เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ชีวิต(เมื่อเป็น)นิสิต – ordinarygirl
เขียนอีกทีปี 4 เลยเหรอ

  • สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกที เราก็ปีสี่แล้วอะ ;-) 


    จะรีแคปปีก่อนหน้าที่ผ่านมาสั้นๆว่า 

    ปีสอง 

    หลังกลับจาก NZ เราตื่นเต้นกับผู้คนที่นั่นมาก พวกเขามีประสบการณ์ทำงานหลากหลาย ดูเท่สุดๆ ตอนขึ้นปี 2 เราเลยไปสมัครทำพาร์ทไทม์กับร้านกาแฟชื่อดังแห่งหนึ่ง 

    ถ้าจะรีวิวปี 2 สั้นๆ คือเราทำพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนทั้งปีค่ะ เป็นปีที่เหนื่อยและหนักมาก แต่ก็ทำให้เราโตขึ้น เห็นโลกกว้างขึ้น พูดตรงๆเราคิดว่า งานที่ไทยหนักมากเมื่อเทียบกับรายได้ เราโชคดีที่เราสามารถ เลือกที่จะทำเพราะต้องการประสบการณ์ (ไม่ได้จำใจทำเพราะเรื่องค่าใช้จ่าย) มองย้อนไป แล้วนึกถึงคนอื่น ที่ต้องทำงานระหว่างเรียนเพื่อหารายได้ เราคิดว่ามันไม่คุ้มค่าเลยค่ะ ปัญหาค่าแรงขั้นต่ำของบ้านเราไม่ใช่เรื่องเล็กเลยจริงๆ 

    ช่วงปีสอง เราเรียน 3 วัน ทำงาน 4วัน =ทั้งสัปดาห์ แทบไม่ได้พัก นอกจากช่วงสอบ(ขอหยุดได้บ้าง) 

    ชีวิตวนไปอย่างนี้ สองเทอมการศึกษา 


    เราแลกประสบการณ์นั้นกับชีวิตในคณะ กิจกรรมคณะในปีนั้นเราไม่ได้ร่วมเลย เกรดก็แย่ที่สุดเมื่อเทียบกับเทอมอื่นๆ 


    คิดย้อนไปเราจะยังทำงานนั้นอยู่ไหมนะ


    เราบอกตัวเองว่าเราได้อะไรจากมันมาก แต่เราก็แลกไปมากเหมือนกัน สับสนจัง แต่ถ้าได้ทำงานนั้นที่ต่างประเทศ เราจะสู้สุดใจเลย ค่าแรงคงคุ้มเหนื่อยอะ 

  • เอาละค่ะ รีวิวช่วงปีสองไปแล้ว เข้าเรื่องหัวข้อครั้งนี้เลยแล้วกัน 

    รีวิวภาคแอด

    เรา นิสิตนิเทศ สาขาการประชาสัมพันธ์ เอกโฆษณา หรือสั้นๆก็คือ เด็กภาคแอด จะขอมารีวิววิชาของภาคทั้งหมดที่ได้เรียน (ทั้งวิชาบังคับ และวิชาเลือก)

    *เราคือเด็กหลักสูตรเก่ารุ่นสุดท้าย ที่มีการให้เข้าภาคในปี 3 รายวิชาและรายละเอียดก็อาจจะต่างกับที่น้องๆได้เรียนในปัจจุบัน 

    แต่คิดว่าในเนื้อหา แนวการเรียนพื้นฐานคงมีความคล้ายกันอยู่บ้างค่ะ 


    วิชาบังคับเอก มีทั้งหมด 8 ตัว โดยคณะจะจัดให้ลงเทอมละ 2 ตัวค่ะ 

    (ขอเขียนชื่อวิชาตามตัวย่อในใบหลักสูตร เพราะจำชื่อเต็มไม่ได้ค่ะ )

    AD CONSUMER BEHAV (เรียนปี 3)

    วิชานี้เรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภค เน้นทฤษฎีค่อนข้างเยอะ มีอิงตามจิตวิทยาด้วย เพราะเราจะศึกษาการแบ่งคนโดยใช้หลายเกณฑ์ค่ะ เช่น คนแต่ละเจนมีพฤติกรรมการบริโภคยังไง หรือกระบวนความคิดเค้าต่างกันยังไง ที่มาที่ไป ที่ทำให้เห็นถึงกระบวนการตัดสินใจซื้อของคน เพื่อที่เราจะนำมาออกแบบการสื่อสารโฆษณาของเรา ว่าจะทำยังไงให้เกิดการซื้อ แล้วหลังจากนั้น พฤติกรรมหลังจากที่ผู้บริโภคซื้อสินค้าไปละ มีการประเมินความพึงพอใจไหม เขาจัดให้แบรนด์(ตราสินค้า)อยู่ลำดับไหนในใจ ทำไมถึงเกิด brand royalty คนที่รักในแบรนด์เขาคิดอะไรอยู่ และแนวโน้มพฤติกรรมของเขาเป็นยังไง 

    ซึ่งวิชานี้ค่อนข้างเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการประยุกต์ใช้ตอนคิดแคมเปญเลยค่ะ ช่วงแรกอาจจะเบื่อและงงๆบ้าง ค่อนข้างยาก แต่มีประโยชน์นะ 

    CREAT STG MC (เรียนปี 3)

    วิชานี้ก็ดีค่ะ เป็นวิชาสร้างสรรค์กลยุทธ์ โดยตอนเรียนก็จะมีทฤษฎีและสอดแทรกตัวอย่างงานโฆษณาที่อิงแต่ละทฤษฎี  มีการให้โจทย์ไปคิด execution มา ส่งชิ้นงานบ้าง 2-3 ชิ้น ไม่ยุ่งมาก โจทย์มาจากอาจารย์ ยังไม่ได้รับบรีฟลูกค้า เลยไม่กดดัน แต่ก็ถือว่าได้ลองปฏิบัติค่ะ 

    MED PLAN STG (เรียนปี 3 เทอม 2)

    สำหรับตัวนี้ ค่อนข้า’สำคัญกับการคิดแคมเปญ และทำให้เห็นภาพการเรียนโฆษณามากขึ้นค่ะ เพราะจะได้เรียนวิธีการเลือกใช้สื่อ วิธีคำนวนเรตติ้ง cpm ต่างๆเพื่อดูว่างบกับสื่อที่เลือกใช้ จะคุ้มค่าไหม ต้องเรียนคำนวนบ้าง แต่ไม่ได้ซับซ้อนหรือยากเกินไปค่ะ ตอนใช้จริงก็สามารถดูสูตรได้ แค่ต้องเข้าใจวิธีการคำนวนค่ะ 

    น่าเสียดายที่ปลายเทอมมีปัญหาโควิด ทำให้ไม่ได้รับโจทย์จริงจากลูกค้า และปรับการวัดผลเป็นการสอบ ทำให้ไม่ได้ฝึกใช้ทักษะจากวิชานี้เท่าไหร่

    AD MC RES (เรียนปี 3 เทอม 2)

    วิชานี้เราไม่ไหวมากกกก เรียนเกี่ยวกับการทำวิจัย มีกี่ประเภท เก็บข้อมูลยังไง วิเคราะห์งานวิจัย ทำรายงาน ปลายเทอมก็มีโจทย์จากลูกค้าให้เราไปเก็บข้อมูลและทำรายงานจริงออกมา เราคิดว่ามันยากมาก มองย้อนไปคือ เครียด แต่ตอนเก็บข้อมูลเพื่อทำแคมเปญจริง ไม่ได้ทำสเกลใหญ่ ละเอียดแบบที่เรียนจากวิชานี้ ยังไงก็ตาม สำหรับเนื้อหาวิชานี้เราคิดว่าเป็นพื้นฐานที่ดี และสามารถต่อยอดไปใช้กับการทำงานจริง/จนถึงการเรียน ป.โท ในอนาคตได้ค่ะ

     



  • AD MC MGT (เรียนปี 4)

    วิชาการจัดการโฆษณาและการสื่อสารการตลาด สรุปง่ายๆคือ เป็นวิชาเบื้องต้นที่ทำให้เห็นภาพรวมของการจัดตั้งองค์กรหรือบริษัท การวางแผนดำเนินงาน โครงสร้างองค์กร การบริหารทรัพยากรมนุษย์ ท้ายเทอมก็ให้จำลองว่าถ้าจัดตั้งเอเจนซี่โฆษณา ต้องทำอะไรบ้าง มีเอเจนซี่กี่แบบ(เช่น creative /digital agency / event/ อื่นๆ) ต้องมีแผนกไหนบ้าง จดทะเบียนบริษัทใช้งบเท่าไหร่ จ้างคนกี่คน ตำแหน่งอะไรบ้าง แผนงานปีแรกจะมีกำไรโดยประมาณเท่าไหร่ รวมข้อมูลมานำเสนอและทำรายงาน ประมาณนี้ค่ะ

    AD SNR SEM WORK (เรียนปี 4 เทอม 2 : กำลังเรียน)

    วิชานี้ อืม ตอนนี้เรียนอยู่ ถ้าให้รีวิวไว้สั้นคือ วิชาที่ช่วยเตรียมความพร้อมรอบด้าน ก่อนเรียนจบไปทำงานจริงในวงการสื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านโฆษณาค่ะ

    ในแต่ละสัปดาห์จะมีพี่วิทยากรมาแนะนำในเรื่องต่างๆ แล้วแต่อาจารย์จะเชิญมาค่ะ มีวิทยากรที่เป็น HR มาแนะนำการสมัครงาน รุ่นพี่ที่ทำตำแหน่ง AE มาบอกเล่ารายละเอียดอาชีพและเม้ามอยเชิงลึก ประมาณนี้ค่ะ โดยระหว่างเรียน อาจารย์ก็ได้แจกโจทย์ให้ทั้งห้องคิดแคมเปญการสื่อสารโฆษณามา พิชงานแข่งกัน ทีมที่ชนะ จะได้เป็นทีมที่คุมทีมอื่นเพื่อทำงานจริง งานใหญ่ออกมาร่วมกันค่ะ

    ขณะที่เขียนนี้ เราก็ยังเรียนวิชานี้อยู่ได้สัก 5 สัปดาห์เองค่ะ ยังไงจะมาเพิ่มเติมข้อมูลที่เป็นประโยชน์(ถ้ามี)ให้ในอนาคตนะคะ  

    STG MC CAMP (เรียนปี 4 เทอม 2 : กำลังเรียน)

    เรียกได้ว่า นี่คือวิชาปิดท้าย ของชีวิตการเป็นนิสิตโฆษณา ที่ทุกคนเฝ้ารอ(หรือเปล่า) ที่ได้ยินอินโทรมาตั้งแต่เลือกภาคว่าโหด แข่งกันสุดๆ จะต้องเจอลูกค้าจริง อาจจะเจ็บ เสียน้ำตา ผมร่วง แต่รางวัลงาม 

    อืมมมมมม แต่เราบอกเลยว่า เราไม่ใช่สายแข่งขัน หรือพูดง่ายๆคือไม่ชอบต่อสู้ เพราะงั้น ตอนนี้เรากำลังเรียนวิชานี้ไปเรื่อยๆ และไม่ได้คาดหวัง หรือกังวลอะไรเท่าไหร่ค่ะ เหมือนเช่นวิชาข้างต้น ไว้ถ้าสัปดาห์ลึกๆแล้ว จะมารีวิวเพิ่มเติมนะคะ ^^

    AD MC PROF INTERN (เรียนปี 4 เทอม 2 : กำลังเรียน)

    วิชานี้คือวิชาที่ให้ไปฝึกงานเก็บหน่วยกิตนั่นเองค่ะ โดยปกติจะจัดให้ไปฝึกพร้อมกันในช่วงปิดเทอมใหญ่ ก่อนขึ้นปี 4 แต่ส่วนตัวเรา ติดปัญหาโควิดและเป็นส่วนน้อยที่ไม่ทันฝึกงานในช่วงนั้น ตอนปี 4 เทอม 2 กำลังหาที่ฝึกงานอยู่ค่ะ 555555 ถ้าได้ฝึกแล้ว จะมาอัพเดทประสบการณ์เพิ่มเติมนะคะ 


    _________________________________________________


  • วิชาเลือกของเอก คณะกำหนดให้เลือก 16 หน่วยกิต โดยแบ่งลักษณะวิชาเลือกเป็น 3 หมวดค่ะ คือกลุ่มที่เน้นด้านการตลาด, เน้นด้านการสร้างสรรค์, กลุ่มทั่วไป  


    (แต่ละเทอมจะเปิดสลับกันไป 3-4ตัว อันนี้แล้วแต่เทอมค่ะ แต่มักจะเทียบเทอมก่อนหน้า ยอกตัวอย่างเช่น เทอม1 เปิด 3วิชา คือ a,b,c เทอม2 อาจเปิด ก,ข,ค, ง ถ้าปีนี้ไม่ได้ลงวิชา c ในเทอม 1 ก็ต้องรอลงเรียนในเทอม1 ของปีการศึกษาถัดไป ขอให้เช็คตารางวิชาเลือกของเอก วิชาบังคับเอก วิชาโท วิชาเลือกโทกันดีๆนะคะ)
    วิชาเลือกของเอกนั้น จะเลือกลงได้ตั้งแต่เข้าภาค แล้วแต่ความสนใจ ความสะดวกของตารางแต่ละคนค่ะ เพียงแต่อาจมีบางวิชาเลือก ที่ *กำหนดว่า ต้องผ่านวิชาXXX ก่อนจึงจะลงเรียนได้ อันนี้ต้องเช็คดีๆนะคะ

    COMPU GRAPHICS AD 
                  วิชานี้ดีมากเลยค่ะ ! เป็นวิชาออกแบบกราฟิก ที่สอนตั้งแต่การใช้โปรแกรม แต่ละเครื่องมือพื้นฐานใช้ยังไง ลากเส้น สร้างวงกลม คือครูสอนดีมากๆ และเราได้ทักษะการออกแบบงานจริง 
                   ในแต่ละสัปดาห์จะเรียนการใช้เครื่องมือและมีโจทย์ให้ทำจริง อาจเป็นงานในคาบหรือ การบ้าน แล้วอาจารย์จะประเมินการใช้เครื่องมือและทักษะการออกแบบของเรา มีงานเดี่ยวและงานคู่ เราคิดว่าทุกวิชาควรจะสอนให้ได้แบบนี้อะ คือเรียนแล้วรู้สึกได้ถึงพัฒนาการในตัวเอง 
    งานฝึกใช้ปากกาวาดภาพในโปรแกรม ai ค่ะ ให้ผสมผสานคาแรคเจอร์ที่ชอบกับโลโก้ของ google 
    งานออกแบบโลโก้ โดยใช้เครื่องมือที่เรียนมาค่ะ โจทย์คือให้ลดทอนจากภาพลักษณ์เดิมให้โมเดิร์นขึ้น อาจารย์จะเน้นความเนี้ยบของงาน และดูทักษะการใช้เครื่องมือเป็นหลัก เรื่องศิลปะเป็นรองค่ะ (แต่ก็ต้องสวยนะ) ฮ่าๆ 

    AD DES GRAPH              
    วิชานี้ คล้ายวิชาด้านบน แต่ไปทางฟีลลิ่ง ศิลปะมากกว่าค่ะ คือเหมาะกับคนที่มีพื้นฐานการใช้โปรแกรมสร้างสรรค์งานมาก่อนแล้ว มีหัวทางศิลปะแล้วประมาณหนึ่ง เพราะอาจารย์ที่สอนจะออกแนวพรรณนา คาดหวังให้ทำงานตรงเทสของเขา ในแต่ละสัปดาห์จะให้ทำงานมาส่งหนึ่งชิ้น มีประเมินบ้างว่า งานชิ้นนี้ผ่าน/ไม่ผ่านยังไง ควรแก้ตรงไหน สี ฟ้อนต์ การจัดหน้า แต่ไม่ได้สอนตั้งแต่เริ่มว่า จะครีเอทงานออกมายังไง ด้วยเครื่องมืออะไร เลยแนะนำว่า อาจเรียนวิชาข้างบนก่อน ค่อยเรียนตัวนี้ค่ะ หรือถ้าเตรียมพื้นฐานมาก่อนอาจจะทำได้ดีกว่าค่ะ 
    ส่วนตัวคิดว่า วิชานี้ไม่ได้พัฒนาความรู้จากเดิมมาก เพียงแต่ปรับตัวให้เรียนผ่านมาได้ค่ะ 

    (ตัวอย่างงาน โจทย์คือโปสเตอร์เปิดร้านกาแฟของ ผู้ชายที่ชื่อ peter brown เป็นงานไฟนอลที่ตัดเกรดเต็ม เราได้ B+
      ภาพแตกนิดนึง เพราะไฟล์หลักใหญ่มากค่ะ)

    PRINC MARKET COMMU       
    วิชานี้คือวิชาเลือก (ที่บังคับลงอยู่ดี เพราะวิชาเลือกหลายตัว ต้องเรียนวิชานี้ก่อนถึงจะลงได้) ส่วนตัวคิดว่าเป็นวิชาที่ย้ำเนื้อหาของโฆษณา ที่อ่านพูดถึงและเรียนผ่านมาแล้วในวิชาบังคับพื้นฐานค่ะ 

    BRAND COMM       
    วิชานี้ เป็นวิชาที่ยกเรื่องของ ตราสินค้า หรือ แบรนด์ มาพูดแบบเน้นๆเลยค่ะ ซึ่งในเนื้อหาวิชาบังคับพื้นฐานก็มีพูดถึงมาบ้างแล้ว เหมาะสำหรับคนที่สนใจเรื่องแบรนด์จริงๆ อยากสร้างแบรนด์ต้องเริ่มจากอะไร องค์ประกอบของแบรนด์ อะไรที่ทำให้คนจำเราได้ สร้างภาพลักษณ์ยังไงให้โดดเด่นจากคู่แข่ง 
    งานไฟนอลจะได้โจทย์จากลูกค้าจริง เพื่อมาแก้ไขปัญหาเรื่องแบรนด์เนี่ยแหละค่ะ เราก็ต้องเริ่มจากการวิเคราะห์ปัญหาที่แท้จริงว่าจุดไหน ไปทำรีเสิช รวมข้อมูลมา ออกแบบเป็นแคมเปญให้ได้ว่า ถ้าสื่อสารหรือทำแบบนี้แล้ว ปัญหาเรื่องแบรนด์ของลูกค้าจะดีขึ้นยังไง เป็นวิชาที่แนะนำให้ลง หลังจากการฝึกงาน หรือ ช่วงปี 4 เทอม1 ก็กำลังเหมาะค่ะ (เราเรียนตอนปี 3 เทอม2 คิดว่าแอบไวไปนิดนึง เรียนรวมกับพี่ปี4 กึ่งแข่งกัน ก็คือแพ้ค่ะ555)



  • INTL AD MARCOM      
    วิชานี้ เน้นเรียนทฤษฎี แล้วตัวอย่างการสื่อสารการตลาดของโฆษณาต่างประเทศค่ะ ค่อนข้างเรียนง่าย ในห้องก็ฟังบรรยาย อาจารย์ให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของตัวงานโฆษณาที่ยกตัวอย่างมา หรืออาจให้เราไปหาข้อมูลงานที่เกี่ยวข้องกับทฤษฎีที่เรียนอยู่มานำเสนอค่ะ 

    MC SOC     
    วิชานี้ แนวๆการสื่อสารการตลาดเพื่อสังคม มีเรียนบทกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับโฆษณานิดหน่อย หลักจริยธรรมหรือ ข้อกำหนด ข้อห้ามนิดหน่อยค่ะ ฟังบรรยาย ยกตัวอย่างงานโฆษณาที่ดี ที่มีปัญหา มาถกกันในคลาส อาจารย์ท่านเดียวกับวิชาด้านบน เรียนแนวเดียวกันค่ะ ไม่เครียดมาก มีงานกลุ่มบ้าง รวมข้อมูลและนำเสนอค่ะ 

    SELECTED TOPIC AD
           วิชานี้ น่าจะเปลี่ยนหัวข้อไปแต่ละเทอมนะคะ สำหรับเทอมเรา เรียนเกี่ยวกับ EVENT MARKETING ค่ะ เริ่มที่ทฤษฎีเหมือนเดิม คืออีเวนท์มีกี่ประเภท ถ้าจัดคือมีวัตถุประสงค์อะไร มีกี่ขนาด เพื่อให้เลือกจัดตามวัตถุประสงค์และงบประมาณ แล้วในอีเวนท์ เราทำการสื่อสารอะไรได้บ้าง เรียนกว้างมากและเนื้อหาค่อนข้างเยอะค่ะ ระหว่างเทอมมีให้ไปดูงานที่น่าสนใจ ที่จัดในระหว่างนั้น แล้ววิเคราะห์ ถ่ายภาพกึ่งรายงานด้วย ท้ายเทอม มีลูกค้ามาให้โจทย์ค่ะ ก็จะเป็นการทำแคมเปญที่ต้องจัดอีเวนท์ ไม่ได้จัดจริง แต่เป็นการนำเสนอว่า จากโจทย์ เราได้ทำรีเสิช วิเคราะห์ ออกแบบมาแล้วว่า ถ้าจัดอีเวนท์แบบนี้ จะสร้างยอดขาย สร้างภาพลักษณ์ยังไงให้ลูกค้าได้บ้าง ประมาณนี้ค่ะ ( วิชานี้มีลูกค้า2ธุรกิจ เราสุ่มได้บริษัทรถยนต์ค่ะ กลุ่มที่ทำบริษัทรถ กลุ่มอื่นคือพี่ปี4 ก็คือแพ้อีกแล้ว แนะนำให้ลงหลังฝึกงานค่ะ )
    อันนี้เป็นตัวอย่างโจทย์ที่ได้ค่ะ 
    ADV MC
                 สำหรับวิชาสุดท้ายนี้ก็ เริ่มด้วยทฤษฎี แล้วจบด้วยการเชิญลูกค้ามาแจกโจทย์เหมือนเดิมค่ะ ฮ่าๆ วิชานี้เราเพิ่งเรียนตอนปีสี่เนี่ยแหละ เพื่อนบางคนโชคดี ได้ฝึกงานตอนโควิดก็สามารถเอาประสบการณ์มาประยุกต์ได้ ส่วนเราก็ใช้ประสบการณ์ตอนเจอลูกค้าช่วงปีสาม มาทำงานวิชานี้ค่ะ              วิชานี้เป็นแอดวานซ์มาคอม เริ่มที่รีเสิร์ช แล้วค่อยมาออกแบบแคมเปญคล้ายๆที่เคยทำค่ะ แต่เรารู้สึกได้ถึงพัฒนาการตัวเองเหมือนกัน อาจเพราะได้ลองทำในวิชาอื่นมาบ้างแล้ว มันเลยพอจะจับทิศทางการทำงานได้แล้ว เทอมนี้เราได้ลูกค้าเป็นแบรนด์โรงภาพยนตร์นึงค่ะ โจทย์ค่อนข้างกว้าง ลูกค้าให้อิสระที่สุดที่เคยพบมา ทำให้ตอนคิดงานไม่กดดันมากเท่าไหร่ค่ะ แต่น่าเสียดายที่การเรียนทั้งหมดเป็นออนไลน์ จะได้เจอลูกค้าตอนรับบรีฟ และนำเสนองาน แต่ วิชานี้และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่กลุ่มของเราชนะแคมแปญ ได้รางวัลเป็นบัตรชมภาพยนตร์ฟรีค่ะ

    _________________________________________________

  • ขออธิบายเสริมตรงนี้ สำหรับน้องๆม.ปลาย 
    ที่อาจจะงงกับคำเรียกหมวดวิชาต่างๆในระดับมหาลัยนะคะ 
    ถ้าน้องต้องการเลือกคณะ หรือเอกที่สนใจ พี่แนะนำให้น้อง ค้นหา "หลักสูตร" ที่มีรายชื่อวิชาที่น้องต้องเรียนทั้งหมด *เช็คปีล่าสุดของหลักสูตร* มาลองเสิร์ชรีวิวชื่อวิชาเหล่านั้นดูก่อน ว่าชอบหรือสนใจไหม และแต่ละมหาวิทยาลัยก็อาจจะเน้นรายวิชา หรือเน้นเนื้อหาหนักเบา แต่ละด้านต่างกันค่ะ 

    โดยแต่ละคณะ จะมีวิชา 
    -บังคับวิชาชีพ/วิชาบังคับพื้นฐาน ที่บังคับให้น้องต้องเรียนให้ครบ ตรงนี้ คือบังคับเหมือนกันทั้งคณะ
    -บังคับเอก เป็นวิชาบังคับเฉพาะภาค เช่น ถ้าเอกอังกฤษ เอกญี่ปุ่น จะมีวิชาบังคับเอกต่างกัน
    -วิชาเลือกเอก วิชาของเอก ที่เปิดให้เลือกเก็บ แต่กำหนดหน่วยกิตมาว่า ให้เก็บ 10 หน่วยกิต เราก็ไปเลือกอีกทีว่าในรายวิชาเลือกเอกที่เปิด เราสนใจตัวไหนบ้าง  

    -วิชาโท ในกรณีที่คณะ กำหนดให้เรามีวิชาโท เราก็ต้องดูว่า เราอยากโทในคณะ หรือนอกคณะ 

    โทในคณะ ก็คือ อาจจะโทเอกอื่น เช่น เราเอกโฆษณา โทฟิล์ม หรือ เอกฟิล์ม โทการแสดง 
    โทนอกคณะ ก็คือ เราสนใจวิชาโทของคณะอื่น ก็ต้องดูว่าแต่ละคณะ กำหนดให้เก็บเป็นวิชาโท กี่หน่วยกิต เช่น พี่เป็นนิสิตคณะนิเทศ เอกโฆษณา หลักสูตรคณะพี่กำหนดให้เรียนวิชาโท ไม่น้อยกว่า 18 หน่วยกิต แต่พี่อยากโท ภาษาเกาหลีของคณะอักษร ซึ่งในหลักสูตรของทางนั้น กำหนดว่า วิชาโทภาษาเกาหลีต้องเก็บไม่น้อยกว่า 21 หน่วยกิต โดยมีวิชาบังคับโท 12 หน่วยกิต วิชาเลือกโท 9 หน่วยกิต (งงมั้ยน้า) พี่ก็จะต้องเก็บให้ครบหลักสูตรการผ่านวิชาโทของอักษร คือต้องเก็บ 21 

    -วิชาบังคับโท คือวิชาที่ ถ้าจะโทสาขานี้ บังคับเก็บ
    -วิชาเลือกโท คือวิชาที่ สาขานี้เปิดให้เลือกเรียน ตามหน่วยกิตที่กำหนด

    นอกจากวิชาที่เกี่ยวข้องกับคณะ และสาขาที่เราสนใจแล้ว ยังมีวิชาทั่วไป ที่เราคิดว่าหลายมหาลัยมี แต่อาจใช้คำเรียกต่างกัน อย่างจุฬา จะใช้คำว่า เจนเอด

    เจนเอด คือ วิชาศึกษาทั่วไป มีหลายหมวด  เช่น หมวดมนุษย์ หมวดวิทย์ หมวดสห ฯลฯ
    เป็นวิชาที่มหาวิทยาลัยกำหนดให้ลง โดยแต่ละคณะ/หลักสูตร จะกำหนดจำนวนหน่วยกิตต่างกัน 

    เช่น กำหนดให้เก็บเจนเอดวิชา หมวดวิทยาศาสตร์ 9 หน่วยกิต หมวดมนุษย์ 12 หน่วยกิต หมวดภาษาต่างประเทศ 12 หน่วยกิต 

    สุดท้าย วิชาเลือกเสรี คือวิชาอะไรก็ได้ที่น้องอยากเก็บ จะเป็นวิชาในคณะ นอกคณะ เจนเอดหมวดใดก็ตาม น้องเลือกเก็บได้อย่างเสรี 

    ที่เราเลือกอธิบายข้อมูลตรงนี้ เพราะเราคิดว่า มันจะดีมากๆถ้าเราได้ กางรายวิชา หลักสูตรคณะและสาขาที่สนใจ แล้วไล่ดูสิ่งที่ต้องเรียนล่วงหน้าคร่าวๆก่อนตัดสินใจแอดมิชชั่น หรือสอบเข้ามหาลัย 

    เพราะส่วนตัวแล้ว ตอนม.6 เราไม่มีใครมาแนะนำและให้ภาพล่วงหน้าได้แบบนี้ ยังไงก็ตาม เราหวังมากๆๆ ว่าเนื้อหาที่เขียนเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับน้องๆ หรือคนอ่านได้บ้างนะคะ ถ้าข้อมูลผิดพลาด หรือเก่าเกินไป ไม่อัพเดท ต้องขอโทษไว้ล่วงหน้าด้วยนะคะ 

    _______________________________________________________________________________________________

    เป็นยังไงกันบ้างคะ ?
    จะค่อนข้างวิชาการ หรือเนื้อหาเยอะไปมั้ยนะ 
    สำหรับเนื้อหาส่วนนี้คือวิชาเรียนที่เกี่ยวกับคณะ และภาคทั้งหมดในปี 3 และ 4 ของเราค่ะ ไว้โอกาสหน้า เราจะมารีวิวในส่วนของวิชาโท นะคะ แล้วเจอกันใหม่โพสต์หน้าน้า :) 

Views
ชีวิต(เมื่อเป็น)นิสิต – ordinarygirl View Story
Previous

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
labraphy (@labraphy)
ดีใจมากค่ะที่มาอัพต่อ นึกว่าตาฝาดt.t เมื่อก่อนช่วงหาข้อมูลคณะและยังลังเลอยู่ เข้ามาดูบ่อยมากว่ายัง active อยู่มั้ยจนเตรียมสอบเข้ามหาลัยก็เลยหาย ๆ ไป วันนี้กลับมาอ่านรีวิววิชาเรียนเพราะเป็นนิสิตแล้ว>_<