ยา PEP หรือ Post-Exposure Prophylaxis เป็นยาต้านไวรัสที่ใช้ในกรณีฉุกเฉินหลังจากมีความเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อ HIV ไม่ว่าจะเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน เข็มตำ หรือการสัมผัสเลือดโดยตรง จุดประสงค์คือเพื่อยับยั้งไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายและเพิ่มโอกาสการป้องกันการติดเชื้อ
PEP ไม่ใช่ยาที่ใช้แทนการป้องกันปกติ เช่น การใช้ถุงยางอนามัยหรือการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย แต่เป็นมาตรการเสริมที่ควรได้รับอย่างเร่งด่วนและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
ยา PEP คือการใช้ยาต้านไวรัส (Antiretroviral Drugs) เป็นระยะเวลา 28 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อ HIV ฝังตัวในร่างกาย ยาจะได้ผลดีที่สุดเมื่อเริ่มทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากมีความเสี่ยง ยิ่งเริ่มเร็ว โอกาสป้องกันยิ่งสูง
กลไกของ PEP คือการขัดขวางไม่ให้เชื้อ HIV ทำสำเนาและแพร่กระจายภายในเซลล์ หากเชื้อยังไม่ทันฝังตัว ยาจะช่วยหยุดการติดเชื้อได้ แต่หากเริ่มทานช้าเกินไป ประสิทธิภาพของยาจะลดลงอย่างมาก
งานวิจัยหลายฉบับยืนยันว่า PEP สามารถลดความเสี่ยงการติดเชื้อ HIV ได้มาก หากเริ่มใช้ภายใน 72 ชั่วโมงและทานครบตามกำหนด อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพไม่ได้เท่ากับการป้องกัน 100% จึงไม่ควรใช้แทนการป้องกันหลัก เช่น การใช้ถุงยางอนามัยหรือ PrEP
ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันกับคู่ที่มีความเสี่ยงสูง
ผู้ที่ถูกเข็มตำจากการทำงานทางการแพทย์หรือการสัก
ผู้ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
ผู้ที่สัมผัสเลือดหรือสารคัดหลั่งที่อาจมีเชื้อโดยตรง
หากอยู่ในกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุดเพื่อประเมินการใช้ PEP
การรับยา PEP ต้องได้รับการตรวจและสั่งโดยแพทย์ สามารถไปที่โรงพยาบาลรัฐ เอกชน หรือคลินิกบางแห่งที่มีบริการตรวจและรักษา HIV การเข้ารับบริการเร็วที่สุดเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากเกิน 72 ชั่วโมงหลังการสัมผัส ยาจะไม่สามารถป้องกันได้แล้ว
ผู้ที่ทาน PEP อาจพบผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย หรือมีความผิดปกติทางระบบทางเดินอาหาร อาการเหล่านี้มักไม่รุนแรงและหายได้เอง หากมีอาการมาก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อปรับการรักษา
ต้องทานยาต่อเนื่องครบ 28 วัน ห้ามหยุดเอง
ควรใช้ถุงยางทุกครั้งเมื่อต้องมีเพศสัมพันธ์
หลีกเลี่ยงการใช้ยา/สมุนไพรที่อาจรบกวนประสิทธิภาพยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์
ควรมาตรวจเลือดตามนัดเพื่อประเมินผล
สามารถมีได้ แต่ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อและการติดเชื้อโรคอื่น ๆ
โดยทั่วไป แพทย์จะแนะนำให้ตรวจเลือดซ้ำที่ 1 เดือน, 3 เดือน และ 6 เดือนหลังจบคอร์ส PEP เพื่อยืนยันผล
ไม่ได้ ยา PEP ป้องกันเฉพาะเชื้อ HIV เท่านั้น สำหรับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น เช่น ซิฟิลิส หนองใน หรือ HPV ต้องใช้วิธีป้องกันอื่นร่วมด้วย เช่น การใช้ถุงยางอนามัยและการตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ
ยา PEP เป็นมาตรการฉุกเฉินที่มีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงติดเชื้อ HIV แต่ต้องทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีความเสี่ยงและครบ 28 วัน การใช้ PEP ไม่ได้แทนการป้องกันหลัก แต่เป็นเพียงเครื่องมือเสริม ควรใช้ถุงยางอนามัยและตรวจสุขภาพสม่ำเสมอควบคู่ไปด้วย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in