จากหลังเท้าเป็นหน้ามือ! คงไม่มีคำใดเวอร์วังเกินไปกว่านี้แล้วหากเราจะพูดถึงนักเตะคนหนึ่ง ที่ถ้าหากคุณได้เคยอ่านบล็อกนี้มาก่อน คุณจะรู้ว่ามีการพูดถึงนักเตะคนนี้อย่างงามไส้สุดๆมาก่อนแล้ว เพราะเขาในตอนนั้น เป็นเพียง หมาป่าตาบอด #edincieco  ในสายตาแฟนๆโรมานิสต้าเลือดร้อนเท่านั้น

เรากำลังพูดถึง #Džegol หรือ เจโกล -- Hashtag ที่แฟนๆหมาป่ากรุงโรมใช้สรรเสริญฟอร์มร้อนแรงของ เอดิน เจโก้ ศูนย์หน้าร่างโย่งของหมาป่ากรุงโรมในฤดูกาลนี้

ณ จุดนี้ หน้ากากหมาป่า(ตาบอด) ได้ถูกถอดออกแล้ว และผู้อยู่ใต้หน้ากากคนนี้จะเป็นใครไปไม่ได้หากไม่ใช่เขา ผู้เป็นนักเตะเพียง 1 ใน 4 นักเตะที่สามารถทำประตูได้ถึง 30 ลูกจากทุกลีกในยุโรป (ต่อจาก คาวานี่ เมสซี่ เลวานดอฟสกี้) ในเวลานี้

ใครจะรู้ว่า หมาป่าตาบอดในวันนั้นจะกลายเป็น หน้ากากหมาป่า ฮีโร่ในวันนี้ ในวันที่พาทีมคว้ายชัยติดต่อกันมานักต่อนัก และขึ้นแท่นเป็นนักเตะโรม่าคนแรกที่ยิงประตูติดต่อกันถึง 8 แมชเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร

นอกจากนี้ยังมีส่วนร่วมในการพาทีมทำลายสถิติ ชนะในบ้าน ติดต่อกัน 14 นัด ในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรในปี 1927 ซึ่งถือเป็นสถิติที่ดีเยี่ยมเมื่อเทียบกับข่าวที่ว่าสโมสรขาดทุนกว่า 50 ล้านยูโรในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกที่ผ่านมาอีกด้วย

และหากย้อนดูสถิติส่วนตัวของพี่แกแล้ว เราก็คงได้แต่งงงันว่าทำไมถึงสามารถรักษาสถิติ "ฟอร์มดีเมื่อซีซั่น 2" แบบนี้ได้กับทุกๆสโมสรที่เคยค้าแข้งมากันนะ?

"ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่มันมักจะเป็นแบบนี้เสมอๆนะ"

เจ้าตัวกล่าวถึงสถิติที่น่าพิศวงของตนเอง

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากฤดูกาลก่อน ว่าเล่นไม่เข้าระบบบ้าง ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกมบ้าง มักหายไปจากเกมซะเฉยๆบ้าง ใช้โอกาสเปลืองบ้าง ทุกอย่างล้วนเป็นคำวิจารณ์ (และกร่นด่า) ที่สุดจะทน แต่ในวันนี้ดูเหมือนมันจะไม่มีอีกแล้ว (หรือมีน้อยลงเยอะ) ในเมื่อฟอร์มของเขาในตอนนี้ถือว่าเปรี้ยงปร้างมากทีเดียวด้วยวัยเท่านี้แล้ว

"ที่โรมจะเหมือนกับบอสเนีย คือเขาจะไม่วิจารณ์กันหรอก เขาด่าเลยแหละ ผมเลยค่อนข้างจะชินกับมันแล้ว คือไม่ว่าคุณจะเล่นได้ดีมา 3 นัดติด แต่ถ้าคุณเริ่มจะพลาดขึ้นมา เขาก็จะด่าคุณอีก มันเหมือนกับว่าพวกเขาจ้องจะหาโอกาสยำคุณยังไงยังงั้นเลยล่ะ"

"ผมพยายามบอกตัวเองว่าผมมาถูกทางแล้ว ผมจะไม่ไปจากที่นี่ มันคือสิ่งที่ผมเลือกไปแล้ว ไม่มีใครขอให้ผมอยู่ต่อ แต่นั่นก็คือความท้าทายที่ผมตั้งใจจะชนะตัวเอง"

ข้อความตอนหนึ่งในสัมภาษณ์ของเจโก้หลังจากถูกถามว่าเคยคิดที่จะย้ายออกไปจากโรม่าไหม ในเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาไม่เป็นที่ประทับใจแก่แฟนๆหมาป่าเลยแม้แต่นิด โดยจะเห็นได้จาก Hashtag สุดฮิตในตอนนั้นอย่าง  #edincieco (เอดินคนตาบอด) ที่แฟนๆร่วมใจกันยำพี่แกเละในฤดูกาลที่ผ่านมา

จะเห็นได้ว่าแม้เจ้าตัวจะถูกแฟนๆต่อว่าต่อขานมามากแค่ไหน แต่ก็ไม่เคยลดละความพยายาม แถมยังมีใจพร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองอีกด้วย 

นอกจากนี้ สิิ่งหนึ่งที่เป็นหลักฐานชั้นดีที่ว่ากองหน้าคนนี้ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับทีมมากแค่ไหน มันก็มาจากการที่เจ้าตัวพยายามเรียนภาษาอิตาลี จนสามารถให้สัมภาษณ์ทุกอย่างด้วยภาษาอิตาลีด้วยความมั่นใจ ไม่กลัวว่าจะมีความผิดเพี้ยนใดๆทั้งสิ้น

แม้ในวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมาจะพาทีมตกรอบรายการยูโรป้าในรอบ 16 ทีมสุดท้ายไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อไม่สามารถเอาชนะด้วยกฏ Away Goal ที่เหลืออีกแค่ลูกเดียวเท่านั้น มิหนำซ้ำยังน่าเสียดายเข้าไปใหญ่ในเมื่อประตูที่เขายิงได้เกือบจะได้เป็นประตูชัยที่นำพาทีมทะลุเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ... ถ้าหากว่าไม่ถูกตัดสินผิดพลาดว่าเป็นลูกล้ำหน้าไปเสียก่อนล่ะก็นะ....

แต่โดยรวมในถ้วยยูโรป้านี้ เซโก้เองก็ได้ฝากสถิติที่ดีมากๆให้กับสโมสรและตนเอง โดยทำประตูไปแล้วถึง 8 ประตู ซึ่งเป็นการทำ Hat trick ถึง 2 ครั้งด้วยกันในเกมที่เจอกับ วิคตอเรีย พิลเซ่นทีมจากสาธารณะเช็คในรอบแบ่งกลุ่ม และ บียาเรอัลทีมจากสเปนในรอบ 32 ทีมสุดท้าย

 

โดยเมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมานี้เองก็เป็นวันครบรอบวัย 31 ปีของเจ้าตัว จึงขอใช้เอนทรี่นี้เป็นเอนทรี่อวยพรวันเกิดให้นักเตะผู้ไม่เคยลดละความพยายามนี้ประสบความสำเร็จ และพาทีมคว้าชัยในถ้วยใดถ้วยหนึ่งด้วยเถอะ สาธุ!

"วันนี้วันเกิดผมครับ ผมจะมีความสุขมากกว่านี้หากว่าเราเข้ารอบยูโรป้า! เราได้ทำดีที่สุดแล้ว แต่น่าเสียดายเหลือเกินที่มันไม่สำเร็จ! เราจะพยายามให้หนักหน่วงกว่านี้อีก! ขอบคุณทุกคนสำหรับคำอวยพรครับ #สู้ต่อไปโรม่า"

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------