ผมชื่อภัทร ชื่อผมก็ไม่ถึงกับโหล แต่ก็ไม่ได้ยูนีคขนาดที่ว่าในคณะไม่มีใครชื่อซ้ำกับผมเลย เวลาพูดถึงภัทร ทุกคนก็จะนึกถึงรุ่นพี่บ้าง รุ่นน้องบ้าง หรือรุ่นเพื่อนที่อยู่อีกภาควิชานึง แต่ไม่เคยมีใครนึกถึงผมเลย การจะบอกว่าผมคือภัทรไหน ก็ดูเป็นเรื่องยาก เอ...แต่คิดไปคิดมาก็ไม่ได้ยากนักหรอก พวกเขาก็แค่ตัดบทและเปลี่ยนหัวข้อสนทนาก็เท่านั้น แล้วภัทรไหน ก็หายไปในอากาศ
เหมือนผมจะมาตัดพ้อเรื่องการไม่มีตัวตน เหมือนผมจะน้อยใจ จะว่าใช่ก็ได้ แต่ผมไม่เคยเรียกร้องอะไรจากใครเลย ผมรู้สึกว่าผมไม่เคยเป็นคนสำคัญของใคร บางความสัมพันธ์ก็เข้ามาเพียงชั่วครู่ให้ผมรู้สึกอุ่นใจ แล้วไม่นานพวกเขาก็หายไป ผมไม่เคยโทษพวกเขาหรอก ก็คงเป็นเพราะผมที่น่าเบื่อ
ผมเคยมีเพื่อนที่สนิทมาก มีอะไรแปลกไปไหม ผมบอกว่าผมเคย นั่นแปลว่าตอนนี้ผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าจะเรียกใครว่าเพื่อนสนิทได้บ้าง ตอนที่ผมสนิทกับเพื่อนคนนั้น ผมทุ่มเทให้เขาทุกอย่าง ผมเชื่อใจเขา ผมรักเพื่อน ผมรู้สึกสนิทใจ เรื่องแบบนี้ไม่มีมาตรวัดหรอก มันก็แค่ความรู้สึกของผม สุดท้ายแล้วเมื่อผมกับเพื่อนต้องห่างกันเพราะเราต้องแยกย้ายกันไปตามทางของเรา ความสนิทมันก็ค่อยๆหายไป ผมยังคิดถึงเขา ผมเคยบอกเขา แต่มันก็เท่านั้น เขาไม่เคยบอกผมเลย พอนานๆไปผมก็แค่คิดว่าผมคงจะเก็บความคิดถึงเหล่านั้นแค่ในใจของผม เพราะถึงผมบอกไป มันก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้นมาเลย นี่ไม่ใช่ความคิดที่ดีหรอก แต่ผมเองก็ยอมรับว่าผมก็ทำได้แค่นี้
หลังจากเรื่องนี้ผ่านไปนานพอสมควรที่ทำให้ผมสนิทกับเพื่อนอีกคน เรื่องราวคล้ายๆเดิมก็ยังเกิดขึ้นกับผม สุดท้ายเราก็กลายเป็นคนที่เคยสนิท เขาคือเพื่อนสนิทของผม แล้วผมเคยเป็นเพื่อนสนิทของเขาหรือเปล่า ผมได้แต่สงสัย และก็ยังเหมือนเดิม ผมไม่ได้ถาม ผมไม่โทษเพื่อน เขาเปลี่ยนไป ผมเสียใจ แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะผมไม่พูดใช่มั้ยล่ะ
ผมเคยสงสัยว่าคนเรารู้สึกเสียใจกับเรื่องเดิมซ้ำๆจนไม่อยากจะเจอกับเรื่องนั้นอีก แล้วตัดปัญหาด้วยการไม่เริ่มต้นมันเลยได้จริงๆหรอ ตอนนี้ผมได้คำตอบแล้วว่ามันได้ ผมไงล่ะ ผมไม่อยากสนิทกับใครแล้ว ผมเกลียดคำนี้ ผมไม่อยากรู้สึกเสียใจเรื่องเดิมๆ ผมไม่มีเพื่อนสนิท ผมมีเพื่อน แล้วเพื่อนล่ะ มีผมหรือเปล่า ผมได้แต่สงสัย
มันไม่ใช่แค่สองครั้ง แต่มันยังมีครั้งอื่นๆ ทุกครั้งที่อยู่กับเพื่อนแล้วผมรู้สึกไม่อุ่นใจ ไม่สนิท ไม่สำคัญ ไม่มีตัวตน บางทีผมอาจจะคิดมากไป แต่ผมคิดว่าถ้าผมอยู่กับพวกเขาแล้วรู้สึกแบบนั้น ผมอยู่คนเดียวดีกว่า
จนผมหลงใหลการอยู่คนเดียว ผมรู้สึกสบายใจ มันคล่องตัว ผมไม่ต้องมาแคร์ใครที่ถึงยังไงแคร์ใครไปก็ไม่มีใครแคร์ผมอยู่ดี ผมไม่ต้องมารักษาน้ำใจใคร ผมแค่ทำอะไรที่อยากทำ ผมอยากไปในที่ที่อยากไป ดูหนังเรื่องที่อยากดู เข้าร้านอาหารที่อยากกิน ซื้ออะไรที่อยากได้ มีเรื่องไม่สบายใจอะไรผมก็เก็บไว้คนเดียว ผมคิดว่าบอกไปแล้วไม่มีอะไรดีขึ้นผมก็ไม่อยากบอก บางทีเราก็มีคำตอบของตัวเองอยู่แล้วนั่นแหละ เราบอกไปเพื่อฟังคำตอบของเขา พอมันแย้งกับของเรา เราก็เถียง แล้วสุดท้ายเราก็เชื่อตัวเอง ผมเคยเจอมาจริงๆ ผมคงคิดมากไป
แต่บางที ผมก็หลอกตัวเอง ผมชอบความเหงาหรอ ใช่จริงๆหรอ ผมฟังเพลงเศร้าทีไร เรื่องราวที่ผ่านๆมาก็ฉายชัดขึ้นมาในหัว ผมอยากร้องไห้ ผมต้องการใครสักคนที่เข้าใจผมอยู่ดี
วิว ผมไม่แน่ใจว่าจะเรียกเขาว่าเพื่อนได้ไหม ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย เราแค่เรียนภาควิชาเดียวกัน และสิ่งเดียวที่ผมกับเขารู้จักกันก็คงมีชื่อเล่น หรือบางที เขาอาจจะจำชื่อผมไม่ได้ก็ได้ ผมเคยคุยกับเขาและเคยคิดว่าเขาก็คงเข้าใจความรู้สึกของผมบ้าง
ผมคุยกับวิว เหมือนวิวจะเจอปัญหาเดียวกับผม ผมเลือกคุยกับเขาเพราะเขาเปิดประเด็นมา แล้วผมก็พลั้งปากบอกเขาไปว่าเราก็เจอปัญหานั้น ก็เรื่องเพื่อนยังไงล่ะ แต่สุดท้ายแล้ว เป็นวิวที่มีแต่คนเข้าหา แต่เขารู้สึกไม่โอเค ต่างกับผม ที่ไม่มีใครเลยจริงๆ สุดท้ายแล้ววิวก็คงจะเศร้า แต่ผมมองไม่เห็นความเศร้าในแววตาของเขาอีกแล้ว ขอโทษนะวิว ผมคงเข้าใจวิวบ้าง แล้ววิวล่ะ เข้าใจผมจริงๆหรอ
Only thing I can do is keep that feeling in the deep of mind
ภัทร ผู้ไม่มีตัวตน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in