สามทุ่มคือเวลาแห่งการเตรียมตัวเข้านอนของโรงเรียน Idol School ฝนที่เทกระหน่ำในตอนค่ำคืนช่วยให้อากาศเย็นสบายขึ้น เด็กผู้หญิงทั้งหมดรวมตัวกันอยู่ในห้อง เด็กผู้หญิง 40 คนเป็นธรรมดาที่มันจะต้องมีความวุ่นวายกันบ้าง บางคนเตรียมตัวอาบน้ำ บางคนก็จับกลุ่มคุยกันบางคนอ่านหนังสือ ทุกคนต่างสนใจในสิ่งที่ตัวเองทำโดยที่ไม่มีใครสังเกตเลยว่า...มีใครบางคนหายไป มีเพียงจางกยูริ และยูจีนาเพียงสองคนที่รู้สึกถึงการหายไปนั้น
“จีนารู้มั๊ยว่าอึนยองหายไปไหน ?” กยูริเอ่ยถามโดยที่ดวงตาเพ่งมองไปที่เตียงนอนฝั่งตรงข้ามเธอ ซึ่งตอนนี้มันว่างเปล่า
“อืม...ไม่รู้สิอาบน้ำแหละมั้ง เดี๋ยวก็คงเข้ามา” จีนาตอบคำถาม ก่อนจะหันไปจดกับการเขียนไดอารี่
ไม่ใช่...อึนยองไม่ได้ไปอาบน้ำเพราะชุดนอนเธอยังอยู่ กยูริใช้ความคิด อุปกรณ์ทุกอย่างของเธอยังอยู่ครบ มีเพียงสิ่งเดียวที่หายไปคือ รองเท้าผ้าใบนั่นแสดงว่า อึนยองยังไม่ได้กลับเข้ามาในห้อง
ความสงสัยเริ่มเปลี่ยนเป็นความกระวนกระวาย และวิตกกังวล หญิงสาวเจ้าของดวงตายิ้มได้เอาแต่นั่งนิ่งบนที่นอนตัวเองเธอไม่สนอะไรอย่างอื่นรอบข้าง เธอกำลังคิด
เวลาแบบนี้แพอึนยองไปอยู่ที่ไหน...เป็นอะไรรึเปล่า ?
สุดท้าย...ความเป็นห่วงก็ทำให้เธอลุกจากที่นอนแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่บอกกล่าวใคร ไม่บอกแม้แต่ยูจีนา...
…นอลฮยังงัน ซอลเลอิมมึล โอนึลบูทอ อูรีนึน
กูมกูมยอคีโดฮานึน โอนึลบูทอ อูรีนึน…
เสียงเพลง Me Gustas tu เพลงของการสอบครั้งแรกดังมาจากในห้องซ้อมเต้น นี่ไม่ใช่เสียงจากการเปิดเครื่องเล่น แต่เป็นเสียงร้องสด เสียงของ...แพอึนยอง ร่างกายแข็งแรงเต้นไปตามจังหวะของเพลงที่ร้อง พอร้องจบก็เริ่มต้นใหม่ วนซ้ำไปอยู่อย่างนั้น จนกว่าจะรู้สึกว่าเป็นที่น่าพอใจ เหงื่อเริ่มซึมออกมาจากหน้าผากและปอยผมไหลลงสู่ลำคอขาว การถูกเลือกให้เป็นหัวหน้าทีมนั้นช่างน่าหนักใจ หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างแรกครั้งหนึ่งเพื่อหวังว่าสิ่งที่อยู่ในใจจะผ่อนคลายลง แต่ก็ไม่เลย
ร่างแข็งแรงนอบราบลงกับพื้นเพราะเหนื่อยหอบ แต่ริมฝีปากบางยังคงฮัมเพลง Me Gustas tu ต่อไป โดยที่ไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำของเธอถูกจับตามองอยู่โดยใครบางคน แพอึนยองหลับตาลงช้า ๆ ในขณะเดียวกันอีกคนก็ก้าวเข้ามาในห้องอย่างเงียบ ๆ แล้วนั่งลงข้างๆ เธอ นิ้วเรียวจิ้มไปที่แก้มของคนที่นอนหลับตาอยู่อย่างแผ่วเบา
“กยูริ เธอมาได้ไงอ่ะ ?” อึนยองลืมตาพร้อมเด้งตัวขึ้นนั่งอย่างตกใจ เธอมองเลยไปที่ประตูแล้วก็นึกตำหนิตัวเองที่ลืมล็อคกลอน
“ฉันต่างหากที่ต้องถามเธอว่ามาทำอะไรอยู่ที่นี่คนเดียวมืดค่ำแบบนี้” กยูริตั้งคำถามกลับไปโดยไม่สนใจตอบคำถามของอึนยองก่อนหน้านี้
“ฉันแค่...ยังไม่อยากนอน” อึนยองตอบพร้อมก้มหน้าลง น้ำเสียงไม่สู้ดีนัก
“เป็นอะไรรึเปล่า...บอกฉันได้นะ” มือเรียวของกยูริแตะเบา ๆ ที่ไหล่อ่อนล้าของอึนยองเพื่อปลอบประโลม
“กยูริ ทำไมเธอถึงเลือกอยู่ทีมฉัน ?” อึนยองเงยหน้าขึ้นมาถาม ดวงตากลมโตของเธอมองลึกเข้าไปในดวงตาเล็ก ๆ ของคนข้าง ๆ
“เพราะฉันเชื่อมั่นในตัวเธอ เหตุผลฉันมีแค่นี้” คำตอบถูกเอ่ยออกมาในทันทีจากปากของ จางกยูริผู้ซึ่งเป็นคนที่แพอึนยองสนิทมากที่สุด
“ฉันกดดัน กลัวจะทำได้ไม่ดี” อึนยองตัดสินใจบอกสิ่งที่อยู่ในใจออกไป
“อึนยองอ่า...เธอเป็นแบบนี้อีกแล้วนะ อย่าคิดมากสิ” เวลาที่อึนยองไม่สบายใจมาก ๆ กยูริคือคนที่รู้สึกได้เสมอ เธอรู้ได้ผ่านสีหน้าท่าทาง น้ำเสียง และรู้แม้กระทั่งว่าจะต้องปลอบอึนยองอย่างไร
“ฉันรู้สึกว่าฉันยังทำได้ไม่ดี ในเมื่อฉันเป็นแบบนี้ แล้วฉันจะไปเป็นผู้นำให้คนอื่นได้ยังไง”
“สำหรับฉัน เธอทำมันได้ดีตลอดไม่ว่าจะร้องหรือเต้น อย่างน้อยเธอก็ทำได้ดีกว่าฉัน”
“ความฝันของเธอคืออะไรเหรอ กยูริ ?” อึนยองตั้งคำถามอีกครั้ง
“ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ได้ร้องเพลง ได้เต้น แต่ถ้าไม่ได้เป็นหนึ่งในเก้าคน ก็ไม่เป็นไร เพราะมาที่นี่ฉันก็ได้ทำในสิ่งที่ฉันรักแล้ว” น้ำเสียงของกยูริเต็มเปี่ยมไปด้วยความจริงใจและความใสซื่อในขณะเดียวกัน
“เธอไม่อยากเดบิวต์เหรอ ?”
“อยากสิ แต่ถ้าจะให้ดีฉันก็อยากมีเธออยู่ด้วย เดบิวต์ไปพร้อม ๆ กัน” คำตอบถูกเอ่ยออกมาอย่างเขินอายตามด้วยรอยยิ้ม ยิ้มดวงตาพระจันทร์เสี้ยว ยิ้มที่มีอิทธิพลต่อการเต้นของหัวใจแพอึนยอง
ไร้ซึ่งคำพูดใด ๆ จากฝ่ายตรงข้าม มีเพียงดวงตาสองคู่ที่จ้องมองกัน
“มั่นใจหน่อยสิแพอึนยอง เหมือนที่ฉันมั่นใจในตัวเธอไง” เสียงหวานของกยูริเอ่ยออกมาทำลายความเงียบ
“ขอบคุณนะ” อึนยองเอ่ยคำขอบคุณสั้น ๆ แต่หนักแน่น
“ฉันก็มีเรื่องที่ต้องขอบคุณเธอเยอะเหมือนกันตั้งแต่วันแรกจนถึงตอนนี้ เธอช่วยฉันตั้งหลายอย่าง สอนฉันร้อง สอนฉันเต้น คอยมองฉัน ให้กำลังใจฉันตลอด เธอดีกับฉันมาก ๆ เลย ขอบคุณนะอึนยอง”
“กยูริ ฉันขอถามอะไรอีกหน่อยสิ” มือเรียวของอึนยองค่อย ๆ เลื่อนไปกุมมือเล็กของกยูริ กดน้ำหนักลงเบา ๆ เพื่อให้อีกฝ่ายรู้ตัว
“หืมมม??” ใบหน้าสวยหวานหันมาพร้อมเลิกคิ้ว
“เธอไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าฉันกำลังจีบเธออยู่? ” อึนยองถามออกไปอย่างใจเย็น ราวกับนี่เป็นแค่การพูดคุยกันธรรมดา หญิงสาวข้าง ๆเงียบไปชั่วครู่ ก่อนกระตุกยิ้มที่มุมปาก
“รู้สิ...ถึงยอมให้จีบอยู่นี่ไง” นี่เป็นทั้งคำตอบรวมถึงความรู้สึกในใจของจางกยูริที่มีต่อแพอึนยอง ร่างเล็กเอนตัวซบลงบนไหล่ของคนข้าง ๆ ภาษากายนี้เพื่อตอกย้ำในประโยคที่เอ่ยไปเมื่อครู่
ราวกับความรู้สึกถูกปลดล็อค ปัญหาทุกอย่างถูกคลี่คลาย ภายในใจที่หนักอึ้งของคนที่ถูกเรียกว่าเป็นหัวหน้าทีมนั้นเบาบางจนจางหาย คำถามที่อยากถามมานาน ได้รับคำตอบที่น่าพอใจแล้ว วินาทีที่จางกยูริเอนตัวซบลงบนไหล่ของเธอนั้น กำแพงของคำว่าเพื่อนสนิทได้ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นความรู้สึกใหม่ก่อตัวขึ้นภายในคนสองคน ในช่วงเวลานี้ อึนยองได้แต่สงสัยว่าหัวใจเธอล่องลอยไปอยู่ ณ ที่แห่งใด...
....To be continued....
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in