เมื่อเติบโต ฉันจึงได้รู้ว่า
ชีวิตในแบบที่ฉันตามหามาตลอด
แท้ที่จริงแล้วก็คือชีวิตในวัยเด็กนี่แหละ
เด็ก ที่เปรียบเสมือนผ้าขาว
เป็นดั่งโหลแก้วเปล่าหนึ่งใบ
แต่ที่น่าอัศจรรย์ใจมากกว่านั้น
คือของขวัญที่ถูกบรรจุอยู่ในโหล
ซึ่งเป็นของประทานที่แตกต่างกันออกไป
"ความเป็นเด็ก" ราวกับเป็นตั๋ววิเศษหนึ่งใบ
ที่อนุญาตให้ผิดพลาดได้ เพราะ "ยังเด็กอยู่"
แต่พอเติบโตขึ้น
หากทำอะไรผิด จะบอกว่า "ยังเด็ก" ก็กระไรอยู่
อาจจะถูกกล่าวขานว่าเป็น "เด็กโข่ง" แทน
เด็กนั้น มีความมหัศจรรย์ซ่อนอยู่
นั่นคือการมองโลกใบแบบที่เป็นจริง
ตามธรรมชาติ ไม่แต่งสี ไม่เจือปน
จนกระทั่งเริ่มมีวุฒิภาวะ และถูกละเลงสีใส่
หิวก็กิน อยากนอนก็นอน
อยากเที่ยวก็เที่ยว อยากเล่นก็เล่น
เรียนก็ใช้เวลาไม่นาน มีเวลาสนุกสนานมากมาย
ทำสิ่งต่างๆ ออกมา "จากใจ"
ไม่แต่งสี เจือปนสารสังเคราะห์
หรือผ่านการพาสเจอร์ไรซ์
เมื่อวันเวลาผ่านไป
และฉันก็ได้ทบทวน
จีงได้รับรู้ว่า ช่วงเวลานี้ช่างล้ำค่า
เพราะว่าประสบการณ์ที่สั่งสมมา
ทำให้ไม่อาจมองโลกในแบบเด็กๆ
หรือใช้ชีวิตในรูปแบบเด็กๆ ได้อีก
แต่ฉันก็ยังมีเด็กๆ เป็นแรงบันดาลใจ
เพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างมากมาย
ที่ใช้เงินซื้อไม่ได้ หนึ่งในนั้นคือความสุขทางใจ
ความสุขที่อยู่ในระดับลึก
การ Fulfill ระดับ Mind ที่ไม่ใช่แค่ Emotional
การมีหัวใจแบบเด็กๆ ทำให้เข้าถึงในระดับนี้ได้
มัทธิว 18:3
แล้วตรัสว่า "เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า
ถ้าพวกท่านไม่กลับใจและเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ
ก็จะเข้าในแผ่นดินสวรรค์ไม่ได้เลย"
ฉันเข้าใจข้อพระคัมภีร์ถ่องแท้ก็วันนี้
ว่าการมีหัวใจแบบเด็กๆ นั้น
มันช่างแสนวิเศษ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in