ผมเหม่อมองหน้าจอสีขาวสว่างจ้าที่ปรากฏเรื่องสั้นจากนักเขียนนิรนามตรงหน้า
ก่อนจะกดถูกใจด้วยใบหน้าที่มีริมฝีปากเป็นเส้นตรงประดับ
ผมเหม่อคิดตามเรื่องราวที่อ่านพลางถอนหายใจออกมาเป็นควันสีเทากลิ่นมิ้นท์จากแท่งบุหรี่สีขาวที่ถูกจุดมาสักพัก
ท้องฟ้าสีส้มอ่อนยามโพล้เพล้ที่ประดับด้วยเสียงคุยเจื้อยแจ้วของฝูงนกนางนวลพร้อมเสียงตอบรับจากคลื่นทะเล
กาแฟดำที่เคยร้อนในแก้วกระเบื้องสีขาวที่มีรอยบิ่นจากความไม่ระวังของใครสักคนถูกผมลิ้มรส
ความขมปร่าและเย็นชืดพร้อมรสแปลกประหลาดของควันบุหรี่ผสมปนเปจนผู้รับรสถอนหายใจออกมา
“อย่าไปเลยนะ” เด็กสาวชาวเม็กซิกันเอ่ยคำตัดพ้อ พร้อมรอยยิ้มที่จากไปของเธอเป็นฉากต่อไปที่ฉายขึ้นมาในภาพยนต์ที่มีผมเป็นผู้ชมเพียงคนเดียว
“ถ้าคุณไปคุณต้องกลับมาเจอกันอีกนะ” ใบหน้าฉายแววคาดหวังระคนผิดหวังของคนหลายคนในความทรงจำแทรกมาตามหลัง
“ไม่ชอบเลย คุณจากเราไปแบบนี้” หลายใบหน้าผ่านมาในความทรงจำ ก่อนจากไปเมื่อควันสีเทาจากบุหรี่ในมือถูกบี้ลง
แก้วกระเบื้องที่ไม่สมบูรณ์ถูกวางไว้ริมหน้าต่างข้างกันกับแจกันโปร่งใสที่ใส่ดอกไฮเดรนเยียสีฟ้า
เสียงคลื่นดังเป็นจังหวะเข้ากันกับเพลงโปรดที่ดังขั้นจากแผ่นไวนิลสีดำมุมผนังห้อง
ผมเดินออกไปข้างนอกด้วยเท้าเปลือยเปล่า
สัมผัสหยาบระคนนุ่มเท้าจากทรายสีเนื้ออ่อนคล้ายกำลังปลอบประโลมตัวผม
เหม่อมองเรือประมงที่ค่อยๆใกล้ฝั่งเรื่อยๆพร้อมพระอาทิตย์ที่กำลังจากท้องฟ้าไปด้วยความรู้สึกอึมครึ้ม
ก้อนหินผ่านกลายเป็นเม็ดทราย
หยาดฝนระเหยกลายเป็นไอ
ไม่เคยมีสิ่งใดคงอยู่ตลอดกาล
ถึงผมจะรู้ความจริงข้อนั้นก็ตาม
แต่ความจริงนั้นแหละที่ยากเหลือเกินจะให้ผมยอมรับ
“เรายังรอคุณอยู่นะ”
รอยยิ้มประหลาดถูกวาดลงบนใบหน้าของผมพร้อมเสียงหัวเราะในลำคอที่ตีบตันขึ้นจากกลั้นความโศกเศร้าที่กำลังเอ่อล้นภายในตัวตนของตนเอง
อาจเพราะผมรู้มาตั้งแต่ต้นแล้วว่าจริงๆผมคงจะดีกว่าหากอยู่คนเดียว
อาจเพราะกลัวความเจ็บช้ำจากความทรงจำ
อาจเพราะรู้ว่าถ้าหากเรารู้จักใครสักคนมากขึ้น การจากลามันจะยากกว่าเดิม
ไม่ใช่ไม่อยากตอบ ไม่ใช่ว่าผมนั้นอยากเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย
เสียงคลื่นพร้อมแรงลมที่ล้อมรอบผมคล้ายพัดโบกไฟแห่งความเศร้าในตัวผมเป็นอย่างดี
สิบเจ็ดปีที่ผ่านมา ผมทิ้งคนในความทรงจำไปแล้วกี่คนกัน
พลางควันสีเทาจากบุหรี่นั้นติดขึ้นมาอีกครั้งจากบุหรี่มวนใหม่ในมือ
โศกนาฎกรรมครั้งใหญ่คือการที่ผมไม่สามารถทำใจเติบโตได้
I’m a shithead son and I’m bad at growing up
นั่นคือผมจริงๆ
ผ่านทางหน้าต่างของความรู้สึกหรือดวงตา
โอเค ความกังวลจากการจากลากำลังทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเอง
นั่นคงเป็นสาเหตุที่คนรอบตัว ณ ตอนนี้เริ่มเอ่ยปากเตือนผมที่ได้สร้างความรำคาญให้เธอนั้น
พูดกันว่าอย่าได้หว่านวัชพืชลงบนสวนไลแลคเลย
เพราะมันจะ เยอะ เกินไป
ขอโทษ
พูดไปไม่รู้กี่รอบจนคนฟังบอกว่ามันช่างดูไร้ค่า
ผมขอโทษ
มันเป็นเพียงคำเดียวที่ผมสามารถพูดออกมาได้หลังความรู้สึกที่หลากหลายผ่านการกรองคิด
เยี่ยมไปเลยการเติบโต ช่างน่าชิงชังเหลือเกินความสัมพันธ์ที่ผมยึดติด
คุณจะปล่อยมือผมไปก็ได้หากมือคุณเริ่มล้า
ไม่ต้องฝืนกำมือไว้
ได้โปรดอย่าบอกผมว่าผมคิดไปเอง
เหมือนผมนั่นแหละ คุณไม่รู้หรอกว่าคนถูกกุมมือเช่นผมรับรู้อะไรบ้างจากการกระทำของคุณ
ผมอาจจับจ้องเพียงใบหน้าของคุณและบทสนทนาที่ไม่มีเสียงของเรา
แต่สัมผัสอันน่าเหนื่อยใจเพราะการกระทำในอดีตของผมเป็นต้นเหตุ
ผมหลีกหนีที่จะคุยกับคุณมาก่อน
ผมหวาดกลัวกับการเผชิญหน้าคุณมาแล้ว
ผมได้อ้อนวอนต่อดวงดาวที่กำลังถูกดวงจันทร์บดบังว่าขอให้คุณยังอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน
อาจดูหนักหนาไปสำหรับคำขอของคนที่แสนจะเห็นแก่ตัว
และผมนั้นช่างเห็นแก่ตัวเหลือเกิน
ดังนั้น
คุณปล่อยมือผมได้นะ
แต่ผมขอ
มันอาจเป็นคำขอครั้งสุดท้าย
ช่วยหันมากอดผมพร้อมบอกผมก่อนที่คุณจะหายไป
ช่วยบอกผมก่อนได้มั้ยว่าคุณจะปล่อยผมแล้ว
แล้วเราจะกลายเป็นคนในความทรงจำของกันและกัน
และ
ถึงคุณ กาแฟดำในแก้วเซรามิกบิ่นๆแก้วนั้นที่ผมวางทิ้งไว้ริมหน้าต่างของดอกไฮเดรนเยียสีฟ้า
ที่กำลังร่วงโรยเพราะไม่มีใครดูแล
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in