เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เรื่องเล่าผ่านเสียงเพลงmonnierose
Reputation -THE OLD TAYLOR CAN'T COME TO THE PHONE RIGHT NOW




  • Taylor Swift นักร้องสาวคันทรี่ที่เปลี่ยนสายมาเป็น pop อย่างเต็มตัว ชื่อเสียงของเธอคงมีน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักและแล้วในปี 2017 เธอก็กลับมาพร้อมกับอัลบั้มใหม่ที่มีชื่อว่า Reputation ในฐานะแฟนเพลงและแฟนคลับของเทย์ตั้งแต่ปี 2014 ก็ได้เห็นพัฒนาการดนตรีของเธอมาตลอดจากอัลบั้ม Red,1989 และอัลบั้มปัจจุบัน ทุกครั้งที่เธอกลับมาพร้อมอัลบั้มใหม่เราตื่นเต้นและรอคอยตลอด

    เทย์เลอร์เป็นศิลปินคนหนึ่งที่เขียนเนื้อเพลงราวกับบทกวี ทำให้สัมผัสของเนื้อเพลงนั้นมีความหมายและง่ายที่จะร้องตามซึ่งนี้ถือว่าเป็นพรสวรรค์ของเธอที่ทำให้เธอกลายเป็นศิลปินที่โด่งดัง เราเป็นแฟนคลับคนหนึ่งที่พอได้ฟัง 1989 แล้วรู้สึกไม่ชินไม่คุ้นปนไม่ถูกหู แต่ไปๆมาๆกลับกลายเป็นรู้สึกว่านี้ละ ใช่แล้วแนว pop นี้ละที่เทย์เลอร์ควรลองและเธอก็กลับมาสลัดภาพสาวคันทรี่ออกไปกลายมาเป็น pop 

    สำหรับอัลบั้มนี้ก่อนจะรีวิวเราค่อนข้างอยากเขียนอะไรบางอย่าง
    เรากังวลเกี่ยวกับสุขภาพจิตของเทย์เลอร์ เธอมักมีข่าวแย่ๆร้ายๆออกมาและชาวเน็ตมักโจมตีเธอบ่อยๆ
    และเธอก็มักจะไม่ตอบโต้อะไรมากนัก ชื่อเล่นที่สองของเธอคือ snake ประกอบกับทั้งใน MV เพลงหรือ teaser comeback ของเธอก็มีสัญลักษณ์ชื่อเล่นที่สองของเธออยู่ตลอด

    มันแสดงให้เห็นว่าเธอยอมรับสิ่งที่เธอไม่ได้เป็นเพียงเพื่อที่จะให้ทุกอย่างเป็นไปตามเกมของชาวเน็ต
    เหมือนเธอจะเสียดสีสิ่งนั้นด้วยการกลายเป็นสิ่งที่คนอื่นไม่ชอบเอาซะเอง เธอไม่ได้พยายามจะแก้ต่างแต่กับยอมรับที่จะอยู่กับมัน เราเห็นความเจ็บปวดที่เทย์สื่อออกมาผ่านทางอัลบั้มนี้ได้ อย่างเนืื้อเพลงท่อน 

    They're burning all the witches, even if you aren't one
    -I Did Something Bad

    I don't trust nobody and nobody trusts me
    -Look What You Made Me Do

    Here's a toast to my real friends
    They don't care about that he said, she said
    And here's to my baby
    He ain't reading what they call me lately
    And here's to my momma
    Had to listen to all this drama
    And here's to you
    'Cause forgiveness is a nice thing to do
    Haha, I can't even say it with a straight face
    -This Is Why We Can't Have Nice Things

    เรากังวลเกี่ยวกับเทย์มากๆถึงแม้มันอาจเป็นเนื้อเพลงแต่ศิลปินนั้นมักจะซ่อนเรื่่องราวของตัวเองไว้ในผลงานตัวเองไม่ใช่หรอ อัลบั้มนี้สำหรับเราที่ตามเทย์เลอร์มา 4 ปี และชื่นชอบในตัวเทย์ค่อนข้างจะรู้สึกว่าอัลบั้มนี้เหมือนแหล่งรวม Depression ของเทย์ที่ทำออกมาเป็นงานศิลปะ

    Tracklist
    ...Ready For It?
    End Game
    I Did Something Bad
    Don't Blame Me
    Delicate
    Look What You Made Me Do
    So It Goes...
    Gorgeous
    Getaway Car
    King Of My Heart
    Dancing With Our Hands Tied
    Dress
    This Is Why We Can't Have Nice Things
    Call It What You Want
    New Year's Day


    ...Ready For It?

    In the middle of the night, in my dreams
    You should see the things we do, baby

      เป็นหนึ่งในเพลงที่เราฟังวนหลายรอบที่สุดตอนฟังครั้งแรกไม่ชอบความดุดันของเสียงเทย์ที่ขึ้นมาเท่าไหรรู้สึก ไม่ใช่นาง ... นั้นละ แต่พอไปท่อนท้ายก็ยังมีกลิ่นอายของเทย์คนเก่าอยู่บ้างเป็นเพลงที่เหมือนคำถามสำหรับแฟนเพลงว่า เธอพร้อมที่จะรู้จักฉันอีกครั้งหรอยัง? MV นั้นมีความ scifi มากมายซึ่งเหมาะกับตัวเพลงและเทย์ก็สวยมากด้วย ท่อนที่เราชอบคือท่อน In the middle of the night, in my dreams เสียงของเทย์เหมือนควันที่เบาบางกำลังลอยขึ้นมาและถัดไปก็มีเสียงดนตรีที่ดุดันกระชากออกมาเหมือนดึงสติเราว่า เฮ้ เทย์คนใหม่มาแล้วนะ

    End Game

    Big reputation, big reputation
    Ooh, you and me, we got big reputations
    Aah, and you heard about me
    Ooh, I got some big enemies

       ตัวดนตรีที่หนักแน่นพร้อมกับดนตรีที่มีกลิ่นอาย Hiphop และ pop ผสมกันทำให้มีความแปลกกันนิดหน่อยเราไม่ได้ชอบเพลงนี้มาก แต่ Ed นั้นทำให้เพลงนี้น่าฟังเป็นเท่าตัวอาจเพราะเสียงของ Ed นั้นดูสบายๆช่วยทำให้ตัวเพลงไม่หนักมากไป เรามีความรู้สึกว่าบั้มหน้าเทย์อาจทำแนวนี้เยอะมากแน่ๆ ขอพนันไว้ 10 บาท แต่เทย์ก็แร็ปตอนท้ายได้ดีอยู่เหมือนกันให้สามดาว

    I Did Something Bad

    They say I did something bad
    Then why's it feel so good?

      เพลงนี้ออกแนวประมาณว่า "อุ๊ยทำผิดหรอคะ แต่ทำไมรู้สึกดีจัง" ถึงจะดูเสียดสีแต่ก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของเนื้อเพลงที่มีความประชดประชัน เหมือนนางปลงกับสิ่งที่คนอื่นมองนางแล้วไม่อยากแก้ต่างอะไรอีกต่อไป ตัวดนตรีนั้นมีความ pop,edm ผสมๆกันไปพอฟังได้แต่ไม่ได้ชอบมาก ตัดคะแนนตรง ตารึดๆตึดๆต่า เราว่ามันตลกแปลกๆ แต่เพลงนี้ lyrics ดีมากเลยละ

    Don't Blame Me

     Don't blame me, love made me crazy
    If it doesn't, you ain't doing it right
    Lord, save me, my drug is my baby
    I'll be using for the rest of my life

      เสียงของเทย์และดนตรีที่ขึ้นมาตั้งแต่แรกทำให้เรานึกว่านางไปทำเพลงประกอบละคร fifty shades of grey เมื่อไหร ? ทั้งsoundและเสียงร้องรวมทั้งความหมายเพลงสามารถนำไปประกอบหนังเรื่องนี้ได้สบายๆ ได้แต่คาดหวังว่าอาจจะเป็นหนึ่งในเพลงประกอบหนังเรื่องนี้เพราะ mood มันได้สุดๆ ตัวความหมายค่อนข้างจะโตขึ้นมาและไม่โลกสวยแบบ love story เท่าไหรแล้ว ซึ่งแซ่บโดนใจเราสุดๆ

    Delicate
    This ain't for the best
    My reputation's never been worse, so
    You must like me for me...

      เราชอบดนตรีเพลงนี้ตอนฟังครั้งแรกรู้สึกมันดึงดูดและมีความ unique มันเหมือนจะเป็น pop ที่เบาๆแต่ก็มีกลิ่นอายของ 1989 บางๆทั้งตัวเนื้อเพลงและดนตรีแต่ขัดกับบางท่อนที่เสียงเทเลอร์เหมือนเสียงของหุ่นยนต์เป็นความแตกต่างที่ลงตัว

    Look What You Made Me Do

    The world moves on, another day, another drama, drama
    But not for me, not for me, all I think about is karma


    ตอนแรกที่ฟังเพลงนี้จำได้ว่าอยู่โรงเรียนและเล่นทวิตพอรู้ว่าเพลงนี้ปล่อยออกมาเราเสียบหูฟังเดินแยกจากเพื่อนเลยรู้สึกแบบ เห้ย..ในที่สุดเทย์ก็กลับมาแล้วตอนฟังครั้งแรกรู้แล้วละว่าเราชอบผ่านอยู่แต่ก็ยังคิดว่าถ้าไม่ใช่เราที่เป็นแฟนคลับจะชอบปะ พอ week 1 หลังจากปล่อยเท่านั้นละกลายเป็นเพลง Hit กันเลยทีเดียวด้วยตัว MV ที่ดีงามและดนตรีที่ย้ำคำซ้ำบ่อยๆทำให้ไม่ยากที่จะจำและร้องตามเพื่อนๆร้องตามกันได้หมดเลยทีเดียว ถือเป็นเพลงที่เราคิดว่าจะแป้กแต่ดันเปรี้ยงซะงั้น 555555555

    So It Goes...

    เราฟังเพลงนี้น้อยสุดในอัลบั้มเพราะไม่รู้สึกว่าโดนใจเท่าไหรเลยไม่มีท่อนที่ชอบเป็นพิเศษค่อนข้างจะธรรมดาและเฉยๆ

    Gorgeous
    You should take it as a compliment
    That I got drunk and made fun of the way you talk
    //
    You make me so happy it turns back to sad
    There's nothing I hate more than what I can't have
    You are so gorgeous it makes me so mad

     เพลงที่สองที่นางปล่อยหลังจากออก look waht you made me do ตอนแรกที่ฟังก็ไม่ได้ชอบมากอะไรขนาดนั้นเพราะเนื้อเพลงมีความ Old Taylor และเราเป็นคนไม่อินกับความรักหรือการแอบชอบใครและมานั่งบรรยายถึงสีของดวงตาและเพ้อถึงเขา แต่หลังจากนั้น 2 สัปดาห์เอ้าตายละ แอบชอบคนๆนึงเลยกลับมาฟังและฟังมันบ่อยๆเพราะเนื้อเพลงน่ารักมากๆคือเป็นอารมณ์ของคนแอบรักแอบชอบเลยละ เลยทำให้ฟังเพลงนี้บ่อยมากๆพอๆกับเพลงอื่นๆในอัลบั้มเลย 

    Getaway Car

    I was riding in a getaway car
    I was crying in a getaway car
    I was dying in a getaway car
    Said 'goodbye' in a getaway car

    เพลงที่เราชอบมากที่สุดของปีนี้คือ Getaway car ตอนแรกที่ฟังต้องบอกก่อนว่าแค่ฟังรอบเดียวก็วนมันทั้งคืนจนแทบจะไม่ได้ฟังเพลงต่อจากนี้เพราะมันโดนใจเรามาก ทั้งตัวดนตรีที่มีเสียงเบสและเสียงของเทย์ที่เหมือนออกมาเล่าเรื่องราวของสองคู่รักอาชญกร เนื้อเพลงนั้นตัดพ้อถึงความรักที่รู้ว่ายังไงมันก็ต้องจบอยู่ดี ซึ่งเทย์ได้แรงบันดาลใจจาก Bonnie and Clyde อาชญกรที่เป็นคู่รัก ถ้าใครอยากรู้เรื่องทั้งคู่สามารถหาอ่านได้เลยค่ะ 

    *Getaway car - รถที่ใช้หลบหนีของอาชญกร (ตัวเนื้อเพลงและความหมายของเพลงนี้แสดงถึงพรสวรรค์ของการแต่งเพลงของเทย์จริงๆค่ะ)

    King Of My Heart

    หลังจากตั้งสติพยายามไม่ฟังแต่เพลง Gataway car เราก็พร้อมฟังเพลงต่อไปแล้วซึ่งเพลงนี้ก็ทำให้เราหัวใจเต้นแรงด้วยความเขินอายของเนื้อเพลงเลยค่ะ ก็ตอนฟังมองคนที่ชอบอยู่... เทย์เลอร์อาจจะทำอัลบั้มนี้เพื่อเราก็ได้ 5555555 มาพูดถึงตัวดนตรีนะคะ ดูไม่มีอะไรมาก pop ธรรมดาแต่ไอความธรรมดาและเสียงของเทย์ที่เหมือนหุ่นยนต์ตรงท่อน

     And all at once, you are the one I have been waiting 
    forKing of my heart, body and soul, ooh whoa

    นี้แหละค่ะ ที่ทำให้เพลงมันดูโดดเด่นและมีความพิเศษ เป็นเพลงที่มีความหมายน่ารักและฟังสบายๆฟังได้ 1 ชม. โดยไม่หยุดก็ไม่เบื่อค่ะ :))

    Dancing With Our Hands Tied

    I'm a mess, but I'm the mess that you wanted
    Oh, 'cause it's gravity
    Oh, keeping you with me

    เพลงนี้ตอนแรกที่เราฟังเราก็รู้สึกมัน 18 บวกยังไงก็ไม่รู้หรือเราจินตนการเกินไป 5555555 ขอแนบหลักฐานเนื้อเพลงที่ทำให้เราคิดลึกค่ะ 

    I'd kiss you as the lights went out
    Swaying as the room burned down
    I'd hold you as the water rushes in
    If I could dance with you again

    อะไรคือมากอดละน้ำเข้ามาคะ ? 555555555 หรือเราแปลผิด ? แต่ยังไงก็ตามเพลงนี้ก็เพราะมากๆ ตัวเนื้อเพลงมีความ fifty shades of grey อีกแล้วแม่เทย์น่าจะดูบ่อย ตั้งแต่รีวิวมาจนถึงตอนนี้เราจะเห็นได้ว่าเทย์มีการใช้เสียงที่ sex,husky และใช้ bass ขึ้นมากๆแทบดูเหมือนเพลงที่มาจากโลกอนาคต 

    Dress
    I don't want you like a best friend
    Only bought this dress so you could take it off, take it off

    ไม่อยากพูดถึงเพลงนี้มากค่ะนิยามแบบขี้เกียจเลยแล้วกัน เพลงประกอบ  fifty shades of grey แน่นอน 55555555555 ถ้าฟังเพลงบนแล้วต่อด้วยเพลงนี้คาดว่าถ้าฟังพร้อมกับคู่รักคงไม่ได้นอนแน่คะ เห็นได้ชัดเลยว่า นี้มันแม่เทย์ 2017 ที่แซ่บและ Sexy ไหนละโรมิโออะไรฉันไม่รู้จัก 

    ปล.เสียง ha ของเทย์ทำเอาเราเขินอายและคิดลึกเลยค่ะ 55555 ถ้าไม่มีเสียง auto tune ขัดนี้ตายแล้วเพลงติดเรท 

    This Is Why We Can't Have Nice Things

    Here's a toast to my real friends
    They don't care about that he said, she said
    And here's to my baby
    He ain't reading what they call me lately
    And here's to my momma
    Had to listen to all this drama

    ถ้า 22 บอกถึงความสุขของการจัดปาร์ตี้เพลงนี้คงบรรยายถึงปาร์ตี้ที่กร่อยเพราะเพื่อนบางคนซึ่งเทย์เลอร์นั้นได้อัดอั้นความเก็บกดของเธอกับเสียงหัวเราะในท่อน

    'Cause forgiveness is a nice thing to do
    Haha, I can't even say it with a straight face

    ซึ่งทำให้เรากรอกลับไปฟังอีกครั้งว่านี้เธอหัวเราะแบบนี้เป็นด้วยหรอ 55555555555 สำหรับเราเพลงนี้เป็นเพลงเดียวในอัลบั้มที่มีกลิ่นอายของความสนุกสนานให้ฟีล 22 ในตอนที่งานกร่อย 55555555


    Call It What You Want

    All my flowers grew back as thorns
    Windows boarded up after the storm
    He built a fire just to keep me warm


    จากที่เรารู้สึกว่าเทย์น่าจะมีอาการซึมเศร้าและกังวลหลายอย่างพอมาถึงเพลงนี้แฟนๆแบบเราก็สบายใจแล้วค่ะ ซึ่งขุ่นแม่ก็บอกกลายๆว่าจะพูดอะไรก็ตามใจเถอะเพราะตอนนี้เขามีคนที่เขารักและอยู่กับเขาแล้ว เทย์มีความสุขแฟนๆแบบเราก็สุขไปด้วย เราหวังให้เทย์มีใครสักคนดูแลอยู่ไปนานๆมาตลอด ขอให้คนนี้เป็นคนนั้นของเทย์นะ

    ตัวดนตรีมีความฟังสบายอารมณ์แนว gorgeous เสียงเทย์เลอร์ในเพลงนี้เป็นเสียงที่มีความเหมือนเทย์คนเก่าเป็นเสียงที่สบายๆและสดใสแต่เพราะเทย์โตแล้วความสุขของเทย์ในตอนนี้ก็คงเป็นอะไรที่อาจจะไม่ได้สมหวังแบบเจ้าหญิงและเจ้าชาย แต่คงเป็นแค่การมีใครสักคนอยู่ข้างๆเวลาที่เธอไม่มีใคร

    New Year's Day
    Hold on to the memories, they will hold on to you

    ก่อนอัลบั้มจะปล่อยออกมา เหล่าสวิฟตี้ที่ได้ไปฟังเพลงในอัลบั้มก่อนจะปล่อยต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเพลงนี้ละ คล้ายเพลงเทย์ในอัลบั้มก่อนๆ เราก็คิดในใจ 'แสดงว่านอกนั้นคงไม่เหมือนเทย์คนเก่าจริงๆสินะ และเพลงนี้จะไปเหมือนเทย์คันทรี่คนเดิมยังไง' พอเสียงเปียโนขึ้นเท่านั้นมันเป็นความรู้สึกของความคิดถึง คิดถึงเทย์เลอร์ที่ไม่ได้โดนชาวเน็ตโจมตีขนาดนี้ คิดถึงผู้หญิงที่เล่นกีต้าร์กับผมหยิกๆของเธอ และอีกความคิดถึงที่เทย์เลอร์มอบให้เราสำหรับเพลงนี้คือ คิดถึงบ้านและครอบครัวบรรยากาศก่อนวันปีใหม่ที่ทุกคนจะอยู่ร่วมกัน เพลงนี้เทย์เลอร์คงจะบอกเป็นกลายๆว่า "อย่ากังวลไปเลย ยังไงฉันก็คือฉันจะคนใหม่หรือเก่ายังไงก็ยังเป็นเทย์เลอร์ที่น่ารัก เทย์เลอร์ที่รักแฟนๆ และยังคงเป็น เทย์เลอร์ อลิสัน สวิฟต์"

    Please don't ever become a stranger
    Whose laugh I could recognize anywhere
    ได้โปรดอย่ากลายเป็นคนแปลกหน้า
    ที่ฉันยังจำเสียงหัวเราะของเธอได้ตลอดเวลาเลยนะ

    (เทย์อาจสื่อถึงความสัมพันธ์ที่จริงจังในครั้งนี้เธอไม่ได้ต้องการให้มันจบลงแบบstrangerในปีหน้า)


    "สุดท้ายเทย์เลอร์ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ถ่ายทอดความเศร้า ความเหงา และความรักออกมาในรูปแบบเสียงเพลง ศิลปะดนตรี นั้นเป็นสิ่งที่สามารถวิจาร์ณและตีความได้ตามใจของผู้รับสาร แต่การตีความที่ทำให้ตัวศิลปินต้องเจ็บปวดนั้น เราคนหนึ่งในฐานะคนที่รักดนตรีและศิลปะเราไม่เห็นด้วยค่ะ การรังแกคนอื่นทางตัวอักษร หรือ วาจา นั้นเป็นสิ่งที่เจ็บปวดจริงๆ เราขอให้ทุกคนที่ประสบมันผ่านมันไปได้ สู้ๆค่ะ" 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
เขียนดีจัง ชอบบบบ