"สวิตเซอร์แลนด์หนาวนะลูก น้าที่เพิ่งไปบอกแม่มา"
"ไม่หนาวหรอกแม่ เขาบอกว่าร้อน"
"ใครบอก"
"อาจารย์กับรุ่นพี่ที่เคยไปไง"
"เออ ตามใจ เอาขาสั้นไปก็ได้"

เมื่อมาถึงแล้ว ผมก็ตระหนักได้ว่า ไม่มีใครบอกว่าเจนีวามันจะร้อนฉิบหายได้ขนาดนี้ อากาศที่เจนีวาในช่วงซัมเมอร์แบบนี้ร้อนมากครับ ถึงแม้ว่าอุณหภูมิจะอยู่ที่ 20 กว่าองศาเซลเซียส แต่อุณหภูมิเพียงอย่างเดียวก็ไม่ได้บ่งบอกความร้อนฉิบหายของเจนีวาได้ เพราะที่นี่แดดแรงมากครับ แรงมากจริง ๆ พอ ๆ กับแดดเชียงใหม่เลย

เนื่องจากสวิตเซอร์แลนด์มีฤดูหนาวที่มีหิมะตกได้ ดังนั้นอาคารส่วนใหญ่ เช่น หอพัก ก็จะมีฮีตเตอร์เพื่อให้ความอบอุ่น ทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่ต้องก่อไฟหรือวางเพลิงบ้าน / หอพักตัวเอง นอกจากนี้อาคารที่สร้างจะเป็นอาคารแบบมิดชิด เอาเป็นว่าใครเดินฝ่าลมหนาว ๆ เข้าอาคารจะได้รับความอบอุ่นทันที

แต่อาคารหลายแห่งไม่มีแอร์ในฤดูร้อน

ในเมื่อแอร์ไม่มี ก็ต้องหาทางอื่นเพื่อระบายอากาศร้อน ๆ ออกไปให้ได้โดยไม่ต้องใช้แอร์ เพราะมันไม่มีแอร์เหมือนบ้านเรา วิธีหนึ่งก็คือเปิดหน้าต่าง ซึ่งใช้ได้ดีในเวลากลางคืนหน้าร้อนนะครับ เพราะอากาศตอนกลางคืนช่วงนี้จะเหมือนกับเราเปิดแอร์ที่อุณหภูมิต่ำ ๆ แบบไม่เกรงใจน้ำแข็งขั้วโลก วิธีนี้จะเวิร์กตอนนอนกลางคืนมากครับ

แต่กับช่วงกลางวันที่ร้อนบรรลัยแบบเชียงใหม่ฤดูร้อน การเปิดหน้าต่างออกมา เช่น การเปิดหน้าต่างหรือข่องลมที่อาคารออฟฟิศในเซิร์น (บางอาคารในเซิร์นมีช่องลมแบบเปิด - ปิดได้ด้วยนะครับ) อาจไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่ ยิ่งในมิวเซียมที่มีบริเวณลานในบ้านที่ล้อมรอบด้วยกำแพงสี่ด้านยิ่งแล้วใหญ่

เขาจึงใช้วิธีที่สอง คือ เปิดพัดลม

ใช่ครับ พัดลมเหมือนบ้านเราเลย มีใบพัด มีปลั๊กเสียบ และเป่าลมเย็น ๆ ออกมาได้เหมือนบ้านเราเลย

ตลอดช่วงสัปดาห์กว่า ๆ ที่ผมมาอยู่ที่นี่ ผมสังเกตว่าสถานที่เดียวที่มีแอร์คือบนรถเมล์ครับ แต่เอาจริง ๆ แล้วเราก็ไม่รู้หรอกครับว่าที่ไหนมีแอร์หรือไม่มีแอร์ เพราะลมที่นี่มันเย็นไปเสียหมด คงต้องอยู่อีกสักพักใหญ่ ๆ ถึงจะพอรับรู้ได้แหละครับว่าที่ไหนมีแอร์จริง ๆ หรือที่ไหนใช้ระบบ open-air

เรื่องที่น่ากังวลกว่าอากาศร้อนที่นี่มีอยู่อย่างเดียวครับ คืออากาศร้อนฉิบหายอย่างไทยนี่แหละ