ถ้าความรักเป็นพลังงานลึกลับที่จับต้องไม่ได้ แต่สัมผัสได้โดยประสาทสัมผัสอื่นใดที่ร่างกายพึงมี พลังงานความรักที่ว่าจะต้องเดินทางเป็นรูปแบบที่เรียกว่า "คลื่นความรัก" เป็นแน่แท้
คลื่นความรัก มีต้นกำเนิดของแหล่งพลังงานคือ "การเต้นของหัวใจ" อาจจะมีใครแอบเถียงในใจว่า บ้าเหรอความรักเป็นความนึกคิด ต้องมาจากสมองและสารสื่อประสาทหลั่งออกมา บลาๆๆ ก็แล้วท่านจะคิด งั้นคราวหน้าส่ง emoticon ให้แฟนกรุณาส่งรูปสมองอาบเลือดไปให้ จะแสดงออกถึงรักแท้มิแปรเปลี่ยนได้เป็นอย่างดี จบนะ..
เอาเรื่องแหล่งกำเนิดคลื่นความรักต่อ.. หัวใจที่เต้นตุ๊บๆของเรานี่เอง เป็นแหล่งสร้างพลังงานความรักให้ส่งเป็นคลื่นออกไป เวลาเราเจอคนที่พึงใจและอยากอยู่ใกล้ หรือสบตาแล้วเกิดหวั่นไหว หัวใจจะเต้นพริ้วตุ๊บตั๊บแทบไม่เป็นจังหวะ ก่อเกิดเป็นคลื่นความรักความถี่สูงพุ่งตรงไปกลางใจของฝ่ายตรงข้าม
ซึ่งหากหัวใจของของผู้ส่งเต้นแรงพอ อำนาจคลื่นความรักที่ทะลุทะลวงเข้าไปในใจอีกฝ่าย จะกระตุ้นให้เกิดการสั่นพ้องของหัวใจอีกดวงที่กำลังเต้นด้วยความถี่เดียวกัน จนหัวใจทั้งสองเต้นโครมคราม และนำมาซึ่งสัมผัสที่รู้สึกได้ในเวลาต่อมาของการ "ตกหลุมรัก"
แต่หากหัวใจอีกฝ่ายไม่เต้นแรงพอ ออกไปทางแข็งกระด้างหรือความถี่ต่างกันสิ้นเชิง คลื่นที่ส่งออกไปจะเกิดการแทรกสอด เกิดบัพหักล้างกันไป ไม่วิบไหววูบวาบอย่างต้องการ ยิ่งหากมุมตกกระทบของคลื่นความรักทำมุมวิกฤติกับหัวใจอีกดวงอาจเกิดการสะท้อนกลับหมด นึกภาพการจีบด้วยมุกเสี่ยวๆที่คิดว่าสาวจะชอบ แต่โดนตอกกลับมาหน้าหงาย ก็จะเห็นภาพคุณสมบัติของคลื่นข้อนี้ได้ชัดเจน
คลื่นความรักมีคุณสมบัติเหมือนคลื่นทั่วไป ยามที่มันเดินทางต้องอาศัยตัวกลางบ้างในบางที เช่น เสียงเพลง ของขวัญ ดอกไม้ ตุ๊กตา ยิ่งโลหะมีค่า เช่น เงิน ทองคำ คลื่นจะเดินทางได้ไวขึ้นเป็นพิเศษ เว้นแต่เป็นคลื่นความรักบริสุทธิ์อาจไม่ต้องอาศัยตัวกลาง เดินทางได้แม้ในสูญญากาศ แต่จุดหมายปลายทางคือดวงใจอีกดวงก็มักจะรู้สึกไกลราวปลายขอบจักรวาลเช่นกัน เพราะความรักดีๆมักส่งไปไม่ถึงง่ายๆซักที อย่างความรักของพ่อแม่ส่งคลื่นมาเพียงใด หัวใจของลูกมักไม่รู้สึกถึงคลื่นที่มากระทบ อาจเพราะด้วยความที่มันเป็นคลื่นความรักลูกมหึมา แอมพลิจูดสูงเทียบฟ้า แลมดายาวเป็นอนันต์ หัวใจลูกดวงน้อยจึงไม่สามารถสะท้อนคลื่นนั้นได้เลยแม้แต่นิดก็อาจเป็นได้
นอกจากนี้เวลาคลื่นความรักถูกส่งมา แม้จะถูกกีดกัน กั้นขวาง ขอแค่เพียงมีความหวังซักเล็กน้อย พอเห็นช่องแสงสว่างแห่งความหวังอยู่รำไร คลื่นความรักจะทะลุผ่านไปเกิดการเลี้ยวเบนเป็นแหล่งกำเนิดคลื่นใหม่ในความรู้สึกเท่าเดิม จนกว่าจะไปถึงตัวรับหัวใจดวงที่หวังจนได้
แต่เมื่อคลื่นความรักเดินทางไป พบตัวกลางอันมีความหนาแน่นต่างกันเหลือเกิน ราวดอกฟ้ากับหมาวัด ก็อาจเกิดการหักเหของคลื่นความรัก เบนห่างและเลยผ่านหัวใจที่เป็นเป้าหมายไปได้ เพราะรู้ดีว่าความต่างนั้นมันหนาแน่นเกินกว่าจะทะลุทะลวงไปได้ ด้วยแรงกระเพื่อมที่แผ่วเบาเยี่ยงนี้
เมื่อหัวใจสองดวงเต้นพร้อมกัน คลื่นหัวใจที่ส่งออกมาจะแทรกสอดกัน บางช่วงเกิดปฏิบัพความรักพุ่งปรี๊ดหวานจ๋อย บางช่วงเกิดบัพความรักเบาบางแค่มองหน้าก็เคือง แต่เป็นธรรมชาติของแหล่งกำเนิดคลื่นสองแหล่งที่อยู่ใกล้กัน คงต้องเรียนรู้ธรรมชาติของคลื่นความรัก มันมีท่วงทำนองและธรรมชาติแบบนี้ อยู่ที่แหล่งกำเนิดทั้งสองต้องคอยปรับการเต้นให้สอดคล้องพอดี ความรักก็จะพอดี ไม่มากไม่น้อย ลงตัวเหมาะเจาะ ซึ่งก็ไม่ใช่ง่ายแต่ก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้
เมื่อไหร่หัวใจเต้นแม้เพียงแผ่วเบา คลื่นความรักก็แผ่ออกจากแหล่งกำเนิด ส่งไปยังดวงใจที่อยู่ใกล้เคียง เราจะรู้สึกได้ แค่เพียงหลับตา และสัมผัสคลื่นความรักที่ส่งออกมาจากหัวใจของตนเอง มันอาจไม่ใช่ความรักแบบหนุ่มสาว แค่ความเห็นอกเห็นใจ ความเข้าใจ ความหวังดี คลื่นความสุขพวกนี้ก็ส่งออกมาให้หัวใจอื่นๆได้สัมผัสได้เช่นกัน
ไม่เชื่อลองฟังเสียงคลื่นความรักของคุณดู ตอนที่เพื่อนช่วยปลอบยามอกหัก ตอนน้องแบ่งขนมสุดรักสุดโปรดให้อย่างไม่หวง ตอนพ่อแม่โทรหายามห่างไกลถามว่า "สบายดีมั้ยลูก เหนื่อยมั้ย" ด้วยความเป็นห่วง ตอนนั้นหัวใจคุณเต้นแบบไหน ถ้ามันตื้นตันอิ่มเอิบด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก นั่นหล่ะคลื่นความรักมากระแทกกลางใจคุณเลย!
ลองส่งและสัมผัสคลื่นความรักกันนะครับ แม้มันจะบางเบาแต่มันสัมผัสได้ด้วยหัวใจดวงน้อยและส่งไปได้ด้วยหัวใจดวงเดียวกัน คลื่นความรักมีอยู่ทุกที่ทุกเวลาเครือข่ายกว้างไกลกว่า 8G แม้มองไม่เห็นแต่มีอยู่จริง
ขอให้คลื่นความรักกระทบใจทุกดวงบนโลกใบนี้ครับ ^_^ ตุ๊บๆ ตุ๊บๆ...ตุ๊บๆ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in