ความธรรมดาที่แสนพิเศษในภาพยนตร์เรื่องนี้คือเราประทับใจมันได้อย่างง่ายดายตั้งแต่ 5 นาทีแรกที่ได้ดู ภาพยนตร์ feel good อาจเป็นภาพยนตร์ที่ย่อยง่ายและอาจถูกเข้าใจว่าเป็นพล็อตที่แสน Cliché ไปแล้ว แต่เจ้าแห่งการผลิต content แนว Feel good อย่างญี่ปุ่นเองก็ไม่เคยหยุดอยู่ที่เดิม เริ่มเรื่องอย่างเรียบง่ายด้วยเรื่องของซาโต้ผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่งที่เชื่อในเรื่องพรหมลิขิต และเพื่อนๆ ของเขาอย่างยูมิและโอดะที่ไม่น่าเชื่อว่าจะลงเอยกลายเป็นคู่สามีภรรยากันได้ ในขณะที่ซาโต้ใช้ชีวิตและค่อยๆ เรียนรู้จากคนรอบข้าง พรหมลิขิตก็ทำหน้าที่ของมันขึ้นมาโดยบังเอิญเมื่อเขาได้เจอกับซากิ ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ยอมทำแบบสอบถามของบริษัทที่เขามาเดินแจก เรื่องราวของตัวละครต่างๆ เล่าขนานกันไปพร้อมกับเรื่องราวของมินาโกะที่จู่ๆ ก็ได้เป็นแฟนกับแชมป์มวยโลกคนใหม่ วินสตัน โอโนะ เนื้อเรื่องดำเนินสลับไประหว่างเรื่องราวไม่น่าเชื่อที่เกิดขึ้นอย่างลงล็อคทั้งดีร้ายของตัวละครและความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวแต่ละคนนั้นล้วนแล้วแต่ทิ้งตะกอนเรื่องราวบางอย่างที่มีค่าไว้
ตอนที่เราตกลงไปดูหนังเรื่องนี้กับเพื่อนโดยที่ไม่ดูตัวอย่างไปก่อนเลย ซ้ำร้ายการอ่านเรื่องย่อก็ไม่ทำให้เราเข้าใจเนื้อหาของภาพยนตร์มากเท่าไหร่นัก แต่ภายใน 5-10 นาทีแรกเราก็อมยิ้มให้กับหนังเรื่องนี้เสียแล้ว ความเรียบง่ายและผู้ชายที่ชื่อมิอุระ ฮารุมะทำให้เราตกหลุมรักหนังเรื่องนี้และอยากชวนให้หลายๆ คนได้มาดู
เพลง Little Night ของคุณ Kazuyoshi Saito ที่บรรเลงคลอไปตลอดทั้งเรื่องนั้นเชื่อมโยงเรื่องราวจากเรื่องหนึ่งมาอีกเรื่องหนึ่ง ในช่วงชีวิตที่ได้เรียนรู้จากความรักและความสัมพันธ์แม้จะยังไม่เข้าใจอะไรอีกหลายอย่าง ความผิดหวังและความพ่ายแพ้เองก็มารออยู่ตรงหน้าแล้วเช่นกัน
เรื่องราวของ Little Night, Little Love ดำเนินไปแบบนั้น ความรักระหว่างซากิและซาโต้ ครอบครัวของโอดะและยูมิในวันที่มิโอะลูกสาวคนโตกลายเป็นวัยรุ่นที่อดคิดไม่ได้ว่าครอบครัวของเธอช่างแปลกพิลึก คุรุเมะหนุ่มน้อยเพื่อนร่วมชั้นของมิโอะที่รู้สึกว่าพ่อของเขาช่างไม่น่านับถือเอาเสียเลย และเรื่องราวของตัวแทนแห่งความหวังอย่างวินสตัน โอโนะ (มานาบุ โอโนะ) ที่ต้องเผชิญจุดตกต่ำที่สุดในการเป็นนักมวยนั่นคือความพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกชีวิตล้วนเกิดจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ค่อยๆ เกิดขึ้นอย่างสวยงามและทำให้เราอยากเอาใจช่วยและอดคิดไปถึงเรื่องราวของตัวเองไม่ได้
ความสับสนและความลังเลใจที่จะก้าวเดินต่อไปนั้นอาจทำให้เราได้หยุดพักและนั่งขบคิดไตร่ตรองถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอีกครั้ง เหมือนที่คุณฟูจิมะยังคงจำคำถามของซาโต้และกลับไปถามภรรยาที่ตอนนี้ถึงแม้จะหย่ากันไปแล้ว คำถามที่ว่าในครั้งแรกที่พวกเขาสองคนได้เจอกันนั้น "เธอดีใจมั้ยที่ได้เจอเขา" คำถามเรียบง่าย ทว่ามีความหมายลึกซึ้ง หนังไม่ได้เฉลยคำตอบนั้นในทันที แต่ทิ้งมันไว้จนอิ่มตัวและชวนให้รอคอยที่จะฟังคำตอบนั้นร่วมกันไปกับตัวละคร และแน่นอนคำถามนี้ชวนให้เราหวนคิดถึงในทุกจุดเริ่มต้น การได้พบเจอคนดีๆ ทั้งเพื่อน คนรัก หรือแม้แต่การได้เริ่มทำงานสักอย่าง ในท้ายที่สุดถึงแม้จะมีทั้งเรื่องราวที่ยากเย็น เรื่องที่ทำให้ลำบากใจเกิดขึ้นมากมายในระหว่างทาง ทว่าเมื่อย้อนกลับไปนึกถึงวันแรกที่เราได้รู้จักกัน อาจเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ หรือเป็นเรื่องธรรมดาที่เล็กน้อยเพียงใดก็ตาม เมื่อเรามีช่วงชีวิตที่ต้องค้นหาความหมายและทบทวนสิ่งต่างๆ เหล่านั้น แค่นึกไปถึงตรงจุดเริ่มต้นของสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้วยิ้มออกมาได้ เพียงเท่านี้ก็โล่งใจแล้ว คนเราทุกคนไม่มีใครสมบูรณ์แบบแต่ความไม่สมบูรณ์แบบนั้นเองที่ทำให้เราต่างยังค้นหาและเรียนรู้ ในท้ายที่สุดเราจะพบว่าทุกคนมีเรื่องราวของตัวเอง และแต่ละคนเป็นคนพิเศษของใครสักคนเสมอ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in