ซึ่งแฟนๆก็รู้ดีว่า จริงๆแล้วกองหน้าที่เล่นได้ในเลเวลเดียวกันกับอิบรา มันไม่ได้หาง่ายๆ และส่วนมากต้นสังกัดก็ไม่ค่อยจะอยากปล่อยตัวนักหรอก (ถ้าไม่นับกรณีอิกวาอิน จากนาโปลีนะ)
แต่เอนทรี่นี้ไม่ได้จะมาเพื่อวิเคราะห์ความเหมาะสมของคาวานี่ในการมาแทนที่อิบรา
แต่จะพูดถึงผลกระทบของทีมหลังจากที่ต้องเสียอิบราไป
อดีตเจ้าของเบอร์ 10 ของสโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแมง (Cr: www.lexpress.fr)
PSG ปิดตลาดหน้าร้อนไปอย่างไม่หวือหวานัก เมื่อเทียบกับช่วงเวลากว่า 4 ปีหลังจากกลุ่มนายทุน QSI จากอาหรับเข้ามาเป็นเจ้าของกิจการสโมสรโดยสมบูรณ์
มันไม่ใช่ว่า PSG ไม่ทุ่มเท่าแต่ก่อน
มันไม่ใช่ว่า PSG กลัวกฏ Financial Fair Play
มันไม่ใช่ว่า PSG เพิ่งเปลี่ยนโค้ชเป็นอูไน เอเมรี่ จากเซบีญ่า
มันไม่ใช่ว่า PSG เกิดอยากจะปั้นเด็กๆจากอคาเดมี่
ลองย้อนกลับไปในปี 2013 ตอนที่เนย์มาร์ยังเล่นให้กับซานโตส ตอนนั้น PSG ตามจีบเนย์มาร์ ดาวรุ่งชาวบราซิล เนย์มาร์เคยให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า "อยากร่วมงานกับอิบราที่ PSG สักครั้ง"
หรือจะตอนที่เดวิด ลุยซ์ อังเคล ดิ มาเรีย หรือแม้กระทั่งตัวเอดินสัน คาวานี่เองก็ให้สัมภาษณ์ในทำนองเดียวกันว่าอยากร่วมงานกับดาวยิงชาวสวีเดนคนนี้ ในงานแถลงข่าวคว้าตัว
จะเห็นได้ว่า แค่การมีชื่อิบราอยู่ในทีม มันก็มากพอที่จะดึงดูดสตาร์ดังๆเข้าสู่นครปารีส ที่แม้ว่าจะอยู่ในลีกที่การแข่งขันไม่สูงเท่าไรเมื่อเทียบกับลีกดังๆลีกอื่น
ชุด PSG สีที่สาม ที่เป็นปีแรกที่สโมสรใช้สีดำ (ปกติใช้สีแดง) และสกรีนลาย Je suis Paris (แปล I am Paris?) เนื่องในโอกาศไว้อาลัยให้เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายในเหตุก่อการร้ายที่กรุงปารีส ในวันที่ 13 พฤศจิกายนปีที่แล้วฮะ
แน่นอนว่าตลาดหน้าร้อนครั้งนี้ PSG เองก็ได้เจรจาซื้อสตาร์บ้าง แต่
นก *ขีดเส้นใต้หนักๆ*และนี่คือรายชื่อนักเตะที่ PSG นกให้ทีมอื่นๆ
อองตวน กรีซมันน์ (เจรจาไว้ที่ 75ลย. + ก่อนเจ้าตัวจะยืดสัญญากับต้นสังกัดไปอีก)
วินเซนต์ ยานส์เซ่น (ที่บอกกับส้นสังกัดชัดเจนว่าจะไม่ไปไหนนอกจากไปสเปอรส์เท่านั้น)
เลอรอย ซาเน่ (ที่ภายหลังโดนแมนซิตี้งาบไป)
ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ (อันนี้ผู้เชี่ยวชาญมองว่าไปร่วมวงล่าเอาใกล้ตลาดปิด เลยโดนปฏิเสธกลับมา)
กองเต้ (อันนี้กองเต้บอกเองเลยว่าไม่มา PSG แน่นวน //กระซิก)
(จริงๆเยอะกว่านี้อีก ไว้นึกออกจะมาเสริมต่อ)
ยังไม่นับสตาร์ PSG ที่อยู่ๆก็อยากย้ายออกจากทีมอย่าง แบลส มาตุยดี้ ที่ทำทุกทางเพื่อย้ายทีม (แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ย้าย) หรือเดวิด ลุยซ์ ที่ดูเผินๆก็ไม่ได้กดดันต้นสังกัดเท่าไร แต่สุดท้ายก็ต้องปล่อยเขากลับบ้านเก่าที่ลอนดอน หรือจะลูก้า ดีญ ที่ PSG ปล่อยให้โรม่ายืมในฤดูกาลก่อน ที่ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมาว่า "ผมจะไม่กลับไปเล่นให้ PSG" (ปัจจุบันขึ้นยานแม่ไปแล้วนาจา)
อย่างไรก็ตาม PSG ได้นำเข้านักเตะคุณภาพอย่างเกอร์เซรกอร์ซ กรีโชเวียคจากเซบีญ่า (ที่เรียกได้ว่าหนีตามกันมากับโค้ชอูไน เอเมรี่ 55555555) โธมัส เมอนิเยร์ จากคลับบรูช และเฆเซ่ โรดริเกซจากเรอัล มาดริด และอาเต็ม เบน อาร์กฟา จากนีซ
(Cr: www.foot123.fr)
หากถามว่าอะไรในตัวอิบราที่ชาวปาริเซียงจะคิดถึงมากที่สุด ก็คงเป็นจำนวนประตู และความอุ่นใจของแฟนๆ ที่แค่มีอิบราอยู่ในสนามก็เหมือนมีตัวรับประกันว่าแมชนี้ไม่นกแน่นวน ทำนองนั้น ยิ่งในถ้วยยูฟ่าที่ว่ากันว่าเกมใหญ่ทีไร อิบราหายทุกที ... การมีอิบรา ก็ยังดีกว่าไม่มี มันดูมีความหวังมากกว่าฝากทีมไว้กับหน้าเป้าคนปัจจุบันของ PSG ตอนนี้
(55555555555555555555555)
นี่ยังไม่นับเรื่องภาพลักษณ์ของสโมสรที่ขาดสตาร์เด่นๆแบบที่ถ้าพูดถึงทีมนี้ ต้องนึกถึงคนนึ้ ยังไม่นับถึงการอาจสูญเสียแฟนๆ หรือสูญเสียรายได้ต่างๆอีกมากมาย
นอกเหนือจากนั้นคงเป็นวาทะกรรมอันทรงพลังอย่างกับพระเจ้าโลกใหม่ 55555555555555 บ้าาา ใครจะเอาพี่อิบราไปไว้แทนหอไอเฟลฟะะะะะ แล้วไหนจะวีรกรรมด่าเปาอีก จะไปมีใครเหมือนพี่เค้าอี๊กกกก
(Cr: www.fautetactique.com)
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์(?)ได้ให้ความเห็นว่า การจากไปของอิบราก็ไม่ได้เป็นเรื่องแย่ไปซะทั้งหมด โดยให้ความเห็นในมุมกลับกันว่า การที่มีดาวยิงอินดี้อย่างอิบราฮิมโมวิชอยู่ในทีมนั้น อาจจะทำให้ไดนามิกของทีมเสีย
เนื่องจากเจ้าตัวมีภาวะความเป็นผู้นำ(เกิ๊นนน) หรือความอิบรา ซึ่งอาจมีอิทธิพลมากเกินไปในห้องแต่งตัว อันจะนำมาซึ่งความขัดแย้ง และบรรยากาศที่ไม่อภิรมณ์สักเท่าไร (ที่เราจะเห็นได้จากการที่สื่อในฝรั่งเศสอย่าง Canal+ คอยเล่นข่าวเสี้ยมความสัมพันธ์ระหว่างอิบราและคาวานี่เป็นต้น) หรือที่ร้ายแรงคือ อาจมีอิทธิพลมากเกินไปสำหรับโค้ช (เห็นได้จากการที่
โลรองต์ บลองก์ดูไม่มีทางเลือกมากนักในเกมแนวรุก เพราะให้ตายยังไงก็ต้องเล่นแผนที่เอื้อกับอิบรามากที่สุด) แฟนๆ และบอร์ดบริหาร
การจากไปของอิบราจึงกล่าวได้ว่า PSG กำลังก้าวเข้าสู่ศตวรรษใหม่
เอดินสัน คาวานี่ ผู้สำเร็จราชการแทนอิบรา ถถถถถถถ (Cr: www.foxsports.com)
สำหรับ PSG ภายใต้การทำทีมของ
อูไน เอเมรี่ในช่วงปรีซีซั่นก็ทำผลงานได้ดีจนน่าสนใจมี แม้มีการเปลี่ยนแผนการเล่นที่ PSG ใช้มาตลอดในระบบ 4-3-3 เป็น 4-2-3-1 โดยมี
เอดินสัน คาวานี่ เป็นตัวแทนของอิบรา แม้ตลอดเวลา 3 ปีได้ชื่อว่าเป็น Left Back ที่ค่าตัวแพงที่สุด .... อ่านไม่ผิดหรอกฮะ Left Back ฮะ (ไม่ใช่ Left Winger ด้วยนะ 5555555)
อย่างไรก็ตาม ด้วยความโชคร้ายของเอเมรี่ที่นักเตะตัวหลักพากันทยอยเจ็บ โดยเฉพาะ Back 4 ที่เจ็บแทบทุกตำแหน่ง ที่ทำให้โค้ชจำใจต้องเปลี่ยนระบบ และหมุนเวียนนักเตะไปในตำแหน่งอื่นๆเรื่อยๆ ทำให้ปารีสเริ่มต้นฤดูกาลได้ไม่ราบรื่นนัก เมื่อเทียบกับตอนที่ทั้งอิบรา และโลรองต์ บลองก์ยังอยู่ แต่เราก็ยังไม่สามารถตัดสินอะไรได้มากนัก เพราะฤดูกาลเพิ่งเริ่มต้น
และคืนนี้ ก็จะเป็นบททดสอบแรกในถ้วยยูฟ่า ของ PSG ในวันที่ไม่มีอิบรา
PSG จะเปิดบ้านต้อนรับทีมอาร์เซน่อลจากอังกฤษ ที่สนามปาร์ค เดส์ แพรงส์ ในเวลา 1.45 นาฬิกา (ตามเวลาไทย) และมีถ่ายทอดสดทางช่อง 9
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่เริ่มเชียร์ PSG เพราะอิบรา
(หากถามว่าทำไมถึงชอบอิบรา อันนี้ยาวมากกกกกกก เอาไว้มีเวลาจะเล่าให้ฟังฮะ)
ความเห็นของเราคือ PSG โชคดีมากๆ ที่มีอิบรา แม้เพียงช่วงหนึ่ง (ก็นานนะ? 4 ปีแหนะ!)
สำหรับ PSG ... อิบราก็เปรียบเหมือนตำนานคนหนึ่งของสโมสร ... อาจจะไม่เทียบเท่าเปาเลต้า หรือ ไร โอลิเวียร่า ... หรือแม้แต่กับซาเฟ็ท ซูซิช อาจจะด้วยภาพลักษณ์สุดอินดี้ที่ชอบพเนจรไปทีมต่างๆของพี่แก ประหนึ่งเป็นทหารรับจ้าง ... แต่ก็นั่นล่ะฮะ อิบราก็ถือเป็นคนหนึ่งที่ชาวปาริเซียงและแฟนๆต่างด้าว(อย่างเราๆ)ไม่มีทางลืม ไม่ว่าจะสถิติอันน่าพรั่นพรึง หรือจะวาทะกรรม และวีรกรรมห่ามๆของพี่แกก็ตาม 5555
สุดท้ายก็ขอขอบคุณอิบราสำหรับทุกอย่างที่เคยมีร่วมกัน และขออวยพรให้พี่เค้าประสบความสำเร็จกับทีมปัจจุบันอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
#แม้ในความจริงแล้วจะเป็นทีมคู่แข่งกับทีมของเราอีกทีมก็ตาม55555555555 #ในเลข5มีน้ำตาซ่อนอยู่
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in