วันก่อนเราบ่นกับเพื่อนว่าปิดเทอมทั้งที อยากจะนอนอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ก็ออกไปเที่ยวถ่ายรูปและทำกิจกรรมที่ชอบ แทนที่จะต้องมานั่งฝึกงานตั้งสองเดือน พอฝึกเสร็จได้พักแค่นิดเดียวก็เปิดเทอมอีกแล้ว ช่างน่าเศร้าเสียจริง :-(
แต่พอมานึกย้อนกลับไปดูแล้ว ไม่ว่าจะปิดเทอมไหน..เราก็ไม่เคยได้พักผ่อนเต็มที่จริงๆเสียที ไม่เคยได้อยู่เฉยๆหรือได้นอนพักตามอัธยาศัยทั้งปิดเทอม ต้องมีความรับผิดชอบ งาน หรือหน้าที่บางอย่างให้ได้ทำเสมอๆ ตั้งแต่ม.ปลายจนถึงปัจจุบัน
ถ้ามาคิดดูจริงๆ หากไม่นับรวมช่วงอนุบาลและประถม ปิดเทอมที่ได้พักผ่อนเยอะที่สุดเห็นทีจะเป็นตอนม.6กำลังเข้ามหาลัย แต่ถึงกระนั้นเราก็ไม่ได้หยุดยาวหกเดือนเหมือนเด็กไทยส่วนใหญ่ (เหตุเพราะเรียนอินเตอร์มาเลยได้หยุดสองเดือนกว่าๆเท่ากับทุกปิดเทอม) แถมยังมีกิจกรรมรับน้องมากมายอีก
อยากลองจะนอนเฉยๆเป็นเวลาสองเดือนกว่าๆดูเหมือนกันนะ แต่ไม่รู้สิ..ถ้ามีเวลามากขนาดนั้นจริง อาจจะเบื่อก็ได้ ยิ่งเป็นพวกชอบหาอะไรทำอยู่
ส่วนจุดประสงค์ของบันทึกนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการจดบันทึกและมองย้อนกลับไปว่าปิดเทอมที่ผ่านๆมาเราได้ทำอะไรไปบ้าง ไหนๆปิดเทอมนี้ก็จะเป็นปิดเทอมสุดท้ายของเราแล้ว ก็อยากจะเขียนอะไรดีๆสนุกๆที่เราได้ทำไว้ในช่วงปิดเทอมต่างๆ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้สัมผัสถึงคำว่าปิดเทอมอีก
(1) ม.3-ม.4
เราลงเรียนซัมเมอร์วิชาวัฒนธรรมไทยช่วงเช้าและแบดมินตันช่วงบ่าย จำได้ว่าเป็นวิชาที่ทำให้น้ำหนักเราขึ้นมาถึงห้ากิโลเพราะได้ลองทำ ชิม และกินอาหารไทยอยู่ตลอด บอกเลยว่าแบดมินตันไม่ช่วยอะไร ฮ่าๆ เป็นวิชาที่สนุกมากเพราะต้องนุ่งโจงกระเบนทุกเช้าและใส่โจงกระเบนเรียนจนจบคาบโดยแบ่งเป็นสีๆตามกลุ่ม เราเป็นกลุ่มภาคเหนือเลยต้องนุ่งโจงกระเบนสีน้ำเงิน และต้องทำโปรเจคจบเกี่ยวกับภาคเหนือ (ทั้งแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและทำอาหารเหนือด้วย) นอกจากนั้นเรายังได้เรียนวิธีการร้อยมาลัย แกะสลักผลไม้ และอะไรไทยๆอีกมากมาย ซึ่งเรารู้สึกว่ามันมีประโยชน์นะ ทุกวันนี้ยังชอบอวดชาวบ้านอยู่เลยว่าร้อยพวงมาลัยเป็น ฟังแล้วแม่ศรีเรือนเว่อร์
(2) ม.4-ม.5
เราไปเรียนซัมเมอร์เก็บหน่วยกิตวิชาประวัติศาสตร์โลกที่อังกฤษ เป็นประสบการณ์ที่จะไม่มีวันลืมเพราะว่าไปกับรุ่นพี่ทั้งหมดเลย มีรุ่นเดียวกันแค่สองคนเลยจะกลมเกลียวกับคนที่ไปด้วยกันมาก (ทั้งๆที่ก่อนไปไม่สนิทกัน) เปิดโลกมากๆเพราะเรียนไปด้วยก็ได้ไปเยี่ยมสถานที่ที่เราเรียนในตำราจริงๆ คือมันคูลมาก เรียนเรื่องสงครามโลกครั้งที่สองแล้วก็ได้ไป churchill war rooms ไปดูจุดที่เคยโดนระเบิดอะไรแบบนี้ เป็นการเรียนประวัติศาสตร์ที่ทำให้เราจำรายละเอียดได้ไม่ลืม หลังจากเรียนจบหลักสูตรก็ได้ไปเที่ยวรอบยุโรปต่อ ได้ไปทั้งเยอรมัน ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ แล้วก็เบลเยียม เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก จะไม่มีวันลืม (ช้อปปิ้งหมดไปเยอะมากเช่นกัน พ่อกุมขมับเลยตอนนั้น)
(3) ม.5-ม.6
เราลงเรียนซัมเมอร์วิชาคอมพิวเตอร์2 จำได้ว่าไม่อยากเรียนในเทอมเพราะเลื่องลือกันว่าเป็นวิชาที่ได้Aยาก ซึ่งการเรียนตอนซัมเมอร์ก็ค่อนข้างสนุกและไม่เครียด จริงๆแล้วเราเป็นคนโลว์เทคมากๆ ใช้โปรแกรมอะไรไม่เป็นเลย ไม่ว่าจะโปรแกรมตัดต่อ สร้างเว็บ หรือโฟโต้ช้อป ซึ่งวิชาคอมพ์2นั้นสอนหมดเลย ได้ลองใช้green screenแล้วตัดต่อตัวเองเข้าไปอยู่ในเอมวีมาม่าของเอ็กโซด้วย (ตอนนั้นติ่งแรง) เรารู้สึกว่ามันสนุกกว่าที่คิดมากและก็เข้าใจว่าการถ่ายทำและตัดต่อเอมวีมันเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายกว่าที่คิด (แม้ผลลัพธ์จะกากๆหน่อย) เป็นวิชาที่ได้ประโยชน์และใช้จนถึงทุกวันนี้จริงๆ...แต่ลืมไปแล้วนะว่าทำ green screenยังไง แฮ่
(4) ม.6-ปี1
เราไปเที่ยวอิตาลีกับสวิสเซอร์แลนด์กับพ่อแม่ (พ่อให้เป็นของขวัญเรียนจบ) ก่อนที่จะกลับมารับน้องกับมหาลัย เป็นทริปที่ทำให้เราสนิทกับพ่อแม่มากขึ้นมากๆเพราะเที่ยวกันเองโดยไม่พึ่งทัวร์ จะตกรถก็ตกกันเอง จะโดนโจรปล้นที่อิตาลีก็ต้องเอาตัวรอดกันเอง ชุลมุนสุดๆ เป็นทริปเดียวและทริปสุดท้ายที่เราได้ใช้เวลากับพ่อแม่เยอะจริงๆ เพราะหลังจากเข้ามหาลัยก็ไม่ค่อยได้มีเวลาให้พ่อกับแม่มากเท่าเดิม หนูรักแม่กับป๊านะ ไว้หนูเรียนจบแล้วไปเที่ยวด้วยกันอีกนะคะ :-)
(5) ปี1-ปี2
เราเข้าชมรม CU Chorus ตอนปีหนึ่งและตัดสินใจลงชื่อร้องในงานปฐมนิเทศนิสิตใหม่ จำได้ว่าซ้อมหนักอยู่เหมือนกัน ซ้อม17.00-20.00วันเว้นวันซึ่งมันทำให้น้ำหนักเราลดไปเลยเพราะวันไหนไปซ้อมจะเหนื่อยจนกลับมานอนโดยไม่กินข้าวเย็น เรารู้สึกว่ามันเป็นกิจกรรมที่ดี ได้ร้องกับพี่ๆและเพื่อนๆคนอื่นๆ ตอนซ้อมอาจจะมีอู้บ้างงอแงบ้างแต่ในวันงานจริง เราโคตรภูมิใจและตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ CU Chorus คือมันคูลมากเว้ยการที่ได้ร้องเพลงต่อหน้าน้องๆที่กำลังเข้าใหม่ทุกคน มันทำให้เรานึกย้อนกลับไปตอนเราเข้ามาใหม่ๆอ่ะ ทรงพลังมาก
(6) ปี2-ปี3
เราไปซัมเมอร์เก็บหน่วยกิตที่ประเทศสเปน (เพราะเราโทสเปน) เป็นประสบการณ์ที่พูดเลยว่าสนุกที่สุดในชีวิตเลย เราได้เพื่อนใหม่มากมาย ได้สนิทกับเพื่อนที่ไปด้วยกัน ได้ใช้ภาษาที่เรียนมาในประเทศที่เค้าพูดกันจริงๆ ได้เที่ยวกลางคืน ได้ลองอะไรที่ไม่เคยลอง เป็นการเปิดประสบการณ์หลายอย่างมากๆ ได้เรียนรู้วิธีอยู่ด้วยตัวเองและใช้ชีวิตแบบฝรั่งจริงๆ carefreeแล้วก็สนุกมาก เราพูดตรงนี้เลยว่าก่อนตายเราจะต้องกับไปเหยียบที่สเปนอีกให้ได้! หลังจากเก็บหน่วยกิตเสร็จ เราก็ไปเที่ยวยุโรปต่อกับเพื่อน (ฝรั่งเศส เยอรมัน เดนมาร์ก) เป็นความทรงจำที่เราจะไม่มีวันลืมเลยจริงๆ เป็นปิดเทอมที่มีค่ามาก
และปิดเทอมสุดท้ายนี้ (7) เรากำลังฝึกงานอยู่ที่บริษัท Pomelo..ใครที่อยากรู้เรื่องราวเพิ่มเติมก็เข้าไปอ่านที่เราบ่นๆไว้เกี่ยวกับชีวิตฝึกงานได้
โอ้โห...ที่ผ่านมา เราหาอะไรทำทุกปิดเทอมจริงๆแฮะ ไม่เคยว่างเลย
ทั้งนี้ทั้งนั้นเรารู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วเหมือนกันนะ พอมองย้อนกลับไป..ความทรงจำของปิดเทอมที่ผ่านๆมามันยังชัดเจนอยู่เลย แต่เราจะไม่มีโอกาสได้ปิดเทอมใหญ่อีกแล้วนะ ต่อไปก็เรียนจบแล้วก็ต้องทำงานแล้ว จะไม่มีคำว่าปิดเทอม จะไม่มีคำว่าพักอีกต่อไปแล้ว โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาอีกขั้นแล้วนะ
เราเลยอยากฝากถึงน้องๆที่ยังมีโอกาสปิดเทอมอยู่ ว่าอยากทำอะไรก็รีบๆทำซะ อยากไปเที่ยวก็ไป อยากทำงานก็ทำ อยากเรียนก็เรียน อยากทำอะไรก็ทำให้เต็มที่ตอนยังมีเวลา สองเดือนน่ะมันเอาไปทำอะไรได้มากจริงๆนะ บางทีถ้าเราตัดสินใจไม่นอนอืดและออกไปหาอะไรทำ...เราอาจจะได้ประสบการณ์ชีวิตที่ลืมไม่ลงกลับมาเลยก็ได้ (แต่ไม่ได้ว่าคนนอนอืดนะ บางทีเราก็อยากนอนโง่ๆอยู่เฉยๆเหมือนกันแหละ)
เนี่ย...ปิดเทอมนี้ยังพอมีเวลาเหลืออยู่นะ ใครอยากทำอะไรก็ออกไปลุยเลย!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in