สายตาของทั้งคู่ จับจ้องกันอยู่มาซักพักนึงแล้ว
ความรู้สึกที่อึมครึมปกคลุมไปทั่วบริเวณ
"แก้ว" สาวน้อยอายุเพิ่งย่างเข้าสิบหกปีหมาดๆ ตอนนี้เธอกำลังนั่งจ้องดวงตาคู่นั้นอย่างไม่กระพริบตา ดวงตาคู่นั้นดูแข็งกร้าวอย่างประหลาด ความรู้สึกตอนนี้ของแก้วคือความกระอักกระอ่วนจุกขึ้นมาที่คอหอยคล้ายกำลังจะอาเจียน
"พร้อมหรือยังหล่ะ
"
เสียงแหบพร่าดังขึ้นมาด้านหลังเธอ น้ำเสียงออกอาการไม่พอใจอยู่เอาการ คงเพราะการรอคอยดูเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นตรงหน้า มันเนิ่นนานเกินกว่าที่เจ้าของเสียงนั่นได้วางแผนไว้
เริ่มซะทีสิ! จะรออะไรอีกหล่ะ
น้ำเสียงนั่นดังขึ้นแทรกความเงียบที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสองสามวินาทีก่อนหน้า แก้วตกใจสะดุ้งกับน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราดขึ้นกว่าครั้งก่อน เธอเริ่มยื่นมือออกไปทิศทางที่ดวงตาคู่นั้นอยู่ มือน้อยๆที่มีผิวสีขาวอมชมพูระเรื่อเริ่มสั่นเทา
สัมผัสแรกที่นิ้วชี้ของแก้วสัมผัสผิวหนังของสิ่งนั้น เธอรู้สึกถึงความชื้นแฉะเย็นๆหยุ่นๆ แว๊บแรกนั้นเองที่นิ้วแตะลงบนผิวหนังที่น่าขยะแขยงนั่น แก้วรีบหดมือกลับอย่างรวดเร็วด้วยความกลัวเจือรังเกียจ
แค่นี้ก็ทำไม่ได้เหรอ แกนี่มันไม่ได้เรื่อง!
คราวนี้เสียงนั้นดังขึ้นดุดันขึ้น แก้วกดดันมากยิ่งขึ้น เหงื่อเริ่มผุดขึ้นตามใบหน้า ในคอเริ่มแห้งผากด้วยความเครียดที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
"หนูต้องทำจริงๆเหรอค่ะ"
แก้วพูดพร้อมหันไปสบตาเจ้าของเสียงนั่นที่นั่งดูอยู่ด้านหลัง ด้วยสายตาที่วิงวอนซึ่งขณะเดียวกันน้ำตาหยดน้อยๆกำลังก่อตัวขึ้น
ใช่ รีบๆทำซะ จะได้จบๆ ครั้งแรกก็แบบนี้หล่ะ
เดี๋ยวอีกหน่อยขี้คร้าน......เชอะ!
เสียงนั่นหยุดลงก่อนจะจบประโยค พลางถอนหายใจด้วยความรำคาญแล้วเบือนหน้าหนีแสดงความไม่พอใจยิ่งขึ้น
แก้วรวบรวมสติอีกครั้ง เธอสะอิดสะเอียดสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าเหลือเกิน หญิงสาววัยอย่างเธอทำไมต้องเจอเรื่องราวเลวร้ายอย่างนี้ แก้วพยายามนึกถึงคำบอกเล่าของเพื่อนสาวหลายคนที่เคยผ่านมันมา พวกเธอต่างกล่าวขวัญถึงความตื่นเต้นปนขยะแขยงในครั้งแรกที่ได้ลอง
แต่แก้วกลับรู้สึกกลัว คงเพราะเธอเห็นดวงตาคู่นั้นก่อนหน้าที่จะเริ่มทำมัน เธอรู้สึกสับสนในจิตใจ ความผิดชอบชั่วดีเริ่มออกฤทธิ์ในสมองของเธอตอนนี้
"เอาเลยให้มันจบๆไป ใครๆก็เคยทำมัน"
"จะเจ็บมั๊ย ใครๆก็บอกว่าครั้งแรกมักจะได้ เลือดเสมอ"
"ถ้าไม่ทำ ก็โดนเฆี่ยนเหมือนทุกที"
"ฉันกลัว มันน่าขนลุกจะตาย ทำไมนะ.."
เสียงสนทนากับตัวเองของแก้วดังก้องอยู่ในหัว เธอนิ่งไปราวสี่ถึงห้าวินาที แต่สำหรับคนที่นั่งรออยู่มันยาวนานนับครึ่งวัน เก้าอี้ที่มีคนนั่งอยู่ด้านหลังดังเอี๊ยดอ๊าด แสดงถึงการเริ่มขยับตัวของคนที่นั่งอยู่
หนูรู้แล้วค่ะ หนูจะทำ!
ตอนนี้น้ำตาที่เอ่อในตาเริ่มล้นออกมา มันไหลไล้ไปตามแก้มสีชมพูเพราะเลือดฝาดและความตื่นเต้นที่เธอมี หัวใจเธอเต้นรัว ความรู้สึกถึงเส้นเลือดที่เต้นไปตามจังหวะของหัวใจ มันรู้สึกได้ไปตลอดทั้งตัว ตั้งแต่ขมับไปจนถึงอุ้งเท้าที่เปียกชุ่ม
แก้วขยับตัวเข้าไปใกล้อีกครั้ง ผิวหนังที่เปลือยเปล่าสัมผัสกันอีกครั้งหนึ่ง ดวงตาคู่นั้นเริ่มดูดุดันกว่าเดิม ดูแล้วก็รู้สึกถึงความตื่นกลัวที่ซ่อนอยู่ภายในแววตาคู่นั้นเช่นกัน เนื้อตัวที่สัมผัสกันเริ่มเสียดสีกัน กล้ามเนื้อทั้งคู่เริ่มหดตัวและขยับไปตามธรรมชาติ คล้ายจะผลักอีกทางก็บีบรัดเข้า การดิ้นรนปัดป้องเกิดขึ้น แต่ความพยายามของอีกฝ่ายก็ไม่ลดละ พยายามกอดรัดให้แน่นขึ้นแน่นขึ้น
น้ำตาแก้วไหลเป็นทาง ริมฝีปากเม้มกัดฟันแน่น เธอทั้งเกลียดทัั้งกลัวแต่ก็จำยอม เธอไม่สามารถต้านทานคำสั่งของคนที่นั่งอยู่ด้านหลังได้เลย
เธอรู้ว่าสิ่งที่เธอกำลังจะทำนั้น เป็นสิ่งที่คนที่นั่งดูอยู่ด้านหลังเธอทำมาทั้งชีวิต แม้ว่าคนอื่นจะตราหน้าว่าเป็นคนชั่วช้าและบาปหนาเพียงใดก็ตาม ซึ่งตอนนี้ถึงเวลาที่เธอต้องทำมันบ้าง เพื่อสืบทอดงานชิ้นนี้ต่อไป แม้ว่าจะเป็นงานที่บางคนรังเกียจ แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นกระมัง หน่ำซ้ำยังช่วยให้คนรับมันสบายขึ้นด้วยอีกต่างหาก
แก้วกัดฟันอีกครั้ง คราวนี้เธอพยายามปล่อยให้เป็นธรรมชาติ เพื่อนเธอเคยสอนไว้ว่าครั้งแรกอย่าเกร็ง ทำตามธรรมชาติสั่งก็พอ แก้วคลายแรงลง กล้ามเนื้อคลายตัวออก เส้นเลือดที่ปูดโปนที่ขมับเริ่มหายไป
ฉึก!
อวัยวะนั่นทิ่มเข้ามาในร่างกายเธอ ความเจ็บปวดแทรกตัวอย่างรวดเร็วมาในระบบประสาทส่วนกลาง ร่างกายตอบสนองด้วยการหดตัวกลับของกล้ามเนื้อ แก้วร้องโอ๊ยด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ร่างทั้งสองผละออกจากกัน เลือดค่อยๆซึมผ่านออกมาตามรอยแยกของผิวหนังที่เจ้าวัตถุแปลกปลอมนั้นแทรกผ่านเข้ามา
ความเจ็บปวดท่วมท้นอย่างที่แก้วบอกไม่ถูก มันปวดตุ๊บๆอยู่อย่างนั้น คงเพราะมันเป็นอวัยวะที่มีเส้นประสาทมาหล่อเลี้ยง มีตัวรับความรู้สึกหนาแน่นมากที่สุดส่วนหนึ่งของร่างกายนั่นเอง มันถึงเจ็บได้มากมายขนาดนี้
โรคร้าย!
แก้วลืมเรื่องนี้ไปสนิท เธอรู้ดีว่าเหตุการณ์นี้อาจทำให้เธอติดเชื้อและอันตรายถึงชีวิตได้ เธอ เธอไม่ได้ป้องกันไว้ก่อนเลย ถ้าเธอใส่ถุง.................
ยาย! เลือดออก
แก้วหันไปบอกยาย ยายของแก้วที่นั่งอยู่ ดันตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็โยกเยกอยู่ซักครู่เพราะอาการข้อเข่าเสื่อมที่คุกคามยายมานานหลายปี ยายค่อยๆเดินมาใกล้ๆ แก้วกดแผลที่นิ้วแก้ว เลือดยังไหลออกมาเรื่อยๆ
ไม่ระวังเล๊ย เจ้าแก้ว เงี่ยงยักเข้านิ้วจนได้
ยายค่อยเอื้อมมือที่เหี่ยวย่นมาบีบแผลที่นิ้วชี้ของแก้ว ค่อยๆบีบเอาเลือดออก แล้วช่วยแก้วเอาน้ำสะอาดล้างแผล
ยายขอโทษนะแก้ว ถ้าไม่รีบหัดทำปลา อีกหน่อยยายคงไม่มีใครช่วยแล้ว ขอโทษนะหลานเอ๊ย
แก้วผยักหน้าหงึก พร้อมกอดโอบยายที่เอว เอาแก้มสีชมพูระเรื่อแนบกับผ้าถุงยาย แก้วรู้ดีว่ายายขายปลาทำปลามาตลอดสี่สิบกว่าปีมาแล้ว และหาเลี้ยงแก้วที่กำพร้ามาแต่เด็กด้วยอาชีพนี้เอง
เดี๋ยวแผลหายแล้ว หนูจะพยายามฝึกใหม่จ๊ะยายจ๋า หนูจะทำให้ได้เลย หนูสัญญา แต่คราวหน้าหนูขอใส่ถุงมือดีกว่าจ๊ะ เงี่ยงปลาแทงนิ้วมันเจ็บจังเลย
แล้วยายกับหลานก็ยืนกอดกันกลม ส่วนเจ้าปลาดุกตัวดีก็ดิ้นไปมาในถังต่อไป และรอดชีวิตไปอีกหนึ่งวัน....
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in