ประเภท ดราม่า / การแพทย์ ช่อง JTBC ปี 2018 16 ตอน รับชมพร้อมซับไทยได้ที่ Netflix
นักแสดงนำ
เรื่องย่อ
ทุกอย่างเริ่มขึ้นจากความตายที่เกิดขึ้นกะทันหันของ นายแพทย์ อีโบฮุน (รับบทโดย ชอนโฮจิน - ผลงาน My Golden Life) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยซังกุก ซึ่งพอดิบพอดี กับการเข้ามาทำงานของประธานบริหารคนใหม่ กูซึงฮโย (รับบทโดย โจซึงอู) พร้อมคำสั่งที่สร้างความแตกตื่นให้บรรดาแพทย์ในโรงพยาบาล คำสั่งฟ้าผ่าที่สั่งย้ายแพทย์ที่ทำงาน 3 แผนกสำคัญไปทำงานยังโรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล
ทุกอย่างช่างประจวบเหมาะจน หมอเยจินอู (รัับบทโดย อีดงอุค) แพทย์แผนกฉุกเฉิน คิดว่ามันอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทั้งการตายที่เป็นปริศนา และเงินก้อนโตที่ได้มาอย่างไม่ขาวสะอาดที่เขาได้รับรู้ในวันเดียวกันนั้นจากเยซอนอู (รับบทโดย อีกยูฮยอง) น้องชายทุพพลภาพของเขา ที่ทำงานเกี่ยวกับการตรวจสอบการทำงานของโรงพยาบาลต่างๆ หลังจากพยายามสืบหาข้อมูล เขาได้รู้ความจริงเพิ่มเติมว่า แผนกทั้ง 3 คือแผนกที่ติดตัวแดง หรือทำให้โรงพยาบาลขาดทุน
การเข้ามาของผู้บริหารใหม่ที่มุ่งเน้นการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ สร้างกำไร โดยไม่สนใจว่าธุรกิจที่เขาบริหารอยู่คืออะไร สั่นคลอนระบบการทำงาน และอุดมการณ์ภายในใจของเหล่าแพทย์ จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อบรรดาแพทย์ตัดสินใจไม่อ่อนข้อ และลุกขึ้นต่อกรกับระบบธุรกิจ ติดตามเรื่องราวการฟาดฟันครั้งนี้ได้ในซีรีส์ "Life : ค่าชีิวิต" พร้อมซับไทยได้ที่ Netflix
แค่รู้ข่าวว่าคุณนักเขียนอีซูยอน เจ้าของผลงาน Secret Forest (รับชมพร้อมซับไทยได้ที่ Netflix) ที่นอกจากจะสร้างความประทับใจไว้ในใจผู้ชมสายสืบสวน ยังกวาดรางวัลมากมายโดยเฉพาะรางวัลใหญ่สูงสุด (แดซัง) ในสาขารายการโทรทัศน์ ในเวทีระดับประเทศอย่าง 54th Baeksang Arts Awards และได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 รายการโทรทัศน์ที่ดีที่สุดของปี 2017 จาก New York Times โดยครั้งนี้แม้จะเปลี่ยนผู้กำกับที่ร่วมงานด้วย เป็นคุณฮงจงชาน ที่เคยกำกับผลงานเรียกน้ำตา อย่าง Dear My Friends ก็ถือเป็นการเลือกผู้กำกับที่เหมาะกับบทเรื่องนี้อย่างมาก เพราะนอกจากความเข้มข้น ซับซ้อนของบทที่ทำได้อย่างดี เหมือนที่เคยฝากฝีมือไว้ในเรื่องป่าลับ เรื่องนี้คุณอีซูยอน ยังเพิ่มส่วนของอารมณ์ ความรู้สึก ที่ออกไปทางแนวดราม่าเข้ามาในบทด้วย
เอาเข้าจริงแม้ว่าตัวละครในเรื่องส่วนใหญ่จะเป็นแพทย์ที่ขนกันมาจากทุกแผนกในโรงพยาบาล แต่เนื้อเรื่องกลับไม่ได้เน้นที่การทำการรักษา หากจะมีฉากการรักษา หรือเรื่องเกี่ยวกับคนไข้ ก็จะเป็นในลักษณะของการนำเข้าไปสู่เรื่องราว ปัญหาด้านงานบริหารอีกที จึงอาจจะพูดได้ว่าซีรีส์เรื่องนี้ไม่ใช่ซีรีส์การแพทย์ซะทีเดียว แต่เป็นดราม่าทางธุรกิจมากกว่า ซึ่งในส่วนการฟาดฟันระหว่างทีมแพทย์และทีมบริหารก็เป็นไปอย่างเข้มข้น อัดแน่นไปด้วยข้อมูลต่างๆ และกลทางธุรกิจ
โดยการเล่าของคุณอีซูยอน ทำให้เราเห็นว่าทั้งสองฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตนเอง ชี้ให้เรามองว่า งานบริหารเอง ก็มีลักษณะงานอีกแบบ ความต้องการอีกแบบ ไม่มีใครที่ทำผิด หรืือใช้วิธีการสกปรก เพยงแต่เป็นการมองในมุมที่ต่างกัน ความเข้าใจที่ต่างกัน - แนวคิดอุดมการณ์ทางอาชีพ กับ ระบบทุนนิยมซึ่งก็ไม่ผิดทั้ง2ทาง ตัวละครเองก็ยังมีคำถามในใจ ยังสงสัยในตัวเองในขณะเดียวกันก็พยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่ัตัวเองไม่เคยสัมผัส หรือควมคิดที่ต่างออกไป
ประเด็นดราม่าที่น่าสนใจที่หยิบมาเล่นในเรื่องนี้อันหนึ่ง คือประเด็นบุคคลทุพพลภาพและครอบครัว ที่เล่าผ่านความสัมพันธ์ของสองพี่น้อง จินอูและซอนอู (และแม่) โดยมีรายละเอียดในหลายแง่มุม และนำเสนอออกมาได้อย่างน่าสนใจในปมความสัมพันธ์ที่ดูใกล้ชิด แต่กลับมีซอกมุมของความไม่เข้าใจและระยะห่างระหว่างกัน นอกจากจะนำเสนอออกมาได้อย่างละเอียดอ่อน และให้เกียรติบุคคลทุพพลภาพ ยังเปิดแง่มุมของการใช้ชีวิตในสังคมที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตของบุคคลทุพพลภาพในเกาหลี (เป็นภาพลักษณ์ของประเทศที่ดีทีเดียว เพราะในเรื่องซอนอูสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนบุคคลปกติทุกอย่างและได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพ) ส่วนตัวเราเสียน้ำตากับความกดดันในใจระหว่างพี่น้องไปพอสมควร โดยเฉพาะช่วงท้าย และบทสรุปที่ซาบซึ้งของทั้งคู่
นอกจากความสัมพันธ์ในครอบครัว เรื่องนี้คุณอีซูยอนยังเพิ่มเติมอีกสิ่งที่เราสัมผัสได้เพียงบางเบาใน Secret Forest เข้ามาในเรื่องนี้อย่างชัดเจน นั่นคือ "เลิฟไลน์" ของตัวละครหลัก (คู่ท่านประธานน่ารักมากกกกก ไม่มาก ไม่น้อย พอเขินๆ มีฉากให้ยิ้มออกมาเรื่อยๆ) แถมยังมีความน่ารัก และตลก เล็กๆน้อยๆ ในบทของตัวละครสมทบต่างๆ ทำให้เรื่องค่อนข้างผ่อนคลาย และมีจังหวะพักความตึงเครียดของแกนหลักของเรื่อง
จุดนี้ ถ้าจะพูดก็เหมือนเป็นดาบสองคม เพราะถ้าคนที่ชอบสไตล์บทที่ไม่มีเลิฟไลน์ / ไม่เล่นดราม่าอารมณ์ ของ Secret Forest ก็็อาจจะรู้สึกว่าเรื่องอารมณ์ต่างๆที่เพิ่มเข้ามาเป็นเรื่องรุงรัง ทำให้เรื่องเบาลง ไม่เข้ม ไม่ลุ้นเหมือนตอนป่าลับ แต่กลับกัน การเพิ่มเรื่องทางอารมณ์ที่ใช้ความรู้สึกสัมผัส ก็ช่วยให้ส่วนของการใช้ความคิด ดูจะไม่ถี่ยาวติดต่อ จนปวดหัว กับการต้องคอยคิิดตามการเล่าเรื่องที่เข้มข้น บีบหัวใจ ระดับป่าลับ ส่วนตัวรู้สึกว่าการที่คุณอีซูยอนรักษาระกับความเข้มข้นในแกนหลักไว้ได้ การเพิ่มบทผ่อนคลายที่ไม่ทำให้แกนเสียก็ถือเป็นเรื่องดี และเป็นงานอีกแบบที่ทำให้เข้าถึงคนดูได้กว้างขึ้น (ชวนเพื่อนมาดูง่ายขึ้น55)
เรื่องนี้ค่อนข้างจะมีสไตล์การเล่าเรื่องที่คล้ายกับป่าลับค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการวางตัวละครต่างๆ และเปลี่ยนสถานที่เล่าเรื่อง จากงานศาลของเหล่าอัยการ(ไปทางสืบสวน) เป็นงานธุรกิจการสาธารณสุขที่ควบทั้งในมุมแพทย์และนักธุรกิจ(เอาข้อมูลมาฟาดฟัน)
ความจริงเสน่ห์ของบทคุณอีซูยอนนอกจากความซับซ้อนเดาไม่ได้ คือการเล่นกับความ "เทา" ของคน ใช้สถานการณ์ต่างๆมาชี้ให้เราเห็นว่า ความคิด-ความต้องการ-การยับยั้งชั่งใจ ของคนเรามีระดับต่าง และไม่ได้มีปริมาณชัดเจน ทุกอย่างเป็นไปตามความอ่อนไหวของกิเลส เลื่อนเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ซึ่งทำให้คนดูเองก็อดเอนไปตามเหตุและผลของแต่ละฝั่งไม่ได้ เพราะเรื่องราวต่างๆ ไม่จำเป็นต้องมีพระเอกที่ขาวสะอาด หรือตัวร้ายที่สำเร็จด้วยทริคสกปรกเสมอไป แต่เรื่องราวอาจดำเนินด้วยคนธรรมดา
บางคนหวั่นไหวไปกับกิเลสมนุษย์ บางคนกลับมาได้ บางคนไม่มีทางย้อนกลับ บางคนพยายามแต่พลั้งเผลอ บางคนยึดมั่น ยืดหยัดต่อสู้ โลกหมุนไปเรื่อยๆ ถ้าโลกเลวร้ายลง บางทีเราก็ทำได้แค่พยายามต้านมันในส่วนของเรา... ต้านไว้ให้นานที่สุด...
(ความจริงในเรื่องมีคำพูด / Speech / แนวคิด ดีๆ ที่ทั้งกระตุ้นให้คิด หรือตอกหน้าระบบการทำงานของแพทย์ หรือทางธุรกิจในหลายจุด)
เสน่ห์หนึ่งของป่าลับ ที่มาเห็นชัดขึ้นไปอีกใน Life คือการคัดนักแสดงคุณภาพ ที่สามารถสื่อสารผ่านแววตา สีหน้า รอยยิ้มแค่มุมปาก ฯลฯ ทุกรายละเอียดในแต่ละอารมณ์และบริบท โดยเรื่องนี้ได้นักแสดงจากป่าลับมาเป็นตัวหลักถึง 3 คน คือโจซึงอู(ประธานกู) ยูแจมยอง(หมอจู ศัลยแพทย์ทรวงอก) และ อีคยูฮยอง(ซอนอู) เสริมด้วย อีดงอุค(จินอู) และนักแสดงสมทบท่านอื่นๆ แต่ละคนสามารถแสดงออกถึงความเปลี่ยนแปลงภายในของอารมณ์ตัวละครผ่านสีหน้าที่เปลี่ยนไปเพียงเล็กๆน้อยๆ แต่ชัดเจน ไม่ต้องเล่นล้น แต่พอดี เป็นธรรมชาติ (ดูซีรีส์เรื่องนี้รู้สึกว่าต้องดูละเอียดมาก เพราะต้องเก็บรายละเอียดสีหน้าแต่ละคน)
นักแสดงที่เราประทับใจมากในเรื่องนี้นอกจาก พระเอกทั้ง 2 และคุณหมอแว่น ก็คือคุณแม่โอเซฮวา รับบทโดย คุณมุนโซรี ที่แสดงบทสาวสตรองที่มีอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ แต่ก็ต้องรักษาเบื้องหน้าให้ดูดีเป็นที่เคารพ ขณะเดียวกัน เธอก็มีความโกรธ ความกลัว และความกล้าบ้าชน เป็นตัวละครเก๋ๆ เท่ๆ ที่ให้ความรู้สึกของผู้หญิงสาวสตรอง ทั้งบทและการแสดงที่น่าหมั่นไส้นิดๆ และทำให้เราเอาใจช่วยให้เจ๊ดับเครื่องชน ทำให้ตัวละครตัวนี้ เป็นตััวละครที่เราชอบมากตััวหนึ่ง
อีกตัวละครที่น่าสนใจคือ เจ้าหน้าที่ศูนย์ปลูกถ่ายอวัยวะ (รับบทโดยคุณแทอินโฮ) (ไม่สปอยล์ละกันอยากให้ไปดูกันเอง ส่วนถ้าใครไม่กลัวโดนสปอยล์จะเขียนสิ่งที่เราประะทับใจตัวละครตัวนี้ไว้ใต้ MV เพลงนะคะ)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in