"ทำยังไงถึงได้ทำงานในโมโตจีพี?
มันคือคำถามของความพยายาม"
เพื่อสัมผัสความตื่นเต้นเร้าใจของมอเตอร์สปอร์ตและเผชิญหน้ากับมันด้วยตนเอง เอมี่กลายเป็นผู้ประกาศข่าวที่รู้หน้าค่าตากันเป็นอย่างดีในแพดด็อก
เป็นที่รู้จักกันดีในสนามแข่งโมโตจีพีอย่าง 'เอมี่ เรย์โนลด์' เธอทำงานให้กับโมโตจีพีและฟ็อก เอเชีย และเธอมักจะไปสัมภาษณ์ที่พิทเลนพร้อมกับไมโครโฟนคู่ใจเสมอ อีกทั้งยังเป็นผู้ดำเนินรายการ 'Piece of the Week' ซึ่งเป็นหนึ่งในรายการที่ออกอากาศทางเฟสบุ๊คของโมโตจีพี เธอไม่เคยว่างเว้นกับการค้นหาเรื่องราวและการเปลี่ยนแปลงในแพดด็อก รวมไปถึงการสัมภาษณ์นักแข่งและผู้จัดการทีมเพื่อให้ได้ข้อมูลต่างๆในสัปดาห์แห่งการแข่งขัน
รอยยิ้มที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงของเธอซ่อนความล้มเหลวในอดีตก่อนที่เธอจะกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของโลกสองล้ออันมีเกียรตินี้ไว้ แต่เราได้สัมภาษณ์กันตั้งแต่ต้นก่อนที่เธอจะกลายมาเป็นผู้รายงานข่าว...
"พ่อของฉันชื่นชอบเอฟวันมาก แต่ฉันเพิ่งมาสนใจกีฬาด้านนี้ตอนเป็นวัยรุ่น"
เธอประเมินค่าความเป็นไปได้ในการรวมเอาความหลงใหลและการศึกษาเข้าด้วยกัน
"ฉันชื่นชม 'ซูซี่ เพอร์รี่'เสมอและสนุกกับการสัมภาษณ์ของเธอและคิดว่าน่าจะเป็นงานที่ดี ฉันจึงตัดสินใจเรียนต่อคณะวารสารศาสตร์และเลือกสื่อสารมวลชนด้านกีฬาเป็นสาขาที่สนใจเป็นพิเศษ"
ในปีเดียวกันกับที่เอมี่ทำงานในมหาวิทยาลัย เธอเป็นนางแบบส่งเสริมการขายสินค้าในสนาม นั้นจึงทำให้เธอได้มีโอกาสเข้าไปในแพดด็อก
หลังจากที่เรียนจบ เธอเข้าร่วมกับมอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ เกิร์ลในการแข่งขันเอ็มเอ็กซ์จีพี ในช่วงท้ายของฤดูกาล เธอถูกยื่นข้อเสนอให้เป็นผู้ดำเนินรายการหนึ่งในงานสี่ล้อที่สำคัญที่สุดในอังกฤษ แต่ภายในเวลาไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ การเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในฐานะผู้ดำเนินรายการมีอันต้องบิดเบี้ยวไป...
"มันเป็นครั้งแรกของฉันที่ได้ขับรถมอเตอร์ไซค์และน่าจะชั่วโมงกว่านิดๆ ฉันล้มจนขาหักและเข่าเคลื่อน เมื่อวันงานใกล้เข้ามา ฉันไปโรงพยาบาลและขอให้หมอเอาเหล็กดามออกและมีเวลาเพียงแค่สิบวันที่จะเริ่มต้นเดินอีกครั้ง ทั้งหมดทั้งมวลนี้เพื่อการเป็นผู้ดำเนินรายการครั้งแรกในชีวิตของฉัน"
ในฤดูกาลต่อมา เอมี่กลับไปยังสนามฝุ่นอีกครั้ง แต่ในฐานะผู้ประกาศข่าว...
"นักข่าวประจำพิทชวนฉันไปทำงานด้วย ฉันเรียนรู้อะไรมากมายตอนอยู่ในสนามที่อยู่นอกเหนือจากตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย แต่เพราะมีใบวุฒิบัตรด้านวารสารศาสตร์ จึงทำให้ฉันสมควรได้รับงานนี้จริงๆ
ยิ่งกว่านั้น โมโตครอสคือกีฬาที่ฉันรักเพราะมันนำเสนอเกี่ยวกับมอเตอร์สปอร์ตและเกิดขึ้นโดยบังเอิญมากกว่า เพราะแพดด็อกเล็กๆนี้ง่ายต่อการสร้างมิตรภาพกับคนที่ทำงานในสนาม แต่หลังจากหนึ่งปีกับการเป็นมอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ เกิร์ล และอีกสามปีกับการเป็นผู้รายงานข่าวในพิทเลน ฉันก็รู้สึกว่าอยากก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง"
และโอกาสก็ปรากฏขึ้นในกล่องอีเมลของเธอ....
"ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของดอร์น่า สปอร์ตติดต่อหาฉันและบอกว่าเขาได้ดูสิ่งที่ฉันทำในเอ็มเอ็กซ์จีพีแล้วรู้สึกชอบ จึงเสนอโปรเจคที่ฉันจะเป็นตัวหลักในโมโตจีพี และหลังจากที่พูดคุยกันเรื่องรายละเอียด ฉันก็ได้ไปทดสอบงานที่บาเลนเซียจีพี สนามสุดท้ายของฤดูกาล และหลังจากนั้น มันก็กลายเป็นอาชีพของฉัน"
และตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา เอมี่ก็ได้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆในโมโตจีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ...
"ความทรงจำที่ตลกที่สุดคือช่วงปีแรกที่เข้าทำงาน เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องใหม่หมด วิธีการทำงาน, สนามแข่ง, อุปกรณ์...
และฉันช็อคมากกับจำนวนคนที่ทำงานในระดับแชมเปี้ยนชิพเมื่อเทียบกับในแพดด็อกโมโตครอส"
แต่เพราะมีเพื่อนร่วมงานที่แสนพิเศษอย่าง นิค ฮาร์ริสและแมท เบิร์ท ซึ่งทำให้เธอค้นพบบุคลิกเฉพาะตน
"พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในระดับแชมเปี้ยนชิพ พวกเขาพาฉันไปเยี่ยมชมสถานที่ใหม่ๆและบอกเล่าถึงลักษณะพิเศษของแต่ละประเทศให้กับฉันในช่วงปีแรกที่เข้าทำงาน "
บางครั้งมันก็ยากเกินจะกล่าวถึงการที่ต้องแยกระหว่างความเป็นมืออาชีพกับความเห็นใจต่อตัวนักแข่งคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ เอมี่กล่าวว่าสำหรับเธอไม่ใช่เรื่องยากเลย...
"นักแข่งหลายคนอยู่รุ่นราวคราวเดียวกับฉัน พวกเราเติบโตอย่างมืออาชีพมาด้วยกัน นั่นจึงทำให้ฉันสามารถเข้าถึงพวกเขาได้ง่ายมากขึ้น"
แต่ก็มีเหตุการณ์หนึ่งที่ยากเกินกว่าจะควบคุม...
"ลิสต์ที่เคยเขียนไว้ตอนฉันเรียนมหาวิทยาลัยคือ ต้องสัมภาษณ์'วาเลนติโน่ รอสซี่'ให้ได้ก่อนที่เขาจะอำลาวงการ เขาเป็นนักแข่งที่ฉันชื่นชมมากและเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของโลกสองล้อนี้
และฉันก็ทำสำเร็จ!!!!
ยังจำวันแรกที่สัมภาษณ์เขาได้เลยว่าตอนนั้นฉันกระวนกระวายมาก และคำถามแรกที่ถามเขาคือ 'คุณรู้จัก โทนี่ ไคลอรี่(Tony Cairoli) มั้ย?'
แน่นอนว่ารอสซี่ต้องรู้จักเขาอยู่แล้ว!"
การสัมภาษณ์กับนักแข่งคือส่วนสำคัญในงานของเอมี่ เธอทุ่มทุกความพยายามและความหลงใหลทั้งหมดที่มีเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ต้องการ และนักข่าวจากหลากสำนักก็จะนำเสนองานของพวกเธอไปรายงานต่อ...
"หลังจากที่สัมภาษณ์เสร็จ ฉันจะรู้สึกว่างานสำเร็จไปได้ด้วยดี และรู้สึกดียิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเห็นสื่อต่างๆนำงานของเราไปเสนอต่อ เพราะนั่นแปลว่าฉันหาความพิเศษและความเป็นต้นฉบับที่สุดมาได้ ถือเป็นรางวัลตอบแทนสำหรับฉันมากๆ"
แต่ใช่ว่าทุกการสัมภาษณ์จะเป็นที่พึงพอใจ ถึงอย่างนั้นเอมี่ก็หลีกเลี่ยงการให้ความสนใจเมื่อมันไม่เป็นไปตามที่เธอหวัง...
" 'ทุกๆวันคือการเริ่มต้นใหม่' นี่คือสิ่งที่ฉันคิด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม คุณไม่สามารถเอาแต่คิดถึงสิ่งที่มันพลาดไปแล้วได้ ฉันจึงปิดบทนั้นไป
ดูลิสต์ที่ต้องทำและมุ่งมั่นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป และนี่คือทัศนคติที่ทำให้ฉันมาไกลขนาดนี้
เวลาที่มีคนถามว่าฉันเป็นผู้นำเสนอรายการและทำงานในโมโตจีพีได้อย่างไร?
มันดูเป็นคำตอบโง่ๆนะ แต่ทุกครั้งที่ประตูบานหนึ่งปิดลงไป ฉันจะอดทนจนกว่าจะมีประตูบานใหม่เปิดขึ้นอีกครั้ง มันคือคำถามของความมุ่งมั่น"
"ฉันเขินที่จะต้องให้คำแนะนำ เพราะทุกวันนี้ฉันเองยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมากมาย แต่ก็ยินดีที่จะแบ่งปันประสบการณ์นะ เพราะฉันชอบเปรียบเทียบตัวเองกับผู้คนที่ทำในอาชีพที่ฉันใฝ่ฝัน และรู้สึกมีเกียรติที่ได้ทำงานที่นี่ เพราะมันดูเข้าถึงยากและเปลี่ยนแปลงได้ง่าย"
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้เมื่อคุณไปถึงปลายทางที่ต้องการ และสิ่งหนึ่งที่เอมี่ต้อนรับด้วยความกระตือรือร้นเป็นอย่างมากคือ...
"ฉันยินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็นเด็กผู้หญิงรุ่นใหม่สนใจและอยากทำงานในวงการมอเตอร์สปอร์ต"
ความอดทนและความเป็นมืออาชีพทำให้เอมี่มาถึงจุดที่ใฝ่ฝันเร็วเกินกว่าที่จินตนาการไว้....
"ฉันได้ทำงานในโมโตจีพีตอนอายุยี่สิบสี่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยจินตนาการเลยว่าจะได้เข้ามาทำตั้งแต่อายุยังน้อยขนาดนี้
แต่เมื่อได้อยู่ตรงนี้ก็อยากทุ่มเทเวลาให้อย่างเต็มที่ เพราะฉันรักและอยากทำหลายๆคอนเทนต์ร่วมกันกับเพื่อนร่วมงาน นำเสนอข่าวสารต่างๆและเรื่องราวเชิงลึกในสนามให้กับผู้ชมทุกท่านได้ดูกัน"
ในหกฤดูกาลแห่งการทำงานในโมโตจีพี
'มูเจลโล่' ถือเป็นสนามที่พิเศษสำหรับเอมี่
"โอ้ ฉันรักสนามนี้ มันเป็นสนามแรกที่ฉันได้กลับไปหลังจากได้รับคำขอแต่งงานในตอนอายุจะเข้าเลขสาม"
แต่การจัดงานก็ต้องถูกยกเลิกไปเพราะโรคระบาด ถึงกระนั้นเอมี่ก็พบวิธีแก้ปัญหาใหม่โดยการไปที่สนามอื่นแทนโดยไม่เคยขาดรอยยิ้ม
เมื่อไม่ได้ยุ่งกับเรื่องราวสุดพิเศษในแพดด็อก นอกจากใช้ช่วงเวลากับสามี เอมี่ยังเป็นครูฝึกส่วนตัวและมีส่วนร่วมในการถ่ายทำโปรเจคอื่นๆด้วย แต่เมื่อรวมทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้ว สิ่งที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องส่วนตัวและในอาชีพการงานคือ....
'ความอดทน'
ผิดพลาดประการใดขออภัยล่วงหน้าค่า
?
⚠️ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความก่อนได้รับอนุญาต⚠️
ต้นฉบับ:
https://www.motogp.com/en/news/2020/11/08/working-in-motogp-it-s-a-question-of-perseverance/353974
รอบที่1- 17:37 13/1/65
รอบสอง- 12:49 15/1/65
รอบสาม- 09:56 17/1/65
รอบที่สี่- 10:08 -11:27 17/2/65 จัดรูปประโยค
รอบที่ห้า:13:53-18/2/65
Done ✅: 18/2/2022
? insights-ส่วนลึก,เข้าใจอย่างลึกซึ้ง
?volatile-เอาแน่เอานอนไม่ได้,เปลี่ยนแปลงง่าย
?envision-นึกคิด
?sought-after-ซึ่งเป็นที่ต้องการ/ประสงค์
?very- เต็มที,เต็มแก่
?presenters- ผู้ดำเนินรายการ
?frustrated-ท้อแท้,ผิดหวัง
?obtaining-บรรลุ,ได้รับ,แพร่หลาย,ประสบความสำเร็จ
?relevant statements-รายงาน,การบอกเล่า,การบรรยาย
?reiterate-พูดซ้ำ,กระทำซ้ำ
?twist- บิดเกลียว,กลับทิศทาง,ผิดรูป
?lowdown-ข้อเท็จจริง
?unfailing-ไม่เปลี่ยนแปลง
?first-hand -โดยตรง
?broadcaster-ผู้ประกาศข่าว
? grasping- คว้า,เข้าใจ,ฉกฉวย
ป.ล. หลังจากที่บล็อกโดนลบและกู้กลับมาได้ ก็หมดไฟและขี้เกียจแปล ขี้เกียจลงงานไปเลย ตอนนี้ก็หันมาขยันขายของ
ช่วงแรกมันก็สนุกนะ แต่พอได้หยุดพักบ้าง ก็เลยได้กลับมาถามตัวเองว่าจะใช้ชีวิตแบบนั้นตลอดไปเหรอ นั่นคือชีวิตที่ต้องการจริงๆเหรอ
และวิธีที่ทำให้มีสมาธิที่สุดคือการแปล ก็เลยกลับมาทำงานแปลอีกรอบ ก่อนที่จะกลับไปมีสมาธิและตั้งใจใหม่กับการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบ
บางทีก็ใช้ชีวิตไปเรื่อย จนลืมไปแล้วว่าสุดท้ายสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆคืออะไร
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in