ที่โนดะตั้งชื่อเพลงนี้ว่า π (พาย) คงเพราะค่านี้มีความเกี่ยวข้องกับวงกลม ใช้หาความยาวของเส้นรอบวง และพื้นที่ของวงกลมได้ ค่าพายยังเป็นค่าคงตัวที่ไม่สิ้นสุด สื่อถึงเรื่องราวในเพลงที่พูดถึงสัจธรรมชีวิตที่ต้องมีขาขึ้น-ขาลง วนเวียนเป็นวัฏจักรไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด เหมือนรูปวงกลม
เพลงนี้พูดถึงการวางตัว-สานสัมพันธ์กับคนในสังคม
ที่นี่วิเคราะห์ไว้ว่า ตัวละครในเพลงไม่อยากแตกต่างจากคนอื่นๆ เพราะรู้สึกปลอดภัยและอยากใช้ชีวิตอยู่อย่างสบายใจ ในขณะเดียวกัน ลึกๆแล้วเขาก็รู้สึกอยากเป็นคนพิเศษที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เขารู้ว่า ชีวิตก็คล้ายตะปูที่พออันไหนโผล่สะดุดตาขึ้นมา ก็จะโดน(สังคมกดดัน)ตอกลงไป เขาจึงเลือกใช้ชีวิตอยู่ตรงกลางตามค่าเฉลี่ยมาตรฐาน เป็นคนกลางๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น ก่อนออกจากบ้านก็ถอดความเป็นตัวเองทิ้งไป เพราะการแสดงความเป็นตัวเองออกมาทั้งหมด จะทำให้ใช้ชีวิตในสังคมลำบาก จึงต้องใส่หน้ากากเข้าหาคนอื่นบ้าง โกหกบ้าง ถึงจะอยู่รอด และการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน เราอาจเกลียด-ไม่ชอบหน้าใครบางคน แต่คนๆ นั้นก็คงมีคนที่รักเขาอยู่ เช่น พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน และคนรักของเขา พอคิดเช่นนั้นได้จิตใจเราก็คงสงบขึ้นมาบ้าง... ถือเป็นเพลงที่เชื่อมโยงคณิตศาสตร์กับสัจธรรมชีวิตได้อย่างน่าสนใจอีกเพลงหนึ่ง
เพลง: π (Pai)
เนื้อร้อง & ทำนอง: Noda Yojiro
いつでも僕はありったけの「ホント」を
ベットの上に脱ぎ捨てて
Itsu demo boku wa arittake no`honto' o
betto no ue ni nugi sutete
ผมถอด"ความเป็นจริง"ทั้งหมดทิ้งไว้บนเตียงเสมอ
引っ張り出して身に纏って
me ippai no `uso' o kurō zetto kara
hippari dashite mi ni matotte
แล้วสวมใส่ "เรื่องโกหก"
ที่ดึงออกมาจากตู้เสื้อผ้าอย่างสุดกำลัง
kyō mo ie wo deru
วันนี้ก็ออกจากบ้านเช่นเคย
オナジでいたいと願ってテ
itsu demo boku wa dokka de ta'nin to
onaji de itai to negatte te
ผมวิงวอนให้ตัวเองเป็นเหมือนคนอื่นเสมอ
何かでありたいと強く願ってテ
kedo dokka de dare-tomo chigau
nani kade aritai to tsuyoku negatte te
แต่ผมก็อธิษฐานอย่างแรงกล้า
อยากให้ตัวเองมีบางสิ่งที่ต่างจากคนอื่น
今日も間を取るけど
平均値化して 経験値化して
kyō mo aida o toru kedo
hei-kin chi-ka shite keiken-chi-ka shite
วันนี้ผมก็เลือกใช้ชีวิตอยู่ตรงกลางตามค่าเฉลี่ย
เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์เช่นเคย
デキタノガ 此ノボクデス
dekita noga kono boku desu
ก่อเกิดเป็นผมคนนี้ขึ้นมา
もうかったりぃってなったり
agattari sagattari son'na kuri kaeshi
mō kattarii tte nattari
หล่อเลี้ยงชีวิตที่มีขึ้นบ้าง มีลงบ้าง
หมุนเวียนเปลี่ยนผันไป
wakattari waka ranai furi o shite mitari
ลองเสแสร้งทำเป็นรู้บ้าง ไม่รู้บ้าง
のはずが予定通りだったり
yuki atari de battari no hazu ga
yotei dōri dattari
ทั้งที่น่าจะพบเจออุปสรรคกะทันหัน
แต่ก็สำเร็จตามแผนการที่วางไว้บ้าง
でもやっぱり良かったりしてる
mō gakkari mono gatari
demo yappari yokattari shiteru
แม้เป็นเรื่องราวที่น่าผิดหวัง
แต่ก็ทำได้ดีบ้างอย่างที่คิดไว้
いつでも君は自分のことだけを
僕には見ていてほしくて
itsu demo kimi wa jibun no koto dake o
boku ni wa mite ite hoshi kute
เธออยากให้ผมมองแค่เธอคนเดียวเสมอ
滅入って煩わしくもなってきて
kedo yappari shitsukoi to kimochi ga
meitte wazura washiku mo natte kite
เป็นความรู้สึกเซ้าซี้อย่างที่คิดไว้
จึงทำให้ผมหดหู่ และกลุ้มใจขึ้นมา
今日も距離計る
kyō mo kyori hakaru
วันนี้ผมก็รักษาระยะห่างเอาไว้เช่นเคย
好きにはなれない人がいて
don dake ganbatte mita tokoro de
suki niwa narenai hito ga ite
ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ก็มีคนที่ทำใจให้ชอบไม่ลง
誰かにとってかけがいのない人で
kedo sono hito mo kitto dokka no
dareka ni totte kake gai no nai hito de
แต่สำหรับใครสักคนแล้ว
เขาคนนั้นก็คงไม่มีใครมาแทนที่ได้
今日も丸くなるけど
kyō mo maruku naru kedo
วันนี้ก็ใจเย็นลงได้เช่นเคย
チガッタリシテルンダロウ
hontō no katachi wa me ni mieru mono to
chigattari shiterun darou
รูปร่างที่แท้จริง คงต่างจากสิ่งที่ตามองเห็นอยู่บ้าง
尖ったり ひっ込んだり
削り削られ丸くなったり
togattari hikkon dari
kezuri kezurare maruku nattari
ปลายแหลมบ้าง เว้าๆ แหว่งๆ บ้าง
ถูกตัดแต่งจนดูกลมขึ้นมาบ้าง
僕はきっと今食べ盛り
hosottari futottari
boku wa kitto ima tabe zakari
ตอนนี้ผมอยู่ในวัยกำลังกินกำลังนอน
ก็เลยอ้วนบ้าง ผอมบ้าง
されて形が出来上がったり
mō fun dari no kettari
sarete katachi ga deki agattari
เป็นรูปเป็นร่างจากการถูกเหยียบย่ำบ้าง ถูกเตะบ้าง
もう何だい もういい コリゴリ
okkottari hai agattari
mō nandai mō īi kori gori
สอบตกบ้าง ได้เลื่อนขั้นบ้าง
จะเกิดอะไรขึ้นอีก ไม่เอาแล้ว เข็ดหลาบแล้ว
あんたには分かんないって言われちまえば
そりゃ確かにおっしゃる通り
anta niwa wakan'nai tte iware chima eba
sorya tashika ni ossharu tōri
ถ้ามีใครบอกผมว่า"ฉันไม่เข้าใจแกเลยจริงๆ"
มันก็คงจริงอย่างที่เขาว่า
demo ganrai sore itchao shimai ni nan'nai?
แต่ถ้าพูดแบบนั้นตั้งแต่แรก ก็คงจบเห่กันพอดี
いささか疲れ果てちまったり
Tsumattari tsuman' nai de
isasaka tsukare hate chi mattari
ความเบื่อหน่ายที่สะสมไว้มากมาย
ทำให้เหนื่อยจนสายตัวแทบขาด
していたら逆に肩凝ったり
de mattari no guttari
shite itara gyaku ni kata kottari
เมื่อทำตัวสบายๆ ขณะที่หมดแรงอ่อนล้า
กลับปวดเมื่อยไหล่ขึ้นมา
白旗の揚げ方も分かんない
nan nandai ban banzai
shiro hata no age kata mo wakan'nai
เสียงไชโยโห่ร้องอะไรอีกล่ะ
ผมไม่รู้วิธียกธงขาวยอมแพ้หรอกนะ
もうファイナリーエターナリーに
がっかりとやったりを
いったりできたりしてく
mō fainarī etānarī ni gakkari to
yattari o ittari deki tari shite ku
สุดท้ายแล้วก็วิ่งวุ่นอยู่กับความผิดหวัง
กับการลงมือทำเรื่องต่างๆ ไปชั่วชีวิต
-----------------------------------
cover photo by Patrick McManaman on Unsplash
-----------------------------------
ซื้อเพลงอุดหนุนศิลปินได้ที่นี่ ↓
// ทีแรกสิ่งที่ทำให้หลงใหลเพลงนี้ก็คือเมโลดี้
พอแปลเสร็จก็หลงรักเพลงนี้มากขึ้นไปอีก :D
ถ้าแปลจุดไหนผิดพลาดไปต้องขออภัยด้วยนะคะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in