'อันนา เอซเปเลต้า' ผู้อำนวยการของ ทีมทาเลนต์ โปรโมชั่นของดอร์น่า สปอร์ต ซึ่งเป็นส่วนที่เปลี่ยนนักแข่งตัวน้อย ให้กลายเป็นนักแข่งมืออาชีพอย่างโมโตจีพี

   เราแต่ละคนล้วนมีความทรงจำในวัยเด็กที่คุณจะคิดถึงมันเมื่อวันเวลาหลายปี ซึ่งสามารถนิยามได้เหมือนเป็นสัญญาณเตือนของอะไรบางอย่าง

  อันนา เอซเปเลต้า เกิดที่เมืองมาดริด ในปี 1985 ตอนเธออายุ 2 ขวบ พ่อของเธอเริ่มทำโครงการก่อสร้างที่ Circuit de Barcelona ที่คาตาลุนญา และหลังจากนั้นไม่นาน ก็อนุญาตให้อันนาตามเขาไปที่งานกรังปรีซ์ด้วย ความหลงใหลที่ได้เข้าสู่โลกของรถจักรยานยนต์ที่แข่งขันกันด้วยความเร็วสูงในทุกสนามแข่งทั่วโลก อันนาเริ่มต้นจากการเป็นผู้ชม และไม่กี่ปีต่อมา เธอกลายเป็นหัวหน้าหลักในการสนับสนุนอนาคตของ โมโตจีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ

   "ฉันจินตนาการโลกที่ไม่มีรถมอเตอร์ไซค์ไม่ออกเลย" อันนากล่าวขึ้น นึกย้อนไปถึงวันที่เธอเริ่มตามพ่อไปทำงาน 'คาเมโล เอซเปเลต้า' ผู้อำนวยการของดอร์น่า สปอร์ต ซึ่งเป็นบริษัทที่เราทราบกันเป็นอย่างดีว่าเป็นหนึ่งในองค์กรที่จัดการแข่งขันกีฬาสองล้อระดับโลก

   ตอนอายุ 16 ปี อันนาเริ่มทำงานในแพดด็อก กลายเป็นส่วนหนึ่งของส่วนที่ตามหมู่บ้านวีไอพี เป็นกิจกรรมที่ทำให้เธอรู้จักหนึ่งในหลายๆส่วนที่สร้างโมโตจีพี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพขึ้นมา

   "ตอนนั้นฉันยังเรียนหนังสืออยู่ ก็เลยเข้าชมการแข่งขันได้แค่ช่วงหยุดภาคฤดูร้อน และหลังกลับจากสนามไปยังโรงแรม ฉันก็เรียนหนังสือต่อ ซึ่งเป็นแบบนี้มาตลอดสิบปี

ในช่วงที่ฉันเดินทางไปหลากหลายประเทศ ก็ได้สร้างมิตรภาพกับผู้คน

ที่ทุกวันนี้ฉันนับเขาเหล่านั้นเป็นเหมือนครอบครัวที่สองของฉันเลยก็ว่าได้"

  หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยด้านเศรษฐกิจและการจัดการ อันนาตัดสินใจให้โอกาสกับความหลงใหลอีกอย่างหนึ่งของตัวเองคือ การออกแบบ

   "โลกของสถาปัตยกรรมและการตกแต่งสร้างความหลงใหลให้กับฉันเสมอ ฉันจึงเรียนและทำงานเป็นนักออกแบบภายในที่มิลานเป็นเวลาสามปี"

   ความกระตือรือร้นที่อยากจะเพิ่มความรู้ด้านการออกแบบของตัวเองให้มากขึ้นและปรากฏสู่สายตาชาวโลกในระดับอินเตอร์เนชั่นแนล ทำให้เธอค้นพบว่าตัวเองเริ่มห่างจากโลกในสนามแข่งรถ และตอนนั้นเองที่ทำให้เธอรู้ว่า เธอคิดถึงอะดรีนาลีนของโมโตจีพีมากแค่ไหน 

  "ตอนที่ฉันอาศัยอยู่ที่มิลาน ฉันดูการแข่งขันด้วยกันกับเพื่อนๆและแบ่งปันศรัทธาอันแรงกล้าในกีฬาประเภทนี้กับพวกเขา ว่าฉันคิดถึงมันมากแค่ไหน"

  "ในตอนนั้น ดอร์น่าได้รับคำร้องขอมากมายให้สร้างสนามแข่งรถทั่วโลก ตอนนั้นเรามีคู่มือโปรโมเตอร์สำหรับสนามแข่งที่ยังมีอยู่และสนามที่อยากจะจัดการแข่งขันระดับแชมเปี้ยนชิพ"

    อันนาเห็นการสร้างสนามแข่งมาตั้งแต่เด็ก และเธอกลายเป็นแหล่งอ้างอิงของดอร์น่าให้กับโปรโมเตอร์ผู้ที่ต้องการสร้างสนามสำหรับการแข่งขันโมโตจีพี 

   "ในปี 2013 ฉันเริ่มต้นทำงานในฐานะผู้จัดการการพัฒนาสนามใหม่และบทบาทของหน้าที่นี้สามารถรวมเอาความหลงใหลด้านการวาดภาพของฉันมาใช้ด้วย"

   ภารกิจแรกของอันนาในหน้าที่นี้ คือเธอต้องบินไปที่อาเจนติน่าพร้อมกับนักแข่งรถอีกหกคน เพื่อทดสอบสนามใหม่ที่ Termas de Rio Hondo 

ความท้าทายที่ซับซ้อนประกอบกับระยะทางอันกว้างใหญ่ ตรงข้ามกับความปรารถนาที่เห็นได้ชัด เพื่อทำโครงการที่แสนจะคลุมเครือนี้ให้สำเร็จ ภารกิจสำเร็จและสนามที่อาเจนติน่าก็ได้เป็นผู้จัดการแข่งขันมาตั้งแต่ปี 2014

  การกลับมาของเธอสู่แพดด็อกในฐานะผู้อำนวยการของส่วนที่ต้องให้ความสนใจกับการเติบโตของนักแข่งดาวรุ่งในอนาคต มันเป็นความท้าทายอีกอย่างหนึ่งของอันนาเลยก็ว่าได้

 "บางคนที่ทำงานกับฉัน ก็รู้จักฉันมาตั้งแต่เด็ก ฉันต้องรู้ว่าตัวเองมีหน้าที่อะไร และดีใจที่ได้เห็นว่าพวกเขาเคารพการตัดสินใจและรับฟังความคิดเห็นของฉัน"

  (ป.ล. สรุปให้เข้าใจง่ายๆคือ ถึงจะเด็กกว่า แต่หน้าที่ต่างกัน ก็ต้องให้ความเคารพด้วย)

  

   ในหลากหลายโอกาส ความมืออาชีพและความรู้เรื่องกรังปรีซ์อันไร้ขอบเขตของอันนา ทำให้เธอกลายเป็นที่พึ่งโดยเฉพาะในช่วงเวลาคับขันของแต่ละสัปดาห์

   "การได้เติบโตในโลกสองล้อนี้ มันทำให้ฉันรู้จักหาวิธีแก้ไขยังไงให้รวดเร็วทันเวลา แม้ในช่วงที่มีความกดดันด้วย คุณภาพจะถูกยกย่องจากผู้คนที่ฉันทำงานด้วยและทุกครั้งที่ได้ยินจะรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง"

   ในช่วงเวลาเดียวกัน ตอนปี 2013 ที่โครงการอิเดมิทสึ เอเชีย ทาเลนต์คัพ เริ่มต้นขึ้น ซึ่งเป็นโคตรการที่อันนาสร้างขึ้นด้วยกันกับอัลเบอร์โต พูอิกซ์

 

   "เขาคือพี่เลี้ยงของฉัน ประสบการณ์ในสภาพแวดล้อมแบบนี้และไหวพริบของเขาในการดูนักแข่งที่มีพรสวรรค์ มันน่าเหลือเชื่อมาก"

    การเริ่มโครงการต่างๆอย่างค่อยเป็นค่อยไป เช่น จูเนียร์ ทาเลนต์ทีม ที่เป็นส่วนหนึ่งของ FIM CEV Repsol Championship และเป็นการเริ่มต้นของการผสมผสานกับ เรดบูล โมโตจีพี รุกกี้ส์ คัพ

 ฝ่ายนักแข่งใหม่ กำเนิดขึ้นในปี 2015 หกปีต่อมาเรียกชื่อทีมนี้ว่า 'ทาเลนต์ โปรโมชั่น ดีพาร์ทเม้นท์' ซึ่งเป็นแผนกจัดการแข่งขันหกโปรแกรม เพื่อการไปสู่เวทีโมโตจีพี ซึ่งได้แก่ นอร์ทเทิร์น ทาเลนต์ คัพ, เอเชีย 

  ทาเลนต์ คัพ, บริทิช ทาเลนต์ คัพ, เรดบูล โมโตจีพี รุกกี้ส์ คัพ, จูเนียร์ ทาเลนต์ ทีม และสุดท้ายที่มาใหม่คือ มินิจีพี โปรแกรมทั้งหมดจะถูกจัดขึ้นตามภูมิภาคที่มีอยู่แล้ว แม้ว่าจะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป รถจักรยานยนต์จะถูกจัดทำเพื่อให้เหมาะสมกับตัวนักแข่งที่เข้าร่วมการแข่งขันเหมือนกันหมด เพราะมันคือพรสวรรค์ของแต่ละคนที่จะปรากฏออกมา

    การจัดการด้านมนุษยสัมพันธ์โดยเฉพาะการที่จะต้องทำงานร่วมกับนักแข่งที่อายุยังน้อย บางครั้งมันก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างมีความซับซ้อน แต่ก็ให้ผลรางวัลที่ยิ่งใหญ่ตอบแทน

    "สิ่งที่เป็นแรงกระตุ้นและเติมเต็มความพึงพอใจของฉัน คือการได้เห็นเด็กๆเหล่านี้ได้เติบโตไปในสายอาชีพของพวกเขาอย่างมืออาชีพ 

ก่อนการแข่งขันรุ่นโมโตทรี ฉันจะไปทักทายพวกเขาทีละคน และบางครั้งฉันก็เล่นมุกตลกว่า 'พวกนายต้องเพิ่เวลาในกริดขึ้นนะ ฉันถึงจะพบปะได้ครบทุกคน'"

   การต้องใช้เวลามากมายไปกับขนบธรรมเนียมประเพณีอื่นๆ ทำให้อันนากลายเป็นล่ามที่ต้องมีความระมัดระวังในเรื่องของความแตกต่างทางวัฒนธรรมและการมีส่วนร่วมต่างๆ ซึ่งต้องขอบคุณแรงสนับสนุนของผู้คนจากแผนกของเธอ ที่ทำให้ในสนามแข่งขันมีทั้งความเป็นวัฒนธรรมและลักษณะพิเศษรวมอยู่ในนั้นด้วย*

( *น่าจะหมายถึง ตัวอย่างเช่นมาแข่งที่บุรีรัมย์ ก็จะมีความเป็นเอกลักษณ์ไทยอยู่ในงานด้วย ซึ่งทำให้ชาวต่างชาติที่เข้ามาชมการแข่งขันได้เรียนรู้วัฒนธรรมและความเป็นไทยไปด้วย)

    "ในหลายปีที่ผ่านมา เราเล็งเห็นถึงความสำคัญของวัฒนธรรมแต่ละประเทศมากขึ้นและพยายามรักษารูปแบบที่แตกต่างนี้ไว้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น ที่สเปนและอิตาลี เรื่องสภาพอากาศและมีนักแข่งระดับชาติที่เป็นเหมือนไอดอล ว่าพวกเขาสามารถลงแข่งได้ตั้งแต่อายุห้าหกขวบ อย่างไรก็ตาม ประเทศแถบยุโรปตะวันออกเหนือและเอเชียน ตามปกติพวกเขามักจะขับรถเมื่อตอนเป็นวัยรุ่นแล้ว ดังนั้นพวกเราจึงสร้าง FIM MiniGP World Series ขึ้นมา เพื่อสร้างพื้นฐานการเตรียมตัวให้กับนักแข่งวัยเยาว์ ผู้ที่ต้องการจะเป็นนักแข่งระดับมืออาชีพและฉันพูดได้เลยว่างานนี้เปิดกว้างให้เด็กผู้หญิงลงสนามด้วย"

    เมื่อมองย้อนกลับไป เธอรู้สึกประหลาดใจปนภูมิใจเมื่อค้นพบว่าตัวเองมาไกลมากแค่ไหน 

  "ถ้าเป็นตอนที่งานนี้เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ๆ ฉันคงไม่เชื่อแน่ๆ ว่าแค่ช่วงเวลาสั้นๆจะสามารถทำให้เกิดสิ่งต่างๆในวันนี้ได้ โดยในปี 2021 เรานำเสนอการเริ่มต้นที่จะสร้างพื้นฐานเดียวกันในการเปิดรับนักแข่งในอีกสิบปีข้างหน้าต่อไปให้กับสหพันธ์รถจักรยานยนต์" 

   เธอสามารถเป็นพยานได้ว่าในแพดด็อกมีการเปิดกว้างมากขึ้นกว่าเดิม สำหรับผู้หญิงที่ทำงานหลายส่วนในสนาม อันนาค้นหาแรงกระตุ้นสำหรับความท้าทายใหม่ๆที่สามารถแบ่งปันร่วมกับคาเมโล่ เอซเปเลต้าและคาลอส พ่อและพี่ชายของเธอได้ 

   "ฉันรู้สึกภูมิใจที่ได้ทำงานร่วมกับพวกเขาและสิทธิพิเศษ 

สำหรับฉันคือ ทำงานกับพ่อ

ท่านเป็นแหล่งรวมแรงบันดาลใจ ที่ฉันและคนอื่นๆสามารถเรียนรู้อะไรบางอย่างกับท่านได้เสมอ"

   โรคระบาดทำให้การกลับมาจัดการแข่งขันโมโตจีพีครั้งแรกที่สนามมัลดาลิกา อินเตอร์เนชั่นแนล สตรีท ที่อินโดนีเซียถูกเลื่อนออกไป โครงสร้างของสนามอินโดนีเซียเป็นอีกหนึ่งความพึงพอใจสำหรับอันนา

   "ถ้าสนามนี้เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งของความสำเร็จนั้นมาจาก'โครงการอิเดมิทสึ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ' ด้วย พวกเราตระหนักถึงโครงการนี้ และฉันมั่นใจว่า มันต้องน่าตื่นเต้นแน่นอนถ้าได้เห็นนักแข่งรถโมโตจีพีลงแข่งที่สนามนี้ด้วย"

  แม้จะอายุยังน้อย แต่เธอก็เต็มไปด้วยความสำเร็จมากมาย อันนาและทีมทาเลนต์ โปรโมชั่น กำลังเตรียมความท้าทายใหม่ๆที่น่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อให้โมโตจีพีเป็นหนึ่งในการแสดงที่สวยงามที่สุดในโลก

https://www.motogp.com/en/news/2021/09/08/i-contribute-to-the-growth-of-the-riders-of-tomorrow/389877

1st : 3/12/2021 

2nd :27/12/2021 15:35-16:18

DONE ✅: 27.12.2021 18:06

ป.ล บทสัมภาษณ์นี้แปลตามความรู้ที่มี กำลังอยู่ในขั้นพัฒนาฝีมืออยู่⏳

 ขอโทษที่ตัดบางส่วนออก เพราะนึกภาพตามไม่ออกจริงๆค่ะ ?

 

อยากแนะนำหรือทักท้วงเข้ามาได้นะคะ พร้อมรับฟังทุกคอมเม้นท์?

ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ?

MMAYSP93