สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาคุยกันถึงเพลงของ epik high เรียกง่ายๆว่าเรามาอวยเพลงของผู้ชายวงนี้ให้อ่านกัน 55555 (ทั้งๆที่ค้างการเม้ามอยถึงเพลงประกอบซีรี่ส์อย่างก๊อบลินไว้เนี่ยแหละค่ะ 5555555)

        EPIK HIGH พูดถึงชื่อนี้การันตีได้ถึงความดีงามของงานดนตรีแน่นอน (อวยครั้งที่ 1) หลายคนอาจไม่รู้จักวงนี้ แต่พอบอกว่าพ่อของน้องฮารุใน return of superman เป็นสมาชิกวงนี้หลายคนคงอ่อ นอกจากการเลี้ยงลูกที่ดีแล้ว ผลงานเพลงจากคุณพ่อทาโบล และเพื่อนๆอีกสองคนอย่างคุณพ่อมิทรา และคุณพ่อทูคัส ก็ยังดีตาม งดงาม และน่าฟังค่ะ (อวยครั้งที่ 2) วันนี้เลยอยากชวนให้ทุกคนมาฟังอัลบั้มล่าสุดกัน

          อัลบั้มล่าสุดที่ออกในวงครบรอบสิบสามปีของวงในวันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมานั้น ออกมาในชื่อ We've done something wonderful. ซึ่งเรากรี๊ดตั้งแต่เห็นชื่อผู้หญิงที่จะมาฟีทเพลงไตเติ้ลของ epik high อย่างไอยูแล้ว อีกทั้งอีก 8 คนที่มาร้องร่วมกับพี่ๆวงพ่อลูกอ่อนวงนี้ก็ยิ่งกรี๊ดไปอีก ไม่ว่าจะเป็นซูฮยอน โอฮยอก ฮาอี มิโน ไซม่อนดี เดอะไคว้ คิมจงวาน และครัช ซึ่งในอัลบั้มนี้เป็นการคัมแบคในรอบสามปีของวง หลังจากคัมแบคล่าสุดในปี 2014 อัลบั้ม shoebox โดยเราว่าอัลบั้มนี่ของพวกพี่ๆแกคุมโทนเศร้า แล้วก็อกหัก เป็นเพลงเศร้าเกือบทุกแทรคเลย ยิ่งฟังก็ยิ่งดิ่ง

          ซึ่งอัลบั้มนี้เป็นการกลับมาพร้อมกับเพลงทั้งหมด 11 เพลง เป็นอัลบั้มที่โคตรปัง กลับมาครองตำแหน่งเจ้าพ่อดิจิตอลชาร์ตอย่างสวยงามกับการ PAK (Perfect All-Kill เป็นการยึดอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงเกาหลีห้าชาร์ตหลัก รวมถึงชาร์ตรวมอย่าง ichart ด้วย) ไปถึง 59 ครั้ง ด้วยเพลง Love story feat. IU เรียกได้ว่าเป็นการร่วมงานกันที่ดีที่สุดคู่หนึ่งของปีนี้ นอกเหนือไปจากไตเติ้ลแทรคแล้ว เพลงอื่นๆในอัลบั้มก็ยังคงเต็มไปด้วยความดีงามทางดนตรี ในแบบฉบับของ epik high เราเลยอยากให้คนอ่านลองฟังเพลงในอัลบั้มของวงคุณพ่อลูกอ่อนวงนี้กัน วันนี้เลยจะมาแนะนำทั้ง 11 แทรค ให้ไปลองฟังกัน



1. Love story feat. IU




        เป็นเพลงไตเติ้ลแทรคที่ collab กับเจ้าแม่ดิจิตอลชาร์ตอย่างไอยู (เป็นคู่ที่เราคาดหวังจะเห็นมากที่สุดในปีนี้ แล้วก็เห็นจริงๆด้วย) โดยเพลงเต็มไปด้วยเนื้อหาที่บอกเล่าถึงความรักอันแสนเจ็บปวด เป็นเรื่องราวความรักอันขมขื่นของผู้หญิงคนนึงที่กลายเป็นตัวละครในเรื่องราวความรักอันน่าเศร้านี้ (ชอบมากที่เลือกที่จะใช้ชื่อเพลง love story แต่เนื้อหาขัดกับเพลงชื่อลักษณะนี้ในท้องตลาด) เสียงเยียบเย็นของไอยูยิ่งส่งอารมณ์เพลงให้ดีขึ้นไปอีก เรียกได้ว่านอกจากจะเป็นเจ้าพ่อฮิปฮอปแล้ว ยังเลือกคนได้เก่งอีก การครองชาร์ตนี่ไม่ได้จับฉลากมาจริงๆ

         สิ่งที่คาดหวังคืออยากเห็นเพลงนี้บนเวทีงานปลายปีสักเวที ที่ไม่ใช่ในคอนเสิร์ตของวง น่าจะดีเหมือนกัน


2. Home is far away feat. OHHYUK




         โอฮยอกจากวงฮยอกโอ (แนวโคตร) หรือที่รู้จักกันในนามหลวงพี่แห่งHIGHGRND ได้เข้ามาร่วมฟีทเจอริ่งในเพลงนี้ให้กับวงอดีตผู้บริหารด้วย โดยเนื้อหาของเพลงนี้จะเป็นเพลงเหงาๆตามชื่อเพลงเลย ยิ่งฟังแล้วก็ยิ่งเศร้า พูดถึงความฝัน ความหวัง ความเหนื่อยล้า อุปสรรคต่างๆ รวมไปถึงความเดียวดาย จากที่เหงาอยู่แล้ว ฟังเพลงนี้ก็ยิ่งเหงาเข้าไปใหญ่ ยิ่งฟังแล้วจะยิ่งนึกถึงคนที่บ้าน เสียงโอฮยอกเหมาะกับเพลงนี้มาก เข้ากับเพลงนี้ดีจนนึกไม่ออกเลยว่าถ้าไม่ใช่เขาจะเป็นใคร

3. Here come the regrets feat. LEEHI




         ผู้หญิงเสียงยูนีคที่สุดหนึ่งคนของศิลปินวายจีอย่างฮาอีได้เข้ามาร่วมฟีทให้กับ epik high อีกครั้ง หลังจากการทำงานร่วมกับในเพลง It's cold ในอัลบั้ม 99 เมื่อปี 2013 และ Can you hear my heart ที่ประกอบซีรี่ย์ moon lovers เมื่อ 2016
        โดยเพลงนี้เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดจ้า (เย่ๆ) ซึ่งเป็นมิตรต่อผู้ฟังที่ฟังเกาหลีไม่ออกอย่างเราๆมาก นอกจากจะเป็นอังกฤษหมดแล้ว กลิ่นอายความเป็นเพลงสากลยังสูงมาก ฟังแล้วลืมไปเลยว่าฟังเพลงจากฝั่งศิลปินเอเชียอยู่ โดยเพลงนี้เป็นการเล่าถึงเรื่องราวของความเสียใจที่เข้ามาถึงโดยที่เราแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เสียงฮาอีเข้ากับเพลงนี้มากๆ (ยังคงยืนยันว่านอกจาก Epik High จะทำเพลงดีแล้ว ยังเลือกศิลปินได้ดีอีกด้วย) เป็นเพลงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่มากจริงๆ อยากให้ไปลองฟังกัน

4. Benefit of Heartbreak feat. SUHYUN




          นอกจากจะได้ฮาอีมาฟีทแล้ว ขาประจำในการฟีทสเตจ epik high ในอัลบั้มก่อนๆอย่างน้องซูฮยอน ก็ได้เข้ามาร่วมด้วย เสียงหวานๆกับเทคนิคที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ช่วยทำให้เพลงนี้เป็นเพลงที่เล่าถึงการอกหักในอีกมุมห่งได้ดีมาก เพลงบอกเล่าเกี่ยวกับประโยชน์ของการที่อกหักตามชื่อเพลงเลยว่าเนี่ยการอกหักก็ทำให้ผมได้เริ่มเก็บห้อง ได้เริ่มอ่านหนังสือที่เปิดทิ้งไว้จบเล่มสักที อย่างนี้เป็นต้น การใช้เสียงน้องซูฮยอนในเพลงนี้ทำให้เรามองว่าเรื่องอกหักไม่ได้เป็นเรื่องเศร้าแบบจมดิ่งขนาดนั้น ทำให้เพลงสว่างขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับเพลงที่พูดถึงประโยชน์ของการอกหัก อาจจะไม่สว่างมาก แต่ก็ไม่มืดจนเกินไป


5. LOST ONE feat. KIM JONG WAN OF NELL




         เป็นการร่วมงานกันของสองวงพี่น้อง(จากอดีตค่ายเดียวกัน) ครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ แต่รู้ว่างานยังคงโคตรคุณภาพเหมือนเดิม จากในอัลบั้มที่แล้วเป็นเพลง Amor fati ในอัลบั้มนี้พวกเขากลับมาในเพลง lost one เราว่าเพลงนี้คือคำสอนจากพวกเขา เนื้อเพลงดีมาก เป็นการบอกกล่าวถึงสัจจธรรมของโลก ทุกสิ่งที่คุณอาจได้เจอ และยัเล่างเล่าถึงการเดินทางที่เต็มไปด้วยขวากหนามของพวกเขา เป็นการบอกเล่าผ่านบทเพลงแบบนี้โคตรเจ็บปวดเลย การแรพของ epik high กับ เสียงของจงวานยังเข้ากันได้ดีอย่างที่เคยเป็นมา เป็นเพลงที่เต็มไปด้วยความหมายจริงๆ


6. MUNBAE-DONG feat. CRUSH




         การร่วมงานกันของศิลปินRnB ตัวท๊อปคนหนึ่งของเกาหลีกับเจ้าพ่อเพลงเคฮิปฮอปไม่ผิดหวัง เพลงบอกเล่าถึงการเปลี่ยนแปลงที่เป็นสัจธรรมของโลก เล่าถึงผช.คนนึงที่ยังคงจมอยู่กับอดีต ยังคงคิดถึงเธอคนที่เลิกกันไปแล้ว ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว แต่ก็ยังคงอยากกลับไปหาเธออยู่ ยังกลับไปที่ชอบการเปรียบเปรยในเพลงนี้มากๆ แบบอันนี้เคยอยู่ตรงนี้มันหายไปแล้ว ชอบที่บอกว่าไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดไป เพลงเล่าดีมาก ชอบเพลงนี้มาก อยากให้คนฟังเพลงนี้ เราว่ามันสัจธรรมอ่ะ ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลง เราชอบมาที่เลือกครัชมาฟีท เพราะชอบเสียงครัชมาก เสียงครัชเหมาะกับการเล่าเรื่องแบบนี้อ่ะ ช่วงพี่มิทราแรพคือแบบเออมันเป็นความเจ็บปวดของการเปลี่ยนแปลงจริงๆ แต่ก็ต้องยอมรับมันงี้


7. No thanxx feat. MINO, THE QUIETT, SIMON DOMINIC




          การรวมแรพเปอร์ในอัลบั้มของ epik high ครั้งที่สอง หลังจาก born hater ยังโคตรดี ชอบเนื้อเพลงมาก แบบเออไม่ต้องมายุ่งเรื่องของกูเว้ย ชีวิตมีอยู่ชีวิตเดียว มึงยุ่งเรื่องตัวเองเไปเถอะงี้ นี่ว่าเนื้อเพลงดาร์กแล้วก็เป้าหมายชัดเจนกว่า born hater นิดหน่อย แต่โดยส่วนตัวเป็นเพลงที่คนละฟีลกับเพลงก่อน อาจด้วยสกิลและโทนแรพเปอร์แต่ละคน เพลงนี้เลยให้ฟีลดาร์กกว่ามาก อีกทั้งแรพเปอร์ที่เลือกมาก็ปากคอเราะร้ายไม่มีใครยอมใครเลยค่ะ เพลงเลยยิ่งแรงเข้าไปอีกสมกับเรต 19+  (นี่น่าจะเป็นผลงานเดียวจากซัมดีในปีนี้ป้ะ ยังคงปากคอเราะร้ายเหมือนเดิม คิดถึงพี่ซัมมาก ขอบคุณที่เชิญซัมดีมาฟีท ให้ได้ฟังนางแรพในปีนี้บ้าง) เราว่าเป็นเพลงที่ควรส่งให้กับอีคนปากเปราะที่ชอบยุ่งเรื่องของเราค่ะ


8. People scare me




          เพลงนี้ตีความยากอ่ะ จริงๆ เราว่าเพลงที่เป็นเพลงของพวกพี่เขาโดยไม่มีใครมาฟีทเนี่ยตีความยากสุดๆ และโคตรลึกซึ้งเลย เพลงในอัลบั้มนี้ เราว่าเพลงนี้เข้าใจยากสุดเลย พี่ๆเขาเขียนในเชิงเปรียบเทียบเยอะมาก ถ้าให้เราตีความหมายอาจจะตีความไปในเชิงการเมืองการปกครอง การครอบงำของสื่อ ความน่ากลัวของโลก ความน่ากลัวของสังคม สงคราม อิสรภาพ เปรียบการใช้ชีวิตกับสังคมทุกวันนี้เป็นการเจอกับปีศาจก่อนเจอกับพระเจ้า คนที่รู้ว่าจะเดินเกมอย่างไรน่ากลัวเสมอ สื่อก็เป็นเพียงลมเปล่า บางทีการตายไปอาจจะเป็นหนทางที่ดีที่สุดที่จะหลุดจากโลกอันน่ากลัวนี้ อย่าไปคาดหวังถึงอิสรภาพอะไรเลย และอย่าไว้ใจกับอะไรเลย อันนี้เรียบเรียงแบบมึนๆหน่อยๆ ใครตีความอย่างไรก็มาคุยกันนะ


9.Us Against the world




        เพลงนี้เป็นการบอกเล่าถึงการเติบโต ว่าการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ช่างยุ่งยาก เหน็ดเหนื่อย และต้องสูญเสียอะไรมากมาย อะไรก็เปลี่ยนแปลงไปเมื่อเราเติบโตขึ้น ทุกอย่างต้องก้าวไปข้างหน้า พูดถึงเพื่อนที่เราอาจจะไม่มีเวลาให้กัน แต่เพื่อนก็คือเพื่อน  แล้วจบท้ายด้วยการอวยพรขอให้เพื่อนโชคดี เราชอบเพลงนี้นะ ให้ฟีลเหมือนไปนั่งกินเหล้าในวงเพื่อนเก่าุคยกันในเรื่องที่ผ่านมา ภาระชีวิตในแต่ละคน อุปสรรคของแต่ละคน แบบต่อให้ใครไม่เข้าใจ แต่เพื่อนของเราตรงนี้ก็ยังพร้อมรับฟังงี้ ฟังแล้วรู้สึกมีกำลังใจขึ้นนะ เพลงเล่าเรื่องดีมากเลย เรียงพาร์ทของเพลงได้ดีมาก ชอบการเปรียบเปรยของ Epik High มาก

10. Bleed




        มีคำพูดบนทวิตหนึ่งบอกว่าเพลงนี้เป็นกวี เราว่าจริง เป็นการเล่าเรื่องชีวิตการเป็น Epik high ผ่านบทกวีที่ดีมาก เราชอบการพูดถึงแฟนคลับของพวกพี่ๆเขามาก ชอบการพูดถึงชีวิตในช่วงที่รุ่งโรจน์และร่วงลง ความยากลำบากในการที่เป็นศิลปิน  ชีวิตส่วนตัว ปัญหาหลายอย่างผ่านบทเพลงนี้ อยากให้ลองฟัง การเป็นศิลปินมันไม่ได้สวยงามเสมอไป


11. Tape 2002



         แทรคนี้ทำเป็นแทรคเปิดเทปเพลงของ epik high อ่ะ คือไม่มีคำแปลเพลงนี้เลย แต่เรามองว่าเพลงนี้สื่อถึงการเดินทางอันแสนยาวนานของพวกๆพี่ื เป็นการเล่าเรื่องที่แนวดี ชอบ


        จบแล้วกับการเม้ามอย 11 เพลงอย่างยาวนาน อัลบั้มนี้ไม่รู้เลยว่าจะข้ามแทรคไหน เราฟังทุกแทรคเลย ชอบทุกแทรคมากๆ แต่ถ้าให้เราพูดถึงความประทับใจในอัลบั้มนี้อย่างรวมๆคือ เราชอบมุมมองการเล่าเรื่องความรัก การอกหักในอีกมุมหนึ่งมากๆ ชอบการเปรียบเปรยเนื้อหาเพลงกับสิ่งต่างๆรอบตัว เนื้อเพลงสวยมาก ขนาดอ่านเป็นแปลยังชอบเลย ไม่รู้ว่าเขียนเพลงแบบนี้ได้ยังไงกัน ภาษาของ Epik high ยังคงสวยงามเหมือนเดิม นอกจากเนื้อเพลงที่ดีแล้วยังมีการเรียบเรียงดนตรีที่ดีอีกต่างหาก วิธีการนำเสนอความหมายของเพลงก็ดี สิ่งที่ยิ่งดีไปยิ่งกว่าการเป็นศิลปินคือ Epik High เป็นโปรดิวเซอร์ที่ดี สังเกตได้จากการเลือกศิลปินมาทำงานร่วมด้วย คือเลือกศิลปินที่เหมาะกับเพลง แล้วออกมาดีมากจริงๆ
        ยังไงสุดท้ายนี้ก็ดีใจกับแฟนเพลงของ Epik High ด้วยที่ได้มีเพลงดีๆฟังหลังจากอปป้าห่างหายจากการทำเพลงวงมาถึง 3 ปี และขอเชิญชวนให้คนที่ไม่เคยฟังมาฟังเพลงของ Epik High กันเถอะแก ดนตรีมันก้าวข้ามผ่านภาษาแล้วเว้ย และเพลงวงนี้ก็ดีจริงๆ