ผมไม่ชอบคำคมประเภทเมื่อคุณพยายามคุณจะได้ทุกสิ่งอย่าง หรือ คนเราสามารถทำได้ทุกอย่าง
มันไม่จริงเสมอไป
ในโลกนี้มีบางสิ่งบางอย่างที่ต่อให้อยากได้มากแค่ไหนก็ไม่มีวันได้มา
“วิน ทำไมชอบทิวลิปสีเหลืองนัก”
ผมถามคนตัวบางในตอนที่เขาละสายตาจากหนังสือที่อ่านอยู่ร่วมชั่วโมงขึ้นมาเพื่อพักสายตา
อัศวิน พี่ชายฝาแฝดของผมยิ้มแต่ก็ไม่ตอบอะไร ปิดหนังสือแล้วเอนตัวลงนอนบนพื้นหญ้า เหมือนกับว่ากำลังนอนพักสายตา
ผมมองใบหน้าที่งดงามเหมือนรูปสลัก เขาเหมือนรูปปั้นที่ได้รับความรักจากพระเจ้า การที่ผมชมหน้าตาเขาไม่ได้หมายความว่าผมจะชมตัวเองทางอ้อม
ดินแดน คนนี้ไม่มีอะไรที่เหมือนผู้ชายตรงหน้าเลยซักนิดเดียว เราไม่มีอะไรเหมือนกันเลยนอกจากเพศสภาพ
ในตอนที่ยังเด็ก ผมไม่เคยเข้าใจว่าทำไมเราสองคนถึงไม่มีอะไรเหมือนกันเลย แต่พอโตขึ้น ผมกลับดีใจที่เป็นอย่างนั้น
วินหลับไปแล้ว เขาดูนิ่งเกินกว่าจะพักสายตา และนั่นแหละ ผมรู้สึกได้ว่าเขาหลับจริงๆ
อัศวินของผมนั้นช่างงดงาม ความหลงใหลดึงผมให้เข้าไปใกล้ ริมฝีปากหยักนั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่ความผิดบาปในใจฉุดรั้งผมขึ้นมา ล้มตัวลงนอนข้างๆ หลับตาข่มอารมณ์
แค่อยู่ใกล้ๆก็พอแล้ว ตอนนี้…ชั่วเวลานี้…พอแล้วจริงๆ
ผมดีใจที่ไม่ได้มีใบหน้าเหมือนเขา การตกหลุมรักอีกครึ่งหนึ่งของตัวเองนั้นผิดบาปจนเจ็บที่หัวใจ หากเขามีใบหน้าเหมือนผม การตกหลุมรักเงาสะท้อนของตัวเองคงยิ่งกว่าแสนสาหัส
ทิวลิปสีเหลืองหมายถึงความรักที่สิ้นหวัง
อัศวินชอบมัน
แต่ผม…เกลียดมันจนสุดหัวใจ
เพราะมันตอกย้ำว่าผมขลาดกลัวเกินกว่าจะทำลายสายใยระหว่างเรา
........
“พวกมึงไม่เหมือนกันเลยว่ะ”
เสียงของ ปั้นจั่น ดึงผมออกจากอาการเหม่อที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ผมกระพริบตาถี่เรียกสติที่เหมือนยังกลับมาไม่ครบ หน้าต่างบานที่ผมมายืนมองอยู่เต็มไปด้วยหยดน้ำ
ฝนตก ตกหนักด้วย
เพราะเป็นช่วงหน้าฝน การเดินทางไปมาพร้อมกับร่มหลากสีสันจึงไม่สะดุดตาในสายตาคนมอง ห้องของปั้นจั่นที่ผมมาอาศัยทำงานอยู่ชั้นสาม ไม่ไกลจากข้างล่างมากนักแต่ไม่ใกล้ไปจนเห็นอะไรๆด้านล่างได้ชัดเจน
“จั่น นั่นวินเปล่าวะ”
สายตาผมสั้นด้วย นั่นแหละประเด็น ปั้นจั่นเดินเข้ามา ผมเบี่ยงตัวให้มันดูคนข้างล่างที่เพิ่งลงจากรถ ผู้ชายตัวสูงในชุดนักศึกษาแขนยาวพับแขน พร้อมกับเป้สะพายสีดำ
ผมรู้ว่านั่นคือวิน อัศวินพี่ชายของผมแน่นอน แต่สิ่งที่ผมอยากได้ มันคือคำยืนยันจากปากของปั้นจั่น
“เออ ออร่าหล่อพุ่งขนาดนั้น มากับ อ้าว วินกลับไปคบกับไอ้ภัทรอีกแล้วเหรอ”
แล้วมันก็ออกมา คำยืนยันที่ผมทั้งหวังและไม่คาดหวังจะได้ยิน
วินมากับแฟนเก่า ไม่สิ แฟนคนปัจจุบัน
แฟนที่เป็นผู้ชาย
บ้าชิบ
โคตรบ้าที่แวบหนึ่งผมคิดว่าถ้าเขามีแฟนเป็นผู้หญิงคงดีกว่านี้
โคตรบ้าที่แวบหนึ่งผมคิดว่าทำไม…
ทำไม…คนที่ได้เป็นเจ้าของเขา ไม่ใช่ผมคนนี้
ปั้นจั่นกลับไปพิมพ์งานต่อ โดยที่ผมยังยืนอยู่ตรงหน้าต่าง จินตนาการถึงทุกสิ่งอย่างที่น่าจะเกิดขึ้นเมื่อสองคนนั้นเข้าห้องไป
หงุดหงิด
ปวดใจ
ร้อนรน
และ
เกลียดตัวเองเหลือเกิน
เกลียดที่ทำไมถึงกล้ารักอีกครึ่งหนึ่งนั่น
เกลียดที่ทำไม
ทำไมไม่เป็นผม
.
.
.
ถึงอย่างนั้น ก็มีคำถามหนึ่งภายในหัวใจ
ถ้าหากผม…
ถ้าหากเรารักกันได้…
ในโลกคู่ขนานที่เป็นไปไม่ได้นั้น…
คุณมีโอกาสที่จะรักผมบ้างมั้ย…
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in