ตอนนี้ฉันแข็งแรงขึ้น - บันทึกไม่เหงา

Sep 2017

ช่วงเปิดเทอมของชีวิตมหา'ลัยแต่ละปีก็เหมือนกดรีเฟรชชีวิตใหม่ทีนึง เรื่องของปีก่อนเทอมก่อนก็จะเป็นคนละฉากคนละธีมกับปีนี้ บทชีวิตของฉันในช่วงนี้ก็รู้สึกว่าเป็นช่วงที่ผ่านอะไรๆ เยอะดี มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในเวลาอันสั้น ตั้งแต่ตัดสินใจย้ายหอ ตัดสินใจย้ายเอก ตัดสินใจลองทำบางอย่างแล้วก็ตัดสินใจเลิกทำ สนิทและเปิดใจกับเพื่อนที่เรียนด้วยกันมากขึ้น ทดลองเส้นทางใหม่ๆ และติ่งผชเพิ่มขึ้น 5555 อย่างหลังนี่ดูไร้สาระ แต่ก็ทำให้ได้อะไรกลับมาหลายอย่างนะ

ฉันชอบเวลาได้อยู่กับตัวเอง คุยกับตัวเอง ทบทวนหลายๆอย่างในชีวิต เมื่อก่อนก็เป็น ที่ชอบมีเรื่องเก็บมาคิดให้รู้สึกแย่ แต่เห็นด้วยกับคำว่าเวลามันสอนเราจริงๆ ตอนนี้เรียนรู้ที่จะไม่ค่อยใส่ความรู้สึกกับสิ่งรอบข้างมากนัก เพื่อนบางคนก็พูดว่า "มึงดูอึนอะ" คนที่เพิ่งรู้จักกันยังพูดขำๆ ว่า "น้องดูไร้ความรู้สึก" อาจเป็นกลไกป้องกันตัวเองที่ทำหน้าที่ปกป้องความรู้สึกคนอื่นไปในตัว ฉันไม่ชอบการถูกคาดหวังเพราะไม่อยากให้คนอื่นผิดหวัง เช่น เราแสดงออกว่าชอบสิ่งนั้น คนอื่นก็จะคิดว่าเราจะยังชอบหรือต้องการสิ่งนั้น แต่มันก็ไม่ได้เสมอไป บางช่วงเวลาเราอาจจะเลิกชอบหรือเลิกต้องการ ฉันจึงไม่ค่อยแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาถึงความรู้สึกที่แท้จริง หรือจริงๆ แล้วความรู้สึกของฉันอาจจะอธิบายออกมาอย่างชัดเจนไม่ได้ก็ได้ อย่างที่เคยได้ยินกัน "คนเรามันซับซ้อน"

เรื่องการตัดสินใจเปลี่ยนหรือทำบางอย่างในชีวิตมันกลับต่างกัน เราอาจปรึกษาใครต่อใคร บางคนก็ว่าอย่างโน้น บางคนก็ว่าอย่างนี้ ตรงใจบางไม่ตรงใจบ้าง ไอ้คำว่าตรงใจนี่แหละแสดงให้เห็นว่า แท้จริงตัวเราเองมีคำตอบของเราอยู่แล้ว อาจจะแค่ไม่กล้าหรืออาจต้องการเหตุผลที่ดูสมเหตุสมผลในการตัดสินใจ สำหรับฉันไม่จำเป็นต้องชัดเจนเรื่องความรู้สึกเท่าไรก็ได้ ไม่ต้องแสดงออกตรงๆ แค่รู้สิ่งที่อยู่ในสับเซ็ตของความรู้สึกนั้นก็พอ มันไม่ได้มีอะไรที่ตายตัวอยู่แล้ว กลับกันหากต้องตัดสินใจมันต้องเด็ดขาด เราไม่จำเป็นต้องคิดล่วงหน้า เก็บความรู้สึกคนรอบข้างมากังวล แต่เราควรต้องแคร์ความรู้สึกเขา ณ ขณะนั้น อย่าให้เขารอ อย่าให้เขาผิดหวัง อย่าให้เขาเป็นห่วง โดยเฉพาะเรื่องที่สำคัญก็ควรตัดสินใจให้ชัดไปเลย ยิ่งเร็วยิ่งดี ดูเป็นคนย้อนแย้งเนอะ ความรู้สึกไม่ชัดเจนแต่การตัดสินใจต้องชัดเจน

คิดว่าตอนนี้ตัวเองคงยังอยู่ในช่วงเรียนรู้ สิ่งที่ฉันคิดอาจจะผิด หรือใครอาจไม่เข้าใจก็ได้ แต่โดยรวมฉันก็แฮปปี้กับชีวิตที่เลือกตอนนี้นะ ได้ทำหลายอย่างที่พอใจจะทำ ดูแลตัวเองได้ จัดการตัวเอง(พอ)ได้ คนรอบข้างที่อยู่ด้วยกันตอนนี้ก็ถือเป็นความโชคดีมากกว่า โชคดีที่เขารับเราได้ โชคดีที่เขาแคร์เรา โชคดีที่เขาไม่รำคาญ 5555 อยากขอบคุณทุกๆ ความโชคดีมากๆ เลยที่ยังไม่ทิ้งกัน ฉันก็จะดีกับทุกคนให้มากที่สุดในแบบของฉัน จากหัวเรื่องที่บอกว่าแข็งแรงนี่ไม่ใช่ร่างกายนะ ยังนอนดึกเหมือนเดิมแหละ แต่เป็นการแข็งแรงทางความรู้สึก มันกดดันน้อยลงกังวลน้อยลงเพราะเข้าใจตัวเองมากขึ้น รู้สึกสบายใจ สนุก และพอใจกับสิ่งที่ทำ พอลองมองอีกทีแล้วการปรับความคิดมันก็ดี แต่การขีดเส้นใต้สองเส้นให้กับสิ่งที่สำคัญกับเราจริงๆ มันดีกว่า

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น