ตั้งแต่เราออกจากสุสานกลับมาที่หอพักของธัน เขาก็เอาแต่จ้องหน้าผมแล้วยิ้มอยู่อย่างนั้นทำเอาผมทำตัวไม่ถูกเลยจริงๆ ผมขยับตัวลุกจากโซฟาที่เรานั่งอยู่ด้วยกันตั้งใจว่าจะไปทำอะไรให้เขาทานเป็นมื้อเย็น แต่มือของเจ้าเด็กยักษ์ก็คว้าเอวผมไว้รั้งตัวลงไปนั่งแหมะบนตักเขา
ผมตกใจนิดหน่อยแต่ไม่ได้ดิ้นหนีปล่อยให้มือคู่นั้นของเขาโอบรัดเอวของผมไว้ ปล่อยให้ปากของเขาแนบลงกับลาดไหล่ตัวเอง..
“ตั้งแต่รู้ว่าจะแตะตัวพี่ได้ยังไงก็เอาใหญ่เลยนะเราเนี่ย”
“พี่ไม่รู้หรอกว่าที่ผ่านมาผมอยากกอดพี่มากแค่ไหนแต่ก็ทำไม่ได้” เสียงธันอู้อี้เพราะเขายังคงเอาหน้าซุกกับไหล่ผม
“พี่ต้องรู้สิว่าธันรู้สึกยังไงเพราะพี่เองก็..” ธันเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมราวกับคาดหวังในคำตอบ ผมยิ้ม“..อยากกอดธันมาตลอดเหมือนกัน”
ธันสัมผัสที่คางของผมแผ่วเบารั้งใบหน้าของผมให้เอียงไปรับจุมพิตจากเขา ทันทีที่ริมฝีปากของเราแตะกันความอบอุ่นก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของผม ผมชอบทุกการสัมผัสของธัน ชอบทุกรอยจูบของเขา เพราะทุกครั้งมันทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองกลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง
ที่ผ่านมาธันมักจะกดจูบเพียงแผ่วผิวแล้วผละจากแต่ครั้งนี้ต่างออกไป เรียวลิ้นของเขาลุกล้ำเข้ามา สัมผัสแปลกใหม่ในโพรงปากทำให้ผมสั่นสะท้านเอนกายถอยหนี แต่ธันไม่ยินยอม เขาขยับตามมาประกบจูบไม่ห่างรสจูบที่ดึงดันเอาแต่ใจกวาดต้อนเรี่ยวแรงของผมไปทั้งหมด รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังก็สัมผัสกับความนุ่มหยุ่นของโซฟาเสียแล้ว
ในที่สุดธันก็ถอนจูบออกไป ผมนอนลืมตามองหน้าคนที่ค้ำอยู่เหนือร่างแววตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่คู่นั้นสะท้อนเป็นภาพของผม
“ผมไม่ยอมให้พี่ไปไหนแล้วนะ”
ประโยคนี้อีกแล้วดวงตาของเขาเศร้าลงทุกครั้งที่พูดแบบนี้ ผมปาดน้ำตาหยดหนึ่งบนข้างแก้มของธันอย่างเบามือก่อนจะเป็นฝ่ายรั้งตัวเขาลงมากอดแน่นธันซุกหน้าเข้ากับซอกคอของผม ได้ยินเสียงสะอื้นแผ่วๆดังตามมาผมลูบหัวลูบหลังเขาขึ้นลงช้าๆ ปลอบโยนเหมือนตอนที่เชาเสียพ่อไปเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก
“พี่อยู่ตรงนี้กับธันแล้วนะธันไม่ต้องกลัว ตราบใดที่ยังไม่หมดเวลาของพี่ พี่ก็จะอยู่กับธันที่นี่แหละ”
ธันหยัดกายขึ้นค้ำร่างผมอีกครั้งนัยน์ตาใสกระจ่างยังคงรื้นน้ำตาแต่ไม่มีเสียงสะอื้นแล้ว “สัญญากับผมนะพี่ว่าจะอยู่กับผม”
“พี่สัญญา” ผมยิ้มน้อยๆแล้วเช็ดคราบน้ำตาให้เขา แต่มือข้างนั้นก็ถูกมือของธันจับไปแนบแก้ม
“ผมรักพี่นะ”
ผมกัดริมฝีปากพยายามกลั้นยิ้ม แต่ก็ดูเหมือนจะไม่สำเร็จ “พี่ก็รักธัน”
ใบหน้าของธันค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้ ผมหลับตาลงรับจูบที่เขามอบให้ริมฝีปากของเขากดย้ำซ้ำๆราวกับพยายามจะบอกตัวเองว่านี่ไม่ใช่เพียงความฝันแต่เป็นความจริงที่ผมยังอยู่กับเขา
“เป็นของผมนะพี่”
เขาพูดติดชิดริมฝีปากของผมผมจูบเขาแทนคำอนุญาต..
ธันไม่เร่งร้อนไม่ดึงดัน เมื่อผิวกายของเราทั้งสองสัมผัสกันโดยไร้อาภรณ์กั้น เขาก็อ่อนโยนกับผมจนถึงที่สุด ผมตัวสั่นสะท้านยามมือของเขาลากไล้ผ่านร่างกายร้อนผะผ่าวเมื่อริมฝีปากของเขากดจูบไปตามเนื้อตัวของผม
ผมผวาเฮือกเมื่อความอุ่นร้อนของอะไรบางอย่างแทรกผ่านเข้ามาในกาย มือจิกลงกับแผ่นหลังของเขาระบายความเจ็บ ธันโน้มตัวลงมามัวเมาผมด้วยรสจูบอันอ่อนโยนของเขาอีกครั้ง ตัวผมสั่นไหวไปตามจังหวะที่เขาเป็นคนกำหนด ได้ยินเสียงหอบหนักของเขาครางเครือเป็นชื่อผม แล้วสุดท้ายเราสองก็ถึงฝั่งฝันไปพร้อมกัน
“ต่อไปนี้พี่ไม่ต้องนอนตรงนี้แล้วนะ” ธันเอ่ยขึ้นหลังจากนอนนิ่งปรับลมหายใจอยู่พักใหญ่
ผมไม่ได้พูดอะไรแต่ส่งสายตาเป็นคำถามไปให้เด็กยักษ์ตัวใหญ่ที่ยังคงนอนทับบนตัวผมไม่ยอมถอนกายออกไปเสียที
“ไปนอนเตียงเดียวกับผมในห้องดีกว่า”
ธันส่งยิ้มสดใสมาให้แต่ดวงตาดูเจ้าเล่ห์ซะจนรู้สึกกังวลในสวัสดิภาพของตัวเองขึ้นมาเฉยๆ ผมหันหลบสายตาของเขา กลั้นยิ้มจนปวดแก้ม
“นะครับพี่”
เสียงออดอ้อนที่กระซิบข้างใบหูทำให้ผมต้องย่นคอหนีลมหายใจร้อนๆของเขา รู้สึกพ่ายแพ้เด็กคนนี้ไปเสียทุกทาง ถ้าผมยังไม่ตอบรับเขามีหวังโดนกลั่นแกล้งไปมากกว่านี้แน่ๆ
“เออ..ก..ก็ได้”
ธันยิ้มจนตาหยีเมื่อได้คำตอบที่ต้องการ “งั้นคืนนี้ก็ย้ายไปนอนกับผมเลยเนอะ”
“อืม”
“แล้วคืนนี้ก็จ่ายค่าห้องเดือนหน้าไปด้วยเลยเนอะ”
“ด เดี๋ยวธันหมายความว่าไง”
ธันทำหน้าเจ้าเล่ห์อีกแล้ว“แล้วแต่จะคิดครับ”
พี่ขอนอนที่เดิมจะได้ไหม?!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in