I Novel เป็นสไตล์การเขียนนวนิยายที่มีแรงบันดาลใจมาจากชีวิตจริงของผู้เขียน บางส่วนหรือทั้งหมดของนวนิยายอาจมาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้น หรือนำมาดัดแปลงเล็กน้อยขึ้นอยู่กับผู้เขียน I Novel ถ้าออกเสียงเป็นภาษาญี่ปุ่น จะพ้องเสียงกับคำว่า 愛述べる (ai noberu) ที่มีความหมายว่า"พูดถึงความรัก" เนื้อเพลงเปรียบชีวิตเป็นเหมือนหนังสือเล่มหนึ่ง ที่ยังดำเนินเรื่องไปได้ไม่ถึงไหน เป็นเพลงที่ให้กำลังใจ สนับสนุนให้ผู้ฟังเขียนเรื่องราวชีวิตขึ้นมาด้วยตัวเอง
เพลง : 'I' Novel
เนื้อร้อง & ทำนอง : 野田洋次郎 (Noda Yojiro)
ずいぶん長らく歩いてきたような
そんな気がしていただけなんだ
zuibun nagaraku aruite kita you na
sonna ki ga shiteita dake nanda
รู้สึกว่าเดินทางมายาวนานเหลือเกิน
รู้สึกไปแบบนั้นเฉยๆ
小説にしたらせいぜい
まだ三行目あたりのこの人生
shousetsu ni shitara seizei
mada san gyou me atari no kono jinsei
ถ้าเปรียบเทียบกับนวนิยาย
ชีวิตนี้อย่างมากก็ดำเนินไปได้แค่ 3 บรรทัด
カバーもまだ 題名もまだ
決まらずに書き始めちゃったから
kabaa mo mada daimei mo mada
kimarazu ni kaki hajime chatta kara
หน้าปกก็ไม่มี ชื่อเรื่องก็ไม่มี
เริ่มเขียนไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้คิดเรื่องนั้น
どこでどうしてどうなってって
順序よく収まりつかないや
doko de doushite dou nattette
junjoyoku osamari tsukanai ya
ยังไม่ได้คิดจัดลำดับเรื่องราวว่า
ที่ไหน ทำไม และจะเป็นอย่างไรต่อไป
今日はただただもう
さぁダラダラしようと
物思いにふけてても
kyou wa tadatada mou
saa daradara shiyou to
mono omoi ni fuketete mo
ถึงจะคิดฟุ้งซ่าน แต่วันนี้ก็แค่
อยากใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ เอื่อยๆ
早くも僕の胸はもぞもぞと動きだす
hayaku mo boku no mune wa
mozomozo to ugoki dasu
ตรงหน้าอกผมเคลื่อนไหวรวดเร็ว
อย่างกระวนกระวาย
だって心臓は脈打ち何ccかの血を
全身へと送りだしを繰り返し
datte shinzou wa myakuuchi nan CC kanochi o
zenshin e to okuri dashi o kurikaeshi
เพราะว่าหัวใจได้ลำเลียงเลือดตั้งไม่รู้กี่ซีซี
ส่งไปทั่วร่างกายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
今日も休まず僕は僕を生かし
kyou mo yasumazu boku wa boku o ikashi
วันนี้ผมก็ยังคงใช้ชีวิตของผมต่อไป
辻褄あわぬストーリーに
ほろ苦い顔で見るストーリー
tsujitsuma awa nu sutoorii ni
horonigai kao de miru sutoorii
เนื้อเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล
เนื้อเรื่องที่ทำหน้าขมขื่นตอนมองดูมัน
誇れるほどのものはまだないが
僕だけに光るものはあんだ
hokoreru hodo no mono wa mada nai ga
boku dake ni hikaru mono wa an da
ผมมีเรื่องราวที่เปล่งประกายในตัวมันเอง
แม้จะเป็นเรื่องราวที่ยังไม่ถึงขั้นทำให้ภูมิใจได้
塗りつぶしたい? 破り捨てたい?
nuri tsubushitai? yaburi sutetai?
อยากจะปกปิด อยากทำลายมันรึเปล่า
過去があろうとも汚れのない
物語など僕は惹かれない
kako ga arou to mo kegare no nai
monogatari nado boku wa hikarenai
ต่อให้เป็นตำนานสวยงามที่มีมาตั้งแต่อดีต
ก็ไม่สามารถดึงดูดใจผมได้หรอก
あぁ一瞬先の自分さえ
aa isshun saki no jibun sae
ขอแค่มีตัวผมในชั่วพริบตาก่อนหน้านี้ก็พอ
もう待てないよ
mou matenai yo
รอไม่ไหวแล้ว
今すぐでも会いたいよ
ima sugu demo aitai yo
อยากเจอตอนนี้เลย
うかうかしてらんないの
uka uka shite ran nai no
อยู่เฉยๆ ไม่ไหวแล้ว
はみ出した君の痛みが
壊れないようにと涙した
hami dashita kimi no itami ga
kowarenai you ni to namida shita
หลั่งน้ำตาภาวนาให้ความเจ็บปวดของเธอ
ที่แสดงออกมาไม่ถูกทำลายไป
ひょっとしたら もしかしたら
それはいつかのあの僕だった
hyotto shitara moshika shitara
sore wa itsuka no ano boku datta
อาจเป็นไปได้ว่า
ผมจะเป็นคนแบบนั้นในสักวันหนึ่ง
輝いた朝の光が
水たまりを蹴って飛び散った
kagayaita asa no hikari ga
mizutamari o kette tobichitta
แสงยามเช้าที่ส่องประกาย
สาดซัดน้ำที่ขังตามพื้นถนนให้ปลิวหาย
あのどれかが今の君なら
いいな いいな
ano dore ka ga ima no kimi nara
ii na ii na
ถ้าเป็นเธอในตอนนี้ก็คงจะดี
どっかの誰かが勝手に君のことを
あーとかこーとか言ったり
dokka no dareka ga katte ni kimi no koto o
aa~ toka koo~ toka ittari
ถ้ามีใครที่ไหนไม่รู้
มาบอกให้เธอทำอย่างโน้นอย่างนี้
いつのまにか君のブックの表紙に
名前勝手につけて
itsu no manika kimi no bukku no hyoushi ni
namae katte ni tsukete
ถ้าเขาฉวยโอกาสตั้งชื่อตรงหน้าปกหนังสือ
ของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
頭きたよ 頭悪いけど
atama kita yo atama warui kedo
ถึงแม้จะหัวไม่ดี แต่ผมจะหัวร้อน
あんたに言われる筋合いはねぇから
anta ni iwareru sujiai wa nee kara
แล้วคิดในใจว่า "ไม่มีเหตุผลอะไรที่แกต้องพูดแบบนี้ใส่เธอนะ"
とっとといなくなっとくれ
tottoto inaku natto kure
"ช่วยไสหัวไปเดี๋ยวนี้เลย"
これ電車賃受け取っとくれ
kore densha chin uketotto kure
"ช่วยรับค่าโดยสารรถไฟนี้ไว้ด้วย"*
どうにもこうにもいかない時でも
dou ni mo kou ni mo ikanai toki demo
ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่ได้ดั่งใจ
どうにかこうにか
ここまできたんだよ
dounika kou ni ka
koko made kitanda yo
แต่ก็ดั้นด้นมาจนถึงตรงนี้แล้ว
今自信を持って言えるのは
ima jishin o motte ieru no wa
ตอนนี้สิ่งที่พูดมันออกไปได้อย่างมั่นใจ
僕を乗りこなせんのは
boku o nori konasen no wa
สิ่งที่ไม่สามารถควบคุมผมได้
こいつの勝手がそうわかんのは
koitsu no katte ga sou wakanno wa
ก็คือการทำตามอำเภอใจของคนอื่น
他にゃいないんだ このおいらにゃ
hoka nya i nainda kono oira nya
ที่ผมรู้คือไม่มีใครคนไหนแล้ว มีแค่ตัวผมนี่ล่ะ
このポンコツくらいが丁度いいんだ
kono ponkotsu kurai ga choudo ii nda
ผมในสภาพสะบักสะบอม แบบนี้ดีแล้ว
でもあわよくば まぁいつの日か
demo awa yokuba maa itsu no hi ka
ถึงแม้จะไปด้วยกันได้ดี แต่ถ้าในสักวันหนึ่ง
この僕のこと この僕よりも
より分かって笑ってくれる人と
kono boku no koto kono boku yori mo
yori wakatte waratte kureru hito to
มีใครคนที่เข้าใจและยิ้มไปด้วยกัน
คนนั้นที่ดีกว่าตัวผมเอง
出逢えるといいな なんて
deaeru to ii na nante
ถ้าได้พบเจอเขาก็คงจะดีนะ ว่าไปนู่น
その時まで待てないよ
sono toki made matenai yo
รอให้ถึงตอนนั้นไม่ไหวแล้ว
今すぐ抱きしめたいよ
ima sugu dakishimetai yo
อยากจะกอดเธอเดี๋ยวนี้เลย
この手で温めたいよ
kono te de atata metai yo
อยากจะทำให้เธออบอุ่นด้วยมือนี้
飛び出した白い光が
奇跡と合わさって芽を出した
tobi dashita shiroi hikari ga
kiseki to awasatte me o dashita
ถ้าแสงสีขาวที่โบยบินไป
ประสานเข้ากับปาฏิหาริย์ คงเริ่มจะมีหวัง
それが僕ならいいさそれなら
いっそ奇跡使い果たすんだ
sore ga boku nara ii sa sore nara
isso kiseki tsukai hata sunda
ถ้าเป็นผมก็คงดี ถ้าเป็นแบบนั้น
ผมจะใช้ปาฏิหาริย์ที่มีให้หมดเกลี้ยง
溢れ出した君の涙が
無駄にならぬようにと駆け出した
afure dashita kimi no namida ga
muda ni naranu you ni to kake dashita
น้ำตาของเธอที่เอ่อล้นออกมา
จะเริ่มต้นโดยไม่ทำให้มันสูญเปล่า
それを見た僕が胸に抱く気持ち
なんて美しいんだ
1秒先で輝いて
sore o mita boku ga mune ni idaku kimochi
nante utsukushi inda
ichi byou saki de kagayaite
แสงที่เปล่งประกาย 1 วินาทีก่อนหน้านี้
ความรู้สึกเกาะกุมใจผมที่ได้มองดูสิ่งนั้น
ช่างเป็นอะไรที่งดงาม
見えるものだけ追いかけて
mieru mono dake oikakete
จะไล่ตามเฉพาะสิ่งที่จับต้องได้เท่านั้น
「間違いなんてないんだから」
そんな言葉を真に受けて
「machigai nante nai ndakara」
sonna kotoba o ma ni ukete
"ไม่มีอะไรผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย"
คำพูดนั้นจะรับมันเอาไว้
ゼロで生まれた僕なのに
今名前を呼ぶ人がいて
zero de umareta boku nanoni
ima namae o yobu hito ga ite
ทั้งๆ ที่ผมเกิดมาจากความว่างเปล่า
แต่ก็มีคนเรียกชื่อผมอยู่ตอนนี้
産み落としてくれてありがとう
atarimae nado nai nou ni
umi otoshite kurete arigatou
ขอบคุณที่ช่วยทำให้ผมเกิดมา
จากสามัญสำนึกที่ไม่ธรรมดา
ありがとう ありがとう
arigatou arigatou
ขอบคุณจริงๆ
例え1ページで終わる命も
tatoe ichi-peeji de owaru inochi mo
ถึงแม้จะเป็นชีวิตที่จบด้วย 100 หน้า
1000ページに及ぶ命も
sen-peeji ni oyobu inochi mo
หรือจะเป็นชีวิตที่ยาวนานถึง 1,000 หน้า
比べられるようなもんではない
kurabe rareru you na mon de wa nai
ก็ไม่ใช่สิ่งที่เอามาเปรียบเทียบกันได้
同じ輝きを放つに違いない
onaji kagayaki o hanatsu ni chigai nai
ต่างก็เปล่งประกายเหมือนกัน ไม่ผิดแน่
あいまい何の気ない
aimai nan no ki nai
ไม่มีความรู้สึกคลุมเครือใดๆ
言葉延々紡ぐ暇などない
kotoba enen tsumugu hima nado nai
ไม่มีเวลามาร้อยเรียงถ้อยคำ
ที่มีมาอย่างไม่จบไม่สิ้นนี้
1ページを生きた少年の
本には誰よりも光る一行が
ichi-peeji o ikita shounen no
hon ni wa dare yori mo hikaru ichigyou ga
หนุ่มน้อยที่ใช้ชีวิตไป 1 หน้ากระดาษของหนังสือนั้น
มี 1 บรรทัดที่เปล่งประกายยิ่งกว่าใคร
綴られているんだ
tsuzu rarete irunda
ถ้อยคำได้ถูกสะกดแล้ว
そう信じてやまないんだ
sou shinjite yamanai nda
เพราะเชื่ออย่างนั้นจึงไม่หยุด
もうジタバタしてたいんだ
mou jitabata shitetai nda
ลุกลี้ลุกลนอยากเร่งให้เร็วกว่านี้
僕もどれだけ遺せんだ
ねぇどれだけ生きれんだ
時間以外の単位で
boku mo dore dake nokosenda
nee dore dake iki renda
jikan igai no tan-i de
ในหน่วยนับอื่นที่ไม่ใช่เวลา
ผมจะเหลืออะไรทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังบ้าง
นี่ ผมจะมีชีวิตอยู่ไปจนถึงเมื่อไหร่เหรอ
はみ出した君の痛みが
壊れないようにと涙した
hami dashita kimi no itami ga
kowarenai you ni to namida shita
หลั่งน้ำตาภาวนาให้ความเจ็บปวดของเธอ
ที่แสดงออกมาไม่ถูกทำลายไป
ひょっとしたら もしかしたら
君の優しさの影だった
hyotto shitara moshika shitara
kimi no yasashisa no kage datta
อาจเป็นไปได้ว่า
เป็นผลมาจากความใจดีของเธอ
輝いた朝の光が
水たまりを蹴って飛び散った
kagayaita asa no hikari ga
mizutamari o kette tobi chitta
แสงยามเช้าที่ส่องประกาย
สาดซัดน้ำที่ขังตามพื้นถนนให้ปลิวหาย
あのどれかが今の君なら
いいな いいな いいな
ano dore ka ga ima no kimi nara
ii na ii na ii na
ถ้าเป็นเธอในตอนนี้ก็คงจะดี
----------------------------------------------
* จากท่อน
これ電車賃受け取っとくれ
kore densha chin uketotto kure
"ช่วยรับค่าโดยสารรถไฟนี้ไว้ด้วย"
= คงเปรียบสถานกาณ์ว่าถ้ามีคนที่เราไม่ชอบ ขึ้นมานั่งบนรถไฟขบวนเดียวกับเรา เราคงอยากซื้อตั๋วรถไฟใบใหม่ให้เขาช่วยไปขึ้นรถไฟคันอื่นที ก็คงมีความหมายคล้ายๆ กับ "ช่วยไสหัวไปที"
ถ้าชอบใจถูกใจยังไงฝากอุดหนุนเพลงของศิลปินด้วยนะคะ :)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in