เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
แปลเพลง RADWIMPSKanzen Memeshe
แปลเพลง One Man Live ของ RADWIMPS
  • ชีวิตก็เหมือนเวทีที่เราขึ้นแสดงได้เพียงครั้งเดียว ไม่มีโอกาสแก้ตัว ถึงจะซ้อมมากี่ครั้ง รอบแสดงจริงก็มีเพียงรอบเดียว เรามีหน้าที่แค่แสดงให้เต็มที่เท่านั้นเอง "ใช้ชีวิตให้คุ้ม ใช้ชีวิตในแบบที่เราไม่ต้องมาเสียใจภายหลัง แล้วเมื่อวันสุดท้ายของชีวิตมาถึง เราจะภูมิใจในตัวเอง" คือสิ่งที่เราตีความได้จากเพลงนี้ 


    เพลง : One Man Live
    เนื้อร้อง & ทำนอง : 野田洋次郎 (Noda Yojiro)



    いつのまにか僕らの頭は
    賢くなっていて
    itsuno manika bokura no atama wa
    kashikoku natte ite 


    พวกเราเริ่มฉลาดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ


    痛みを超えるのには
    より大きな痛みをと
    itami o koeru no ni wa
    yori ookina itami o to 


    ทั้งๆ ที่ก้าวข้ามความเจ็บปวดไปได้
    ก็ยังมีความเจ็บปวดที่รุนแรงยิ่งกว่า


    蚊に刺された時にはそこを
    思いっきりつねるんだ
    ka ni sasareta toki ni wa soko o
    omoikkiri tsunerunda 


    ตอนที่ถูกยุงกัดก็หยิกซ้ำลงไปตรงนั้น
    อย่างไม่ลังเลใจ


    吹き出物が痛いのなら
    潰してしまえばいいんだ
    fukide mono ga itai no nara
    tsubushite shimaeba iinda

    ถ้าส่วนของผิวหนังที่นูนขึ้นมามันเจ็บละก็
    ขยี้มันให้เจ็บกว่าเดิมได้ยิ่งดี


    だから ただ ただ傷付けてみるけど
    dakara tada tada kizutsukete miru kedo

    ก็แค่ลองทำให้มันเป็นแผลเท่านั้นเอง


    そうは言われましても
    これを超えるような痛みなど
    sou wa iware mashite mo
    kore o koeru you na itami nado

    ถึงจะถูกพูดใส่แบบนั้น
    แต่ความเจ็บปวดที่คล้ายกับการก้าวข้ามสิ่งนี้


    どこをどう探してもね
    なぜか見つからないんだよ
    doko o dou sagashite mo ne
    naze ka mitsukara nai nda yo


    ไม่ว่าจะตามหาที่ไหน ทำไมถึงหาไม่เจอเลย


    それどころか かえって
    この痛みの深さに気付いたよ
    sore dokoroka kaette
    kono itami no fuka sa ni kizuita yo


    กลับรู้สึกตัวขึ้นมา
    ว่าความเจ็บปวดนี้มีแต่จะฝังลึกลงไป


    今までの悲しさなど
    楽しく思えてしまうほど
    ima made no kanashi sa nado
    tanoshiku omoete shimau hodo


    ความเศร้าที่มีมาจนถึงตอนนี้
    ก็เผลอคิดถึงมันอย่างสนุกสนาน 


    誰か ただ ただ気付いてと振り絞るけど
    dareka tada tada kizuite to furishiboru kedo

    ขอเพียงแค่มีใครสักคนรู้สึกตัว
    ผมจะตะโกนให้สุดเสียง


    今に泣き出しそうなその声が 
    世界にかき消されてしまったら
    ima ni nakidashi sou na sono koe ga
    sekai ni kakike sarete shimattara


    ถ้าเสียงที่เหมือนจะร้องไห้ในตอนนี้
    ถูกลบเลือนให้หายไปจากโลกใบนี้


    僕がマイクを持って向かうから 
    君はそこにいてくれていいんだよ
    boku ga maiku o motte mukau kara
    kimi wa soko ni ite kurete ii nda yo


    ผมจะถือไมค์มุ่งหน้าไปหา 
    ส่วนเธอแค่รออยู่ตรงนั้นก็เพียงพอแล้ว


    君の胸にそれを押し当てて 
    ボリュームを最大にまで上げて
    kimi no mune ni sore o oshiate te
    boryuumu o saidai ni made agete


    จะกดมันลงบนหน้าอกของเธอ
    แล้วเร่งเสียงให้ดังที่สุด


    ハウったってそんなの構わない
    その音が今 君の声になる
    hau ttatte sonna no kama wanai
    sono oto ga ima kimi no koe ni naru


    แม้มันจะส่งเสียงร้องโหยหวนก็ไม่หวั่น
    และตอนนี้ เสียงนั้นจะกลายเป็นเสียงของเธอ


    君の速くなってく鼓動が
    テンポを作ってく
    kimi no hayaku natte ku kodou ga
    tenpo o tsukutte ku


    เสียงหัวใจของเธอที่เริ่มแผ่วเบาลงนั้น
    จะสร้างจังหวะขึ้นมาใหม่


    こうなれば悲しさなども 
    全て味方につけて
    kou nareba kanashi sa nado mo
    subete mikata ni tsukete

    ถ้าเป็นแบบนี้ความเศร้าทั้งหมดทั้งมวล
    ก็คงอยู่ฝ่ายเดียวกับเรา


    でもところがなんでか
    悲しみは後ろ振り返れば
    demo tokoroga nande ka
    kanashimi wa ushiro furi kae reba


    แต่ถ้าเกิดความเศร้าหวนกลับมาหาพวกเรา


    すでに拳を振り上げては
    声を枯らしていたんだよ
    sudeni kobushi o furiagete wa
    koe o karashite itanda yo

    จะชูกำปั้นขึ้นมาแล้วกู่ก้องร้องจนเสียงแหบแห้ง


    もしも折れかけたその足に
    痛みを感じなければ
    moshimo ore kake ta sono ashi ni
    itami o kanji nakere ba

     
    ถ้าขาที่หักของเธอไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวด


    君は何も知らず歩き続けるだろう
    kimi wa nani mo shira zu
    aruki tsuzukeru darou

    เธอก็คงจะเดินต่อไปอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว


    傷付いたことに気付いてと願うその痛み達は
    君を守るためにそこにいたんだよ
    kizu tsui ta koto ni kizui te to
    negau sono itami tachi wa
    kimi o mamoru tame ni soko ni itan da yo

    ความเจ็บปวดทั้งหลายที่ภาวนาให้เธอรู้สึกถึงบาดแผล
    จะอยู่ตรงนั้นเพื่อช่วยปกป้องเธอ


    ならば もう もう恐いものはないんだと
    naraba mou mou kowai mono wa nai nda to

    เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรที่ต้องหวาดกลัวอีกต่อไป


    今に駆け出しそうなその夢が
    世界に押しつぶされてしまったら
    ima ni kakedashi sou na sono yume ga
    sekai ni oshi tsubu sare te shimat tara


    ความฝันที่เหมือนจะวิ่งหนีเธอไปในตอนนี้
    ถ้ามันถูกโลกใบนี้บดขยี้ทำลาย


    僕がアンプを持って向かうから
    君は君の心を握ってて
    boku ga anpu o motte mukau kara
    kimi wa kimi no kokoro o nigitte te


    ผมจะถือแอมป์มุ่งหน้าไปหา
    ส่วนเธอก็กุมหัวใจเธอเอาไว้


    その入り口にケーブルを挿して
    ゲインを目一杯まで上げて
    sono iriguchi ni keeburu o sashite
    gein o me ippai made agete


    เสียบสายเคเบิลเข้าไปในรูทางเข้านั้น
    เร่งอัตราขยายไฟฟ้าให้สุดกำลัง


    歪んだってそんなの構わない
    声にならない声を聴かせてよ
    hizun datte sonna no kama wanai
    koe ni nara nai koe o kikasete yo


    ถึงมันจะเปลี่ยนรูปจนผิดเพี้ยนไปก็ไม่สนใจ
    ช่วยทำให้ผมได้ยินเสียงที่ไม่เป็นเสียงนั่นที


    その鼓動はどんどん上がってく
    ラストに向けて曲は上がってく
    sono kodou wa dondon agatte ku
    rasuto ni muke te kyoku wa agatte ku


    อัตราการเต้นของหัวใจนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    เสียงดนตรีที่เดือดดาลก็มุ่งสู่เพลงสุดท้าย


    走ったってそんなの構わない
    その全てが今 君の歌になる
    hashitta tte sonna no kama wanai
    sono subete ga ima kimi no uta ni naru


    แม้ว่าจะวิ่งอยู่ก็ไม่หวั่น
    ทั้งหมดนั่นจะกลายเป็นเพลงของเธอในตอนนี้


    このまんまるい地球を客席に
    君は君自身をそのステージに
    kono manma rui chikyuu o kyakuseki ni
    kimi wa kimi jishin o sono suteeji ni

    ณ ที่นั่งผู้ชมบนโลกกลมๆ ใบนี้
    ใส่ความมั่นใจของเธอลงไปบนเวทีนั้น

     
    そこで掻き鳴らされるその音に
    鳴り止むことない拍手が響く
    sokode kaki nara sareru sono oto ni
    nari yamu koto nai hakushu ga hibiku


    เสียงปรบมือของผู้ชมที่ดังอย่างต่อเนื่อง
    ตอบสนองต่อเสียงที่ถูกทำให้ดังกึกก้องนั้น


    君は広い客席を見渡す
    遠く後ろのほうに目を向ける
    kimi wa hiroi kyakuseki o miwatasu
    tooku ushiro no hou ni me o mukeru


    เธอทอดสายตามองที่นั่งผู้ชมที่แสนกว้างไกล
    มองไปยังที่นั่งข้างหลังที่อยู่ไกลโพ้น


    一番後ろで拍手を送るのは
    地球は一周して見た 君だ
    ichiban ushiro de hakushu o okuru no wa
    chikyuu wa isshuu shite mita kimi da


    เมื่อโลกหมุนไป เธอจะมองเห็นว่า
    คนข้างหลังสุดที่ส่งเสียงปรบมือกลับมา
    ก็คือตัวเธอเอง




    ------------------------------------------------


    อ่านแล้วงงใช่ไหมคะ เราก็ไม่เข้าใจที่ตัวเองแปลเหมือนกัน 5555 ลึกซึ้งเกิน ร้องไห้แป๊บ พอแปลมาถึงบรรทัดสุดท้าย ชวนให้เข้าใจไปว่า "ผม" ในเพลงเป็นตัวเราในอนาคต มาพูดให้กำลังใจ "เธอ" ซึ่งก็คือตัวเราในปัจจุบัน.. T v T

    เห็นว่าเพลงนี้พูดถึงไมโครโฟน แอมป์ อัตราขยายกำลังไฟฟ้า เราไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้ เลยไปตัดภาพในเว็บนี้มาฝาก (เผื่อจะช่วยให้เห็นภาพชัดขึ้น)


    ------------------------------------
    Credits เว็บไซต์อธิบายเรื่องระบบเครื่องขยายเสียง : http://www.ice.co.th/beginner/study/bdiags.htm 

    ถ้าชอบใจถูกใจยังไงฝากอุดหนุนเพลงของศิลปินด้วยนะคะ :)



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in