เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Smile in your eyes (Jang Gyuri & Bae Eunyoung)JomPiya Janthakit
Smile in your eyes EP.1
  • EP.1 – Eunyoung’s Part

    นี่ก็หลายเดือนแล้วกับการเข้ามาอยู่ใน IdolSchool ฉันมาทำอะไรกันแน่นะ ?

    แน่นอน!!! ฉันมีความฝัน อยากเป็นนักร้อง เป็นไอดอล ได้ยืนอยู่บนเวทีใหญ่ ๆมีแฟนคลับเยอะแยะ ความฝันนี้ของฉันมันยังคงอยู่ และฉันก็ทำมันเต็มที่ตั้งใจฝึกร้อง ฝึกเต้น ทำทุกอย่างที่ครูให้ทำ เพราะฉันมุ่งมั่นเสมอ แต่....

              กำลังมีคนบางคนมาทำให้ฉันเสียสมาธิ!!!


    ตั้งแต่วันแรกที่ฉันก้าวเข้ามาในห้องเรียนสีชมพูเปิดประตูมาก็เจอเพื่อนร่วมชั้นกว่าครึ่งห้องแล้วแต่...จะเรียกเพื่อนก็ไม่ถูกเท่าไหร่ อายุอานามชั้นก็ขึ้นเลขสองแล้วและส่วนใหญ่ของห้องนี้พวกเธออายุแค่สิบกว่า ๆ กันเท่านั้น อายุ 13 ก็ยังมี เฮ้อออ...นี่ฉันไม่ใช่เด็กแล้วหรือนี่ ???

     

              “สวัสดีค่ะ ฉัน แพอึนยอง อายุ 21 ปี มาจากปูซานค่ะ”

             

    ฉันแนะนำตัวเองหน้าชั้นเรียนแบบปกติอย่างที่ควรทำ แต่แล้วฉันก็สะดุดกับดวงตาคู่หนึ่งที่กำลังจ้องมองฉันอยู่และตามมาด้วยรอยยิ้มทักทาย...รอยยิ้มนั้น...จากผู้หญิงที่นั่งแถวที่สี่ น่าแปลกที่เวลาเธอคนนั้นทำหน้านิ่ง ดวงตาเธอจะใสแป๋ว กลมโต แต่เวลาเธอยิ้ม ตากลม ๆ คู่นั้นก็กลายเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวสองดวง มันมีเสน่ห์อย่างน่าเหลือเชื่อ


    เธอน่าจะเป็นมิตรฉันเชื่อในความรู้สึกแรกที่แว๊บเข้ามาในหัว เธอโบกมือทักทายฉันตอนที่ฉันกำลังหาที่นั่ง เธอคงทำแบบนี้กับทุกคนที่เข้ามาแหละมั้ง ฉันอยากจะนั่งข้างเธอจัง แต่น่าเสียดายที่ที่ตรงนั้นมันดันมีเจ้าของแล้ว เป็นสาวสวยซะด้วย แต่ช่างเถอะ ฉันมาช้าเองนี่นา เลือกนั่งแถวข้าง ๆ ก็ได้ ฉันจึงตัดสินใจมานั่งข้างหน้าเธอ แถวที่สามฝั่งซ้าย ที่เป็นแบบนี้เพราะฉันรู้ดีว่าถ้าฉันนั่งแถวเดียวกับเธอ มีหวังต้องแอบมองเธอจนไม่เป็นอันเรียนแน่


              ฉันนั่งลงตรงที่ที่ฉันเลือกแล้วก็มีเสียงเสียงหนึ่งเรียกฉันจากข้างหลัง


              “แพอึนยอง...ฉันยูจีนายินดีที่ได้รู้จัก” สาวสวยที่นั่งข้าง ๆ ยัยตาพระจันทร์เสี้ยวนั่นเอ่ยทักมา ฉันยิ้มตอบกลับไปแล้วเบนสายตาไปหาอีกคนหนึ่งเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

              “จาง กยู ริ” เธอตอบกลับมาเบา ๆแต่ก็ชัดเจนพอที่ฉันจะได้ยิน

              “โอเค จางกยูริ ยูจีนา” ฉันพยักหน้ารับพร้อมส่งยิ้มกว้างไปอีกครั้ง ทั้งคู่ก็ยิ้มตอบ ยูจีนายิ้มหวานพอ ๆ กับหน้าตา แต่ยิ้มของจางกยูรินี่สิ...ให้ตายเถอะไม่อยากละสายตาจากยิ้มนี้จริง ๆ


    ฉันกับกยูริสนิทสนมกันอย่างเร็วซะเหลือเกินคงเป็นเพราะอายุเท่ากัน เธอร้องเพลงเก่ง เต้นได้พอประมาณ แต่เธอตั้งใจเรียนในทุก ๆ คลาส มีความมุ่งมั่นไม่ต่างจากฉันและคนอื่น ๆ ทุกครั้งที่เธอต้องทดสอบต่อหน้าครูและเพื่อน ๆ ไม่ว่าสถานการณ์จะกดดันแค่ไหน เธอจะยิ้ม...ยิ้มราวกับว่าจะไม่ได้ยิ้มอีกแล้วในวันพรุ่งนี้ เวลายิ้ม ดวงตาของเธอจะปิดสนิท จนฉันแอบสงสัยว่าเธอจะมองเห็นอะไรบ้างมั๊ยนะ ? มองเห็นฉันรึเปล่า? แต่เธอก็มักจะส่งรอยยิ้มนั้นมาทางฉันอยู่บ่อย ๆ

     

              มาถึงวันของการสอบเดบิวต์ และฉันถูกเลือกให้เป็นหัวหน้าทีม ตอนที่ครูฮีชอลประกาศชื่อ ฉันแทบไม่เชื่อหูตัวเอง กดดันเหมือนกันนะ แต่ก็ออกไปยืนข้างหน้าแบบงง ๆ และเมื่อครูฮีชอลบอกให้หันหลังเพื่อจะให้เพื่อนที่เหลือเลือกว่าจะอยู่ทีมของใคร บอกตามตรง ฉันกังวลกว่าตอนโดนเรียกชื่อซะอีก ฉันหลับตา ได้แต่ภาวนาให้กยูริเลือกอยู่ทีมฉัน ฉันไม่สนว่าจะมีคนเลือกฉันเยอะแค่ไหน จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่ แต่หนึ่งในนั้นฉันอยากให้เป็น จางกยูริ

              เมื่อได้ยินคำสั่งให้ลืมตาและหันมาดูลูกทีม ฉันตกใจเป็นบ้า ไม่คิดว่าจะมีคนเลือกฉันเยอะขนาดนี้ แต่ในความตกใจ สายตาฉันกำลังมองหา ดวงตาคู่นั้น รอยยิ้มนั้น ฉันชะเง้อมองจนผิดสังเกต เขย่งแล้วเขย่งอีก และแล้วก็ได้พบเธอ เจ้าของดวงตารูปพระจันทร์เสี้ยว จางกยูริ...เธอยืนอยู่กลางแถว แล้วค่อย ๆ ฉีกยิ้ม มองมาทางฉัน ความรู้สึกกังวลทั้งหมด โล่ง หายเป็นปลิดทิ้ง เธอรู้มั๊ย ? ว่าฉันมองหาเธออยู่ มองหาเธอคนเดียว ขอบคุณนะที่ไว้ใจฉัน...และเลือกฉัน

     

              ถ้าถามว่าจางกยูริมีข้อดีอะไร สำหรับฉันแล้ว เธอทำให้ฉันหายกลัว จากตอนแรกที่เข้ามา ฉันกลัวหลายสิ่งหลายอย่าง กลัวโดนครูดุ กลัวเข้ากับเพื่อนไม่ได้ กลัวการไม่เป็นที่ชื่นชอบของหลาย ๆ คนแต่การได้มารู้จักกยูริ ทำให้ฉันรู้ว่า ยังมีคนที่พร้อมยอมรับฉันเธอจะรู้สึกเหมือนฉันมั๊ยนะ ? ยิ้มน่ารักของเธอมันมีผลต่อใจฉัน จนฉันไม่อยากให้เรื่องเลวร้ายอะไรมากระทบเธอเลย

     

              จางกยูริ...ฉันพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ชอบเธอ

              แต่สุดท้าย...ฉันก็ชอบเธอไปแล้ว

              

     

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in