เวลานี้ เมื่อ 1 ปีก่อน เราตัดสินใจไปเรียนภาษาเกาหลีที่ ELC ซึ่งเป็นสถาบันสอนภาษาของ Ewha Womans University มาค่ะ ซึ่งความจริง ตั้งใจจะเขียนเกี่ยวกับการไปเรียนซัมเมอร์ที่เกาหลีของตัวเองตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือเขียนอย่างจริงจังเสียที จนคนที่รออ่าน ก็เลิกถามถึงไปแล้วค่ะ TT

Short-term Course ที่ ELC จะเรียนช่วง Mon - Fri เวลา บ่าย 2 ถึง 6 โมง จะเบรคทุกๆ 45 - 50 นาที 

ใน 1 วัน จะมีซอนแซงนิม 2 คน คอยสลับกันสอน ซึ่งคุณครูที่สถาบันภาษาจะมีความเข้าใจเด็กต่างชาติอย่างเรา ใจเย็นและใจดีมากๆ ระยะเวลาเรียนทั้งหมด 3 สัปดาห์ รวมทัศนศึกษา 2 ครั้ง การสอบจบ 1 วัน และวันรับใบประกาศนียบัตร แอบกระซิบว่า ถ้าสอบได้ที่ 1 ของคลาสจะมีรางวัลให้ด้วย #เราก็ได้มา อิ้อิ้

สำหรับการวางเพลน เราต้องไปถึงก่อนหน้าวันเรียนประมาณ 2-3 วัน เพื่อไปสอบ pre-test ด้วยนะ ซึ่ง pre-test จะมี 2 ส่วน คือ ทำข้อสอบออนไลน์จากไทยไป และไปสอบสัมภาษณ์ที่ ELC ซึ่งไม่กดดันเลยจริงๆนะ :)  #ขอให้จริงใจกับระดับความรู้ของตัวเอง เพื่อให้ได้คลาสที่เหมาะกับเราจริงๆ

การสอบจบผ่านระดับ เราจะต้องเข้าเรียนตามที่กำหนด คือ ห้ามขาดเกิน 1-2 ครั้ง และต้องสอบ post-test ให้ได้ 70/100 ขึ้นไป โดยข้อสอบจะแบ่งเป็น writing, choice: listen + grammar, speaking

พูดถึงเรื่องเรียนและการสอบ หลายๆคนก็จะเกิดคำถามว่า 

คำตอบจากเราก็ คืออออ 

เราอ่านหนังสือประมาณ 2 วันก่อนสอบ อ่านจริงจัง คือ 1 วันก่อนสอบ (แต่เราอ่านจริงจังมากๆจริงๆนะ เลิกเรียน อ่านตั้งแต่ 6 โมง ถึง เที่ยงคืน เช้าตื่น 9 โมง มาอ่านต่อถึงเที่ยง พักสมองนิดหน่อย แล้วไปสอบ บ่าย 2 เลย) ผลสรุป คือ เราได้ 95.1/100 จ้า แต่ที่เกิดคาด คือ เราได้ ranked 1st of 1-2 class น้ำตาจะไหลอ่ะ บอกเลย ตอนเค้าประกาศ T^T

ต่อมา เป็นเรื่องที่คิดว่าหลายๆคนอยากรู้ที่สุด... 'ค่าใช้จ่าย' นั่นเอง

เบ็ดเสร็จทั้งทริป 24 วัน เราใช้เงินไปทั้งหมด ประมาณ 80,000 บาท แบ่งออกเป็น

จากรูป เหมือนห้องจะเล็ก แต่ถ้าพูดตามตรง เราว่า พื้นที่ค่อนข้างกว้างแล้ว สำหรับห้องในเกาหลี

เราเคยไปคุยกับเอเจนซี่ ได้ห้องโกชิวอน ราคาแพงกว่านี้อีก :(

ปล. ถ้าออกต่างจังหวัด หรือ ออกนอกเมืองบ่อยๆ ค่าเดินทางก็จะแพงขึ้นด้วยนะ

โดยส่วนตัว เราตั้งงบประมาณเริ่มแรกไว้ที่ 70,000 บาท ไม่รวมช้อปปิ้ง ดังนั้น ราคานี้ ถือว่า รับได้กับงบที่เราตั้งไว้ แต่ถ้าใครใช้ชีวิตประหยัดกว่านี้ ก็จะลดค่าใช้จ่ายลงได้นะ :)

สิ่งที่ทำให้เราตัดสินใจมาเรียนที่ ELC คือ ที่นี่ มี Dowoomi หรือ Buddy ให้นั่นเอง แต่ว่า 1 คลาส จะมี Buddy ไม่พอจำนวนนักเรียน ใครยกมือก่อน ก็ได้รับสิทธิ์นี้ไปจ้า ยกเว้น เด็กศิลปากร ก็จะได้แบบ Fast Track เป็น First Prority ไป ซึ่งเค้าจะบอกวันแรกที่เข้าคลาส เด็กทุกคนก็จะ งง ใครเก็ทเร็วก็ได้ไป และระดับเราก็ แน่นอน พลาดจ้า แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเฟลมากมายขนาดนั้น แต่ลึกๆ ก็อยากมีเพื่อนเกาหลีอ่ะแหละ

หลังจาก 1ปี ผ่านไป เราก็ยังรู้สึกว่า เราตัดสินใจถูกต้องที่สุด ที่ไปเรียนซัมเมอร์ที่เกาหลี ทักษะภาษาเกาหลีของเรา คือ เลเวลอัพ เรามองในแง่กระบวนการคิดในสมองเรานะ นอกจากนี้ ภาษาจีนที่ไม่ได้พูดมานานมากของเราก็ได้งัดออกมาใช้ในยามคับขัน ทำให้มีแรงบันดาลในในการกลับไปฟื้นภาษาจีนและที่สำคัญที่สุด คือ เพื่อนในคลาส ถึงจะแค่ 3 สัปดาห์ แต่เราได้เพื่อนใหม่มาเยอะมากๆ ไม่ว่าจะ เพื่อนคนไทยหรือต่างชาติ เป็นอารมณ์แบบตอนอยู่นู่น ปิดคลาสแล้วชวนกันไปแฮงเอาท์ได้ กลับมาเจอกันก็ทักทายกัน ซึ่งเพื่อนอาจจะไม่รู้ เราแฮปปี้จริงๆ ณ จุดนี้ #จากในมนุษย์ introvert ตัวน้อยๆ

ในทางกลับกัน ถ้าถามว่า ปิดเทอมปี 4 ซึ่งเป็นปิดเทอมสุดท้ายของเรา เราจะกลับไปเรียนอีกมั้ย? 

ตอนนี้ในใจเราตอบว่า 'อาจจะไม่' เพราะ เราไม่มีเพื่อนที่จะไปเป็นรูมเมท 24/7 กับเรา ซึ่งจะทำให้การใช้ชีวิตที่เกาหลีของเรายาก (ใครเคยไปเที่ยวจะเข้าใจเรา)  #ขอละไว้ก่อน ถ้าเล่าแล้วจะยาว

สุดท้ายนี้ เราก็ยังไม่รู้ว่า เมื่อไหร่จะได้ลงมือเขียนรายละเอียดต่างๆ อย่างจริงจัง แต่คิดว่า จะต้องผลิตมันออกมาอย่างแน่นอน แต่ถ้าใครมีคำถามอะไรก็ ฝากไว้ที่คอมเมนต์ได้นะ เราจะรีบมาตอบเลยค่า

รัก,

WIPASANE