูลในส่วนนี้ไปแล้ว
สำหรับเราที่มักจะต้องทานข้าวคนเดียวเป็นประจำแล้ว การนั่งทานคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพียงแต่บรรยากาศต่างหากที่เปลี่ยนไป การแชร์อาหาร การพูดคุย การมีปฏิสัมพันธ์กันระหว่างลูกค้า เพื่อนร่วมโต๊ะ พนักงาน ทุกอย่างล้วนต้องปรับไปตามสถานการณ์
แม้การห่างกัน อาจจะไม่ได้ทำให้เรารู้สึกถึง service mind ที่ขาดหาย แต่หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่เคยแอบขำจากเรื่องที่คนโต๊ะข้างๆคุยกัน หรือ คนที่รู้จักกันผ่านการเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะอาหาร ก็อดปฏิเสธไม่ได้ว่า สีสันเล็กของชีวิตคงจะจางหายไปไม่มากก็น้อย
อย่างน้อย อาหารวันนี้ก็ยังอร่อยเหมือนเดิมนะ :)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in