ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่า "อันยอง!" คนที่หลงเข้ามาอ่านทุกคนนะ...
ทริปเกาหลีที่จะมารีวิวครั้งนี้ เราไปมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปีที่แล้วนะคะ (พ.ศ. 2559) (ขอบอกไว้เผื่อใครอยากทราบสภาพอากาศและฤดูกาลช่วงนั้นนะ) ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อน
สาเหตุที่เลือกประเทศเกาหลีใต้นั้น...ง่าย ๆ เลย คือ เราก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการดูซีรีส์เกาหลีเป็นชีวิตจิตใจ ชอบความใสใสของพระนางเกามาก ดูแล้วปริ่มอิ่มเอมหัวใจ พอดูมากเข้าเลยได้ซึมซับภาษา และพอฟังสำเนียงออก (ต้องขอบอกว่า ถ้าเราแบ็คแพ็คไปเอง เราควรคุ้นสำเนียงเกาหลี และอ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษให้ออก โดยเวลาไปถามทางคนเกาหลีเราต้องออกสำเนียงให้เขาฟังออกด้วยเช่นกันจ้ะ) และอาหารการกินหรือวัฒนธรรมของเขาก็น่าสนใจใคร่รู้เช่นกัน เรียกได้ว่า เกาหลีเป็นประเทศที่อยู่ในใจมานานและเป็นรายชื่อแรกๆในลิสต์ที่จะต้องแวะเวียนไป และที่สำคัญ คือ ช่วงนั้นมีตั๋วโปรฯบินไปเกาหลีพอดี จึงยิ่งเกิดกิเลสอยากไปมาก ๆ เอาวะ! เราก็เลยตัดสินใจชวนป้าไปเที่ยวด้วยกัน (ทำไมต้องชวนป้า? ก็เพราะไม่มีใครว่างไง ฮ่า ๆ) ขอบอกว่าทริปนี้เป็นครั้งแรกเลยที่เราวางแผนจริงจังมากและถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตให้รักการท่องเที่ยว เราตัดสินใจไปเกาหลี 8 คืน 9 วัน นานที่สุดเท่าที่เคยไปต่างประเทศมา...ใจก็ตื่นเต้นและลุ้นว่ามันจะเป็นไปตามแผนเที่ยวที่เราวางไว้มั้ย เงินที่พกไปจะพอมั้ยหว่า จะหลงทางมั้ยเนี่ย แล้วจะเจออะไรบ้าง ที่กลัวที่สุด คือ จะผ่านตม.มั้ย เป็นห่วงป้าอีก ฮ่า ๆ เอาล่ะเกริ่นมาซะยาว เข้าเรื่องกันเล้ยยย
จองตั๋วเครื่องบิน
ก่อนที่เราจะวางแผนเที่ยวต่าง ๆ นานา สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ จองตั๋วเครื่องบินจ้า ถ้าอยากได้ตั๋วถูก ราคาดี เราแนะนำให้คอยติดตามเพจบนเฟสบุ๊ค โดยกด see first ไว้ เพื่อเวลามีโปรฯต่างๆเราจะได้ติดตามความเคลื่อนไหวได้ปัจจุบันทันด่วน เพจที่เราติดตามนะ เช่น Ar-pae.com, ติดโปร - PRO addict, เพื่อนบอกโปร
เราได้ตั๋วเครื่องบินของสายการบิน Air Asia ในราคาไป-กลับคนละ 8,000 กว่าบาท โดยรวมค่าโหลดสัมภาระด้วย (กระเป๋าเราใบค่อนข้างใหญ่ มีความเยอะนิดหนึ่ง ฮ่า ๆ จะยอมได้ไงไปตั้งเกาหลีนะยะ ต้องจัดเต็มสิคะ) แต่ถ้าถือสัมภาระขึ้นเครื่องก็จะประหยัดเงินส่วนนี้ไปอีกจ้า ดังนั้น ค่าตั๋ว 2 คน ก็รวม 17,880 บาท
วางแผนเที่ยว
เมื่อได้ตั๋วแล้วก็มาวางแพลนกันว่าอยากไปเที่ยวที่ไหนบ้าง จะเดินทางอย่างไร จะเที่ยวที่นั่นกี่วัน จะแวะกินร้านอาหารดัง ๆ ที่ไหนบ้าง ตอนแรกเราอยากไปเกาะเชจูด้วย แต่ไปไม่ทันเพราะถ้าไปต้องยอมอดไปอีกเมืองสองเมือง แล้วก็ต้องเสียค่าเครื่องบินอีกต่อหนึ่งอีก และอีกอย่างเขาบอกว่าไปเช่ารถที่นั่นขับจะเที่ยวได้สะดวกกว่า แต่เมื่อคำนวณเงินในกระเป๋าก็สังวรณ์ว่าควรกลับไปรอบหน้าจะดีกว่า (อยากไปอีกมากๆ)
สภาพอากาศ
แนะนำให้ดูสภาพอากาศและอุณหภูมิของเมืองที่จะไปด้วย เพื่อใช้ในการตัดสินใจว่าจะไปเมืองไหนและใช้ในการจัดเตรียมเสื้อผ้า เผื่อช่วงที่ไปหนาวหรือร้อนจะได้เตรียมเสื้อผ้าไปให้เหมาะกับฤดูกาล อย่างตอนเราไปเนี่ยเป็นหน้าร้อน ลงเครื่องที่โซลอากาศก็ร้อน (แต่ไม่เท่าบ้านเราแน่นอน) แต่พอไปเมืองซกโช (Sokcho) อากาศกลับหนาวซะงั้น ถ้าไม่ใส่เสื้อหนา ๆ มีสั่นเงิกงัก แล้วฝนก็ดันตกอีกที่คยองจู สรุปว่าต่างเมือง ต่างสภาพอากาศนะ โปรดเช็คกันได้ดี
เมืองที่เราจะพาไปเที่ยวด้วยกัน ได้แก่
1.เมืองหลวงโซล (Seoul)
2.เมืองพูซาน (Busan)
3.เมืองซกโช (Sokcho)
4.เมืองคยองจู (Gyeongju)
จองที่พัก
จากนั้นก็ ลงมือจองที่พักกัน! เว็บที่เราแนะนำ คือ www.agoda.com และ www.booking.com
เราเสียค่าที่พักไปทั้งหมด 7,930 สำหรับพัก 2 คนนะ (ส่วนพักที่ไหนบ้าง เราจะมาแจกแจงทีหลังจ้า)
พาสปอร์ต และวีซ่า
พาสสปอร์ตต้องมีอายุ 6 เดือนขึ้นไป ซึ่งหมายถึง วันหมดอายุต้องมากกว่า 6 เดือน เช่น ถ้าหมดอายุเดือนหน้าจะไปเดือนนี้ก็ไม่ได้
คนไทยที่เดินทางไปเกาหลี ไม่ต้องทำวีซ่า แต่อยู่ได้ไม่เกิน 90 วัน
แลกเงิน
เมื่อจองที่พักเสร็จสรรพก็ต้องทำการแลกเงิน ทริปครั้งนี้งบของเรา คือ 56,000 บาท ตกคนละ 28,000 บาท โดยเราไปแลกเงินวอนที่ Super Rich สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว (ต่อคิวยาวมากกก)
อีกเรื่องที่ต้องเตรียมไป คือ ปลั๊กสองขาแบบกลมหัวเล็ก ที่เกาหลีใช้ไฟฟ้า 220 โวลต์เหมือนที่ไทย และถ้าจะเสียบอุปกรณ์หลายอย่างให้เตรียมปลั๊กแบบแผงไปด้วยนะจ๊ะ
Wifi
มาเรื่องที่สำคัญต่อชีวิต ขาด wifi เหมือนจะขาดใจ เราแนะนำว่า หากไปเที่ยวกันหลายคนและใช้เน็ตเยอะมาก ให้เช่า Pocket wifi ค่ะ เช่น ของ Easy korea wifi (http://www.easykoreawifi.com/how-to/how-to-pick-and-return) จะสามารถแชร์ได้หลายคนและสัญญาณดี โดยสามารถนัดรับและส่งคืนตัวเครื่องได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิหรือดอนเมือง และสนามบินอินชอนที่เกาหลี หรืออาจนัดรับส่งได้ที่ที่พักหรือโรงแรมในเกาหลีก็ได้ค่ะ
ส่วนของเรานั้น เราไปซื้อบัตร wifi ของที่เกาหลีเลยค่ะ จะขายตามมินิมาร์ท เช่น GS25 ซึ่งคล้าย ๆ กับ 7-11ของบ้านเรา ตอนไปเที่ยวบางสถานที่ก็ไม่มีสัญญาณนะคะ
หรือจะซื้อ Sim แบบเหมา เช่น ของ Olleh
และอย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ คือ ในที่พักหรือโรงแรมในเกาหลีก็จะมี Free wifi
เวลา
เวลาที่เกาหลี จะเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง
ยิปปี้! ขั้นตอนการเตรียมตัวเสร็จแล้ว จะถึงเวลาเดินทางแล้วววววว เตรียมตัวเตรียมใจพร้อมกันหรือยัง เจอกันตอนหน้า รับรองสนุกแน่ ๆ อย่าพลาดล่ะ! วันนี้ลาไปก่อนค่า "คัมซาฮัมนีดา"
(รูปภาพประกอบ (ปลั๊กไฟ) : http://www.meetawee.com/home/introduce-korea.html)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in