เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
SONG STORY FANFICploy_kamp
ต้องโทษดาว
  • ***แนะนำเปิดเพลงคลอไปด้วยนะคะ... 

    ก่อนหน้านี้มีช่วงหนึ่งที่เราติดเพลงนี้มากๆเลยเขียนออกมาเป็นฉากนี้ค่ะ:)***




     

    "ทากะขนของมาขึ้นรถเร็วมึง" เสียงเรียกของเรียวตะ หนุ่มหน้าใสสุดหล่อแถมมีซิกแพคตะโกนเรียกเพื่อนตัวเล็กร่วมเอก ร่วมกลุ่ม ร่วมคณะร่วมทุกอย่างที่สามารถทำให้พวกเขาอยู่ด้วยกันได้ ให้เอาของมาขึ้นรถเสียที มัวแต่เล่นโทรศัพท์ชาตินี้ก็ไม่ได้ไปหรอก

     

    โทรุ ทากะ เรียวตะ และโทโมยะ เพิ่งสอบปลายภาคเสร็จจึงนัดกันไปปีนเขาแห่งหนึ่งที่จังหวัดกำแพงเพชร จะว่าปีนเขาก็เรียกได้ไม่เต็มปากต้องบอกว่าขับรถขึ้นเขาน่าจะถูกกว่า คนขับรถก็คงไม่พ้น โทรุ เรียวตะ หรือโทโมยะ ส่วนทากะฮิโระนั้น นั่งสวยๆเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้เพื่อนก็พอ

     

    ทากะค่อยๆแบกกระเป๋าเดินมาที่รถตามที่เรียวตะบอกก่อนหน้า สอดส่องสายตาไปข้างในตัวรถก็เห็นคนหน้าหล่อตัวสูงประหนึ่งเสาไฟฟ้านั่งอยู่เบาะข้างหน้าฝั่งคนขับแล้วเรียบร้อย วันนี้โทรุเป็นคนขับสินะ...

     

    "เก็บของเสร็จยัง" โทโมยะเดินหอบถุงขนมเข้ามาสมทบ พร้อมกับเอ่ยปากถามทากะ

     

    "เสร็จแล้ว"

     

    "งั้นมึงไปนั่งหน้านะกูกับเรียวตะจะนอนเอาแรง เผื่อผลัดกันขับกับโทรุ" โทโมยะสั่งเพื่อนตัวเล็ก แล้วก็ยัดตัวเองเข้าไปในรถที่เบาะหลังทันทีโดยไม่รอฟังคำตอบจากปากทากะเลยสักนิด

     

    ทากะเบะปาก เช็คความเรียบร้อยที่กระโปรงหลังรถอีกครั้งและปิดกระแทกลงมาแรงๆหนึ่งที จากนั้นจึงเดินไปที่นั่งด้านหน้าข้างๆคนขับที่ตอนนี้มีโทรุนั่งกดโทรศัพท์เล่นอยู่ข้างๆ

     

    "เสร็จแล้วหรอ?" โทรุเอ่ยปากถาม เขาละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ เมื่อสังเกตว่าทากะฮิโระ เดินขึ้นรถมาแล้ว

     

    "อือ ออกรถเลยเดี๋ยวถึงช้า" ทากะว่า

     

    "คาดเบลท์ด้วยดิ" โทรุหันมาบอกอย่างขัดใจกับคนตัวเล็ก ไม่พูดเปล่า โทรุยังเอื้อมมือมาดึงเบลท์และคาดให้อีก

     

    "ทำเองได้น่า" ทากะบ่นอุบอิบ หูแดง จมูกแดงไปหมด เพราะกลิ่นตัวหอมๆของอีกฝ่ายแตะโดนจมูกเข้าอย่างจัง


    ทากะแพ้...แพ้กลิ่นตัวหอมๆของโทรุ ทุกครั้งที่ได้กลิ่น ไม่หน้าก็หูต้องแดงขึ้นมาทันที คนตัวเล็กเลยมักหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้คนตัวสูง

     

    โทรุเข้าเกียร์ เหยียบคันเร่งเพื่อออกเดินทางทันที เมื่อจัดการคาดเบลท์ให้กับตัวเองเสร็จ ทากะเอี้ยวตัวมองไปที่เบาะหลัง หมายจะถามหาขนมจากโทโมยะ แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อสองคนนั้นหลับเสียแล้ว ทั้งยังนอนหัวซบกันไม่ต่างจากวัยรุ่นที่เป็นแฟนกันสักนิด ทากะเลยไม่ได้พูดอะไรออกไปได้แต่หยิบซองขนมห่อใหญ่จากถุงที่โทโมยะหอบขึ้นรถเงียบๆ


    "เอาไหม?" ทากะว่าพร้อมกับยื่นถุงขนมไปตรงหน้าโทรุที่ตอนนี้กำลังโคลงศีรษะเบาๆตามเพลงที่เปิดบนรถ อะไรจะมีความสุขขนาดนั้น

     

    "เอา ป้อนด้วยขับรถอยู่" โทรุพยักหน้าเบาๆอ้าปากเตรียมรอรับขนมจากคนตัวเล็ก

     

    ทากะอิดออดอยู่สักครู่ก็ส่งขนมชิ้นหนึ่งเข้าปากโทรุ ตามที่เจ้าตัวร้องขอ เสร็จก็เอาเข้าปากตัวเองบ้างสลับกับให้โทรุบ้าง เป็นอย่างนี้จนขนมหมด คนตัวใหญ่จึงอารมณ์ดีเป็นพิเศษ

     

    "จะนอนก็ได้นะฉันขับคนเดียวได้" โทรุว่าเพราะเหลือบๆมองทากะหลายครั้งแล้ว เห็นว่าคนตัวเล็กตาปรือ จะปิดลงอยู่หลายครา

     

    "ไม่เอาเดี๋ยวอยู่เป็นเพื่อน" ทากะยังคงฝืนตัวเอง พยายามลืมตาหันไปบอกคนข้างๆ

     

    "นายนี่นะดื้อจริงๆ" โทรุว่าพลางส่ายหัว ส่องกระจกมองหลังเพื่อดูเพื่อนอีกสองคน ก็เห็นพวกนั้นยังหลับเหมือนเดิมและไม่มีทีท่าว่าตื่นง่ายๆ

     

     

    30 นาทีผ่านไป...

     

    "ทากะหยิบขนมให้หน่อยสิ" โทรุบอกคนข้างๆ แต่ได้รับเพียงความเงียบ จึงเหลือบตาไปมองคนข้างตัว ตามคาด...หลับไปแล้ว คอพับเชียว ท่านอนแบบนี้ไม่อยากให้ใครเห็นเลย บ้าจริง โทรุส่ายหน้าเปิดไฟเลี้ยวเข้าข้างทาง แล้วกดไฟฉุกเฉิน เอี้ยวตัวไปปรับเบาะนั่งให้เอนลงเพื่อให้คนตัวเล็กหลับสบาย

     

    ใบหน้าน่ารักกับปากหนาๆห่างจากปากเขาไม่ถึงคืบ แถมตัวก็หอมเป็นบ้า ทากะฮิโระขยับตัวปรับท่านอนใหม่เล็กน้อย โทรุจึงดึงสติตัวเองกลับมาฝั่งคนขับและตีไฟเลี้ยวกลับสู่ถนนตามเส้นทางเดิม ในใจก็แอบเสียดายนิดหน่อยที่ไม่ได้แอบทำอะไรคนตัวเล็กอย่างที่เคยทำ...

     

     

    "...กะ...ทากะ...ทากะ!!" โทรุเขย่าคนตัวเล็กทันทีที่ถึงที่หมาย แต่มันผ่านมา 5 นาทีแล้ว คนตัวเล็กไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย ปกติก็ขี้เซาแหละแต่ไม่ใช่ขนาดนี้ไง เป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย

     

    "ไม่ตื่นเลยหรอมึง" เรียวตะยื่นหน้าจากเบาะหลัง ถามโทรุที่กำลังเขย่าตัวทากะเพื่อปลุกเจ้าตัวอยู่ แต่ก็...นั่นแหละ ผ่านมา 5นาทีก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ขนาดโทรุปลุกเขากับโทโมยะแค่ครั้งสองครั้งก็ตื่นแล้วนะมันจะหลับลึกอะไรขนาดนั้น

     

    "อืม เอาไงอ่ะ" โทรุหันมาตอบ ขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดเล็กน้อยที่ปลุกทากะไม่ได้

     

    "มึงก็อุ้มไปเลย" โทโมยะเสนอ

     

    "เออ อุ้มเลยเดี๋ยวพวกกูถือของให้" เรียวตะก็สนับสนุนอีกคนโทรุถอนหายใจ แต่ก็ทำตามที่เพื่อนเสนอ ช่วยไม่ได้นะทากะ นายไม่ตื่นเอง...

     

    โทรุเปิดประตูรถฝั่งตัวเองแล้ววิ่งอ้อมไปฝั่งของทากะ กระชากประตูออก เอาแขนสอดใต้ขาและราวแขนของทากะออกแรงยกทากะขึ้นมาแทบจะไม่ต้องพยายามอะไรมากมาย เพราะเจ้าตัวไม่ได้หนักอะไรขนาดนั้น เขารู้สึกว่าเบาเกินไปด้วยซ้ำ พยายามจะขุน ซื้อแต่ของอ้วนๆให้กินก็แล้วแต่ทำไมเจ้าตัวถึงไม่อ้วนขึ้น หนำซ้ำตัวยังเล็กลงทุกวันๆแบบนี้ก็ไม่รู้

     

    พอเอาข้าวของรวมทั้งทากะมาไว้ที่เต็นท์ที่จองไว้เสร็จ โทรุก็เดินไปคุยกับเจ้าหน้าที่อุทยานเล็กน้อย เพื่อสอบถามเกี่ยวกับกฎและข้อปฏิบัติของที่นี่

     

    ก่อนขึ้นมาถึงที่พัก...วิวข้างทางสวยมากสวยจนโทรุอยากจะปลุกทากะขึ้นมาดูด้วย แต่ก็อย่างที่บอก...ทากะไม่ยอมตื่นแอบเสียดายแทนเหมือนกันที่ไม่ได้เห็นวิวสวยๆแบบนี้ไว้ตอนกลับลงไปค่อยกำชับแล้วกันว่าอย่าเพิ่งหลับ อีกอย่างโทรุก็ถ่ายรูปไว้เผื่อคนตัวเล็กเยอะเลย กลัวเจ้าตัวงอแงที่ไม่ได้เห็นวิวสวยๆ

     

    ตอนนี้... 4 โมงเย็นแล้ว

     

    ทากะตื่นเสียที... คนตัวเล็กขยี้ตางัวเงีย นั่งปรับสายตาอยู่นานถึงจะรู้สึกตัวว่าถึงที่พักแล้ว มุดหัวออกมาจากเต็นท์เพื่อหาเพื่อนร่วมทางแต่ก็ไม่พบใครเลย จึงล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงหมายจะโทรหาโทรุเพื่อถามว่าอยู่ที่ไหนกัน แต่เมื่อกดเปิดหน้าจอสัญญาณโทรศัพท์ดันไม่มีสักขีด เอาจริงดิ?

     

    ทากะลุกออกจากเต็นท์เพื่อจะตามหาพวกเพื่อนๆแต่ก็ไม่ต้องเดินไปไหนไกล เพราะโทรุยืนชมวิวอยู่ตรงป้ายอุทยาน เรียวตะกับโทโมยะยืนห่างออกไปนิดหน่อย ทากะเดินเข้าไปซ้อนหลังโทรุหวังจะแกล้งให้คนตัวสูงตกใจ พอดีกับโทรุหมุนตัวเพื่อจะเข้าไปปลุกทากะอีกครั้ง หน้าหวานจึงปะทะกับอกแกร่งเข้าจังๆ

     

    ทากะถอยหลังออกไปนิดหน่อยอย่างตกใจ โทรุเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เพราะคนที่คิดว่าน่าจะกำลังหลับอยู่ดันมาอยู่ตรงหน้าเสียได้ ทากะรู้สึกโชคดีที่ตัวเองตัวเล็กกว่าโทรุก็วันนี้ ถ้าเขาสูงกว่านี้หน้าเขาต้องชนกับหน้าอีกฝ่ายแน่ๆโทรุเองก็แอบเสียดายที่ทากะตัวเล็กเกินไป ไม่เช่นนั้น...ปากของเจ้าตัวก็คงชนกับหน้าเขาแล้ว

     

    ตื่นแล้วหรอ” โทรุถาม

     

    อืม มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่

     

    เป็นชั่วโมงแล้วปลุกตั้งนานมึงไม่ยอมตื่นสักที เลยให้โทรุอุ้มมาทิ้งไว้ที่เต็นท์” เรียวตะเอ่ยปากแซว เดินเข้ามาสมทบพร้อมกับโทโมยะ

     

    อะ..อุ้ม?” หูทากะแดงเทือกลามมาจนถึงแก้มและจมูก แค่คิดว่าโทรุมาแตะต้องตัวเขาก็เขินไปหมด แข้งขาพลันจะหมดแรงขึ้นมาดื้อๆ

     

    อืม หนักด้วย” โทรุพยักหน้าแล้วว่าตามเรียวตะ

     

    ไหนมึงบอกไม่หนักยังบ่นอยู่เลยว่ามันผอมเกินไป โทโมยะแซวบ้างยิ้มล้อเลียนไปทางโทรุ

     

    คนตัวโตไม่ได้ปฏิเสธแต่ก็ส่งสายตาขู่อาฆาตไปทางเพื่อนปากสว่างแล้ว คล้อยหลังทากะเมื่อไหร่...มึงโดนแน่

     

    หิวยัง” โทรุหันมาถามทากะ

     

    นิดหน่อยแต่อยากไปดูวิวอ่ะ พาไปหน่อยดิ ทากะอ้อนโทรุส่งสายตาวิ้งๆ จริงๆก็ไม่มีวิ้งออกมาหรอกแต่เขารับรู้ได้ถึงรังสีออกมาจากตาของทากะน่ะ

     

    อือ ไปดิเดี๋ยวพาเดินขึ้นไป เสร็จแล้วก็ลงมาอาบน้ำนะ

     

    ได้ครับ

     

    พวกกูไม่ไปนะเชิญพวกมึงสวีทกันตามสบาย เรียวตะผิวปากแซวทั้งคู่และเดินไปที่เต็นท์พร้อมกับโทโมยะ ปล่อยให้ทากะยืนหน้าแดงหัวร้อนเพราะความเขินอยู่ตรงนั้น

     


    ตกดึก...



    เมื่อไหร่มึงสองคนจะมีแฟน” เรียวตะเปิดประเด็นขึ้นมา หลังจากที่นั่งกินข้าวกันเสร็จตอนนี้รอบๆตัวพวกเขามืดไปหมด เห็นดาวบนฟ้าชัดเจน มันเยอะเสียจนทากะคิดว่าเขาอยู่ใต้ท้องฟ้าเดียวกันกับ10กว่าชั่วโมงก่อนหน้านี้จริงๆหรือ

     

    วิวที่นี่ดีมากๆ อากาศก็เย็นสบาย มีลมพัดถูกตัวตลอด ดีจนไม่อยากกลับ ถึงแม้จะเงียบ โทรศัพท์จะใช้งานไม่ได้ แต่มันก็ทำให้พวกเขาได้ใช้เวลาร่วมกัน ได้พูดคุยกันมากขึ้น

     

    เสือกโทรุตอบกลับมานิ่งๆเหลือบมองหน้าทากะเล็กน้อย อยากรู้เหมือนกันว่าอีกฝ่ายจะตอบคำถามของเรียวตะอย่างไร

     

    โทรุไม่รู้ว่าทากะชอบคนแบบไหน ชอบผู้หญิงหรือผู้ชายเพราะเพื่อนของเจ้าตัวมีเยอะไปหมด ไม่ว่าจะผู้หญิง ผู้ชาย รวมถึงเพศที่สาม บางครั้งมีข่าวเดทกับผู้หญิง เขาเองก็ปลงและทำใจว่าเจ้าตัวคงไม่ได้ชอบผู้ชายเหมือนกัน แต่บางครั้งเขาก็มีความหวัง เพราะทากะมักจะอ้อนเพื่อนผู้ชายหลายๆคน รวมถึงเขาด้วย เขาจึงไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายชอบเขาบ้างหรือเปล่า

     

    อยากมีนะ แต่ไม่กล้าว่ะ” ทากะเปรยออกมา ยิ้มบางๆให้กับเจ้าของคำถาม หันมาสบตากับโทรุราวกับจะสื่ออะไรบางอย่าง

     

    มึงมีคนที่ชอบแล้วหรอ โทโมยะถามขึ้นมาอย่างแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าคนอย่างทากะจะโมเม้นเช่นนี้แบบคนอื่นด้วย ทากะเพื่อนเยอะเกินไป เยอะจนคิดว่า...ไม่มีแฟนมันก็อยู่ได้แบบไม่เหงา

     

    คงงั้นมั้ง

     

    ใครวะ

     

    เออ พวกกูรู้จักป่ะ

     

    ไม่บอกเว้ยทากะโวยวายขึ้นมาแก้เขินหน้าแดงไปหมดเมื่อนึกถึงชื่อของคนที่ตัวเองชอบ

     

    ไรวะ โทรุอยากรู้จะตายแล้วน่ะเรียวตะชี้ไปทางโทรุทากะหันไปตามที่เรียวตะบอก เห็นโทรุนั่งมองตัวเองอยู่ก่อนแล้ว สายตาของโทรุดูมีเรื่องว้าวุ่นใจ ดูมีเรื่องอะไรรบกวนอยู่ตลอด เป็นอะไรของหมอนั่น

     

    พูดมากมึงอ่ะโทรุว่าพร้อมกับปากระป๋องเบียร์ใส่อีกฝ่าย แต่เรียวตะหลบทันพร้อมกับหัวเราอย่างสะใจที่อีกฝ่ายทำอะไรตนไม่ได้

     

    ไปนอนกันเรียวตะปล่อยคนโสดเขานั่งกันไปสองคนนั่นแหละโทโมยะว่าพลางลุกขึ้นแล้วฉุดเรียวตะกลับเข้าเต็นท์ไป โทโมยะกับเรียวตะนอนด้วยกัน ทากะจึงต้องนอนกับโทรุอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

     

    ตอนนี้จึงเหลือแค่ทากะกับโทรุนั่งสบตากันเงียบๆท่ามกลางความมืดและมีเพียงแสงสว่างเล็กๆจากดวงดาวส่องมาเท่านั้น สายตาของโทรุดูวุ่นวาย ดูสับสน คนตัวโตเหมือนจะอยากพูดอะไรออกมาหลายรอบ แต่ไม่พูดเสียทีจนทากะอึดอัด คิดในใจว่าควรจะหนีไปนอนแบบเรียวตะกับโทโมยะดีไหม

     

    ทากะตัดสินใจได้ ทำท่าจะลุกขึ้นเดินเข้าในเต็นท์ตามสองคนนั้นไป ถ้านั่งนานไปกว่านี้ เขาต้องเผลอทำตัวแปลกๆและต้องหน้าแดงมากแน่ๆ แต่ก็ถูกโทรุเรียกขัดไว้ก่อน

     

    จะไปแล้วหรอ


    อืม...ง่วงแล้วอ่ะ

     

    อย่าเพิ่งได้ไหม...มีเรื่องอยากจะบอก” โทรุส่งสายตาเว้าวอนไปให้อีกฝ่าย พลางตบที่ว่างข้างๆตัวให้อีกฝ่ายเดินมานั่งข้างๆเขา

     

    ทากะลังเลอยู่สักพักแต่ก็เดินเข้าไปตามที่โทรุบอก และหย่อนตัวลงนั่งข้างๆคนหน้าง่วง เหลือบตามองอีกฝ่าย ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายอยากจะบอกเขาเรื่องอะไร เพราะปกติแล้วพวกเขาในกลุ่มมีอะไรก็จะบอกกันตลอด เป็นความลับของโทรุหรอ

     

    มีอะไรหรอ

     

    นายมีคนที่ชอบรึยังน่ะ

     

    ทำไมถามเรื่องนี้ล่ะ

     

    บอกหน่อยได้ไหมฉันจะได้ตัดสินใจถูก

     

    มี

     

    โทรุหน้าชาอย่างกับถูกลากไปตบกลางสี่แยก สมองเขาเบลอไปหมด ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อดี เขาไม่รู้ว่าคนที่ทากะชอบเป็นใคร ถ้าเขาบอกออกไปทากะจะรังเกียจเขาไหม จะคิดอย่างไรกับเพื่อนคนนี้

     

    ไหนๆก็ถามเรื่องนี้แล้ว....

     

    “…..”

     

    ฉันจะบอกแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะโทรุ ถ้านายไม่ได้คิดแบบเดียวกันก็ลืมๆมันไป

     

    “…..”

     

    ฉันชอบนาย ชอบมานานแล้วด้วย ชอบมากๆจนไม่อยากอยู่ใกล้ๆ เพราะกลัวนายไม่ชอบ ฉันกลัวนายอึดอัดแต่ถ้านายไม่ได้ชอบฉัน ก็ลืมเรื่องวันนี้ไปนะ ถือซะว่าฉันไม่เคยพูดอะไร

     

    “…..”

     

    ไปนอนแล้วนะ ฝันดี” ทากะส่งยิ้มบางให้ ลุกขึ้นยืนอีกครั้งเตรียมจะเดินเข้าเต็นท์

     

    รีบหรอโทรุคว้าข้อมือคนตัวเล็กไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะได้เดินไปไหน ทำไมเขาโง่แบบนี้ ทำไมไม่เคยรู้เลยนะ

     

    “…..”

     

    ที่พูดเมื่อกี้...เป็นเพราะบรรยากาศพาไปรึเปล่า

     

    เปล่า ฉันชอบนายจริงๆ

     

    งั้นคบกันไหม

     

    วะ...ว่าไงนะทากะถามเสียงสูงอย่างตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน ไม่จริงน่า ทะ...โทรุชอบเขาหรอ?

     

    จริงจังนะ ฉันชอบนายชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันแล้ว แต่ฉันไม่กล้าบอกเหมือนกัน กลัวนายไม่ได้คิดแบบเดียวกันแล้วจะหายไป ฉันยังอยากมีนายอยู่ข้างๆ

     

    ไอ้บ้าโทรุ!!!! นายปล่อยเวลามาทำบ้าอะไรตั้งเกือบ10ปี

     

    ขอโทษทีนะ ฉันป๊อดเอง

     

    “…..”

     

    ทากะเงียบจนโทรุใจหาย เงยหน้าเพื่อจะมองคนข้างๆอยากจะรู้ว่าจังว่าคนตัวเล็กคิดอะไรอยู่

     

    ไม่ทันได้ถามอะไรออกไป คนตัวเล็กก้มลงมากดปากเข้ากับแก้มเขาแรงๆกดแช่อยู่อย่างนั้น จนเขารู้สึกหน้าร้อน คาดว่าหูตัวเองคงจะต้องแดงมากๆแน่เลย หันไปมองคนใจกล้า...ทากะก็ไม่ต่างกัน หน้าแดง หูแดง จนอยากฟัดไปหมด ถึงเขาจะเคยแอบชิมเล็กชิมน้อยจากอีกฝ่ายมาบ่อยแต่ก็ไม่เคยชินกับการสกินชิพกับคนตัวเล็กเลย ใกล้ทีไรก็ตื่นเต้นไปหมด

     

    มือหนากระชากคนตัวเล็กลงมานั่งที่ตักพร้อมกับกดริมฝีปากลงไปที่แก้มนุ่มนิ่มบ้าง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้หอมแก้มทากะในตอนที่เจ้าตัวรู้สึกตัว จากนี้...เขาไม่ต้องแอบทำอะไรแบบนี้แล้วใช่ไหม จะกอด จะจับ จะจูบทากะตอนไหนก็ได้สินะ โทรุกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น เพื่อถ่ายทอดความรักที่เขามีให้อีกฝ่ายทั้งหมด ทากะเองก็ซึมซับความอบอุ่นจากอ้อมกอดอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ ในเวลาแบบนี้เขาพูดอะไรไม่ออกหรอก เขินก็เขิน หน้าเขาคงแดงกว่ามะเขือเทศแล้วแน่ๆ


    ท่ามกลางความอบอุ่นเกิดขึ้น โทรุเอ่ยขึ้นมาเบาๆ ไม่ใช่คำขอ ไม่ใช่การบังคับ แต่ทั้งคู่รู้ว่ามันเกิดจากความรู้สึกดีๆ และมันคงเป็นประโยคที่ทากะไม่สามารถปฏิเสธได้ลงเลย...

     

    เป็นแฟนกันนะ




    _____________________________________________________________________________________________________


    สถานที่ในเรื่องคือ อุทยานแห่งชาติช่องเย็น ที่จังหวัดกำแพงเพชรนะคะ ของจริงสวยมาก วิวดีมาก ตัดขาดจากโลกภายนอกสุดๆ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ อากาศเย็นสบาย ธรรมชาติสุดๆ พอ 4 ทุ่ม เจ้าหน้าที่จะปิดไฟทั้งหมด ทำให้มืดมากๆ แต่เห็นดาวชัดมากๆ สวยมาก เหมือนทะเลดาวเลยค่ะ เป็นไปได้อยากให้ไปกันนะคะ ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศ ตัดขาดจากโลกภายนอก แนะนำที่นี่เลยค่ะ เป็นที่ที่เดียวกับเขาโมโกจู ที่เป็นเขาที่ีปีนยากที่สุดในไทยอีกด้วยค่ะ :)




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in