เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
LIFE IN FLIGHT MODE ไฟลต์ (ไม่) บังคับSALMONBOOKS
Flight 01 ก่อนจะเป็นนางฟ้า










  • แด่
    ชีวิตใหม่













  • "อาชีพของเราคือการแสดงเราถูกจ้างให้ขึ้นไปเป็นคนอารมณ์ดีๆคนหนึ่ง"


























  •             เราไม่เคยเห็นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิทยาเขตท่าพระจันทร์ตอนมืดๆ แบบนี้มาก่อน
                ปีนั้น คณะวารสารศาสตร์ฯ คือหนึ่งในคณะที่ต้องเข้าพิธีพระราชทานปริญญาบัตรวันสุดท้าย รอบสุดท้าย บัณฑิตร่วมรุ่น
    เริ่มทยอยออกมาจากหอประชุมใหญ่ บ้างเกาะกลุ่มเตรียมไปกินเที่ยวกันต่อ บ้างเดินถือใบปริญญาพร้อมช่อดอกไม้ยืนถ่ายรูป
    กับครอบครัว และบ้างปลีกตัวออกมาแล้วเดินทางกลับบ้านคนเดียวเงียบๆ
                “มึงได้งานหรือยัง?”
                เสียงชายคนหนึ่งดังมาจากด้านหลัง
                เอ๊ะ มึงถามกูหรือเปล่าเนี่ย?
                เราหันไปตามเสียง ปรากฏว่าเป็นเพื่อนชายสองคนกำลังคุยกัน
                แม้ชายคนนั้นจะไม่ได้พูดกับเรา แต่ “มึงได้งานหรือยัง?”เป็นประโยคที่วนอยู่ในหัวเรามาตลอดหกเดือน ระยะเวลาซึ่งถือว่ามากพอกับการที่เราจะนำทรานสคริปต์ไปสมัครงานและได้งานประจำทำเป็นเรื่องเป็นราว มีเงินเดือนที่มั่นคงมากกว่าการเป็น ‘ช่างแต่งหน้าฟรีแลนซ์’ อาชีพที่เราได้แรงบันดาลใจจากการดูคลิปวิดีโอของ ‘Pearypie’ บิวตี้ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ซึ่งน่าสนุกถึงขนาดที่ทำให้เราไปสมัครเรียนแต่งหน้า จนผ่านไปประมาณหกเดือน เด็กหน้าโล้นผู้มีความอยากรู้อยากลองงานศิลปะก็ประกอบอาชีพเป็นช่างแต่งหน้า สร้างรายได้นอกเวลาเรียนมาร่วมสามปีแล้ว
                ช่วงเริ่มต้น การเรียนยังเป็นเรื่องหลัก งานแต่งหน้าเป็นเรื่องรอง เป็น ‘งานเสริม’ ที่สนุก กระตุ้นให้สารเอ็นดอร์ฟินส์หลั่งทุกครั้งที่เราได้ตบแป้งแต้มสีใดๆ บนหน้านางแบบ และยิ่งมีความสุขเมื่อคิดว่าเด็กอายุ 20 คนหนึ่งจะได้ตื่นเช้าตรู่ไปออกกองถ่ายแบบ ถ่ายหนัง ได้แต่งหน้าให้กับดาราดังๆ จนกระทั่งเรียนจบการเรียนที่เป็นเรื่องหลักก็จางหายไปจากชีวิตงานเสริมที่เคยเป็นเรื่องสนุกกลับกลายมาเป็น ‘งานหลัก’ ที่อาจทำให้เวลาทั้งหมดของชีวิตต่อจากนี้ เราต้องวิ่งเข้าหางานมากขึ้น ห้ามป่วย ห้ามตายเพราะมันหมายถึงรายได้ที่จะหายไป
                เราชักไม่แน่ใจว่าจะยังรู้สึกสนุกกับการแต่งหน้าได้เหมือนเดิมหรือเปล่า

           
                เราเดินเกาะกลุ่มมากับบัณฑิตร่วมคณะกลุ่มใหญ่ ความมืดในตอนนี้ทำให้แทบมองไม่ออกว่าใครเป็นใคร มีเพียงละอองแสงจากไฟสปอตไลต์ที่สาดเข้าสนามบอลพอให้มองเห็นทางเดิน จู่ๆเสียงแหลมของชะนีที่ไหนก็ไม่รู้ดังขึ้นกลางวง
                “อ๊ายยยย ว่าไงคะนางฟ้า! เป็นแอร์ฯ แล้วเหรอ ยินดีด้วยน้า”
                “โห ขอบคุณมากค่ะ ไว้เจอกันบนเครื่องนะคะ”
                เราเหลียวมองไปตามเสียง...
                เฮ้ย! เป็นแอร์ฯ เหรอวะเนี่ย
                เธอเป็นบัณฑิตร่วมคณะที่เราไม่ค่อยสนิท แม้เราจะเชื่อว่าการตัดสินคนจากภายนอกอย่างรวดเร็วเป็นความคิดที่ไม่ดี แต่ภาพรวมของเธอนั้นดูไม่เหมือนแอร์โฮสเตสที่เราเคยเห็นในโฆษณาหรือในมโนคติที่ต้องสวยแบบเวอร์วังเลยแม้แต่น้อย
               จากการเงี่ยหูฟัง (หรือสอดรู้สอดเห็น) สักพักก็จับใจความได้ว่าเธอเพิ่งสอบแอร์โฮสเตสมาหมาดๆ และกำลังรอเข้ารับการฝึกอบรมเพื่อทำงานบนเครื่องบินจริงๆ
               บัณฑิตกลุ่มใหญ่เริ่มสลายตัว เราเดินออกมาทางประตูฝั่งสนามหลวงมุ่งหน้าสู่ถนนข้าวสารกับเพื่อนร่วมคณะคนหนึ่งการสวมชุดครุยเดินสนามหลวงกลางดึกคืนนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกเสียงเพลง EDM ดังมาแต่ไกล คืนนี้มีเด็กหลายร้อยชีวิตกำลังเฉลิมฉลองให้กับการก้าวสู่โลกของผู้ใหญ่
               บทสนทนาของชะนีเสียงแหลมกับว่าที่แอร์ฯ สาวยังไม่ออกไปจากหัว
               เจอกันบนเครื่องนะคะ
               หืมมมม ฟังดูเก๋ยังไงก็ไม่รู้


    สองเดือนผ่านไป
              “โอ๊ย กางเกงในลูกไม้หายไปไหนเนี่ย!”
              ‘เป็ด’ สไตลิสต์เพื่อนสาว กำลังง่วนอยู่กับการหากางเกงในลูกไม้สีดำที่จะเอามาให้นางแบบฝรั่งใส่ท่ามกลางกองผ้าล้านชิ้น
              เรากำลังอยู่ในกองถ่ายแบบแฟชั่นแถวพระโขนง รับหน้าที่เป็นเมกอัพอาร์ทิสต์แต่งหน้านางแบบประจำวันนี้ ซึ่งดูจากสมุดจดคิวของตัวเอง นี่น่าจะเป็นงานสุดท้ายของเดือนนี้แล้ว...
              เดี๋ยวๆ แต่นี่มันเพิ่งต้นเดือนเองนะ! ทำไมการเป็นฟรีแลนซ์เต็มตัวมันยากขนาดนี้!!
              “เป็ด ช่วงนี้งานเยอะไหม”
              เราถามสไตลิสต์ผู้เงยหน้าขึ้นจากดงผ้า
              “ไม่มีเลยจ้า”

               จริงๆ เป็ดเรียนจบด้านกราฟิกดีไซน์จากเมลเบิร์น แต่เพิ่งค้นพบว่าตัวเองอยากทำงานแฟชั่นก็ตอนเรียนจบแล้ว เลยเริ่มศึกษาแฟชั่นด้วยตัวเอง ก่อนจะรับงานสไตลิสต์เป็นฟรีแลนซ์
              “เนี่ย กำลังหางานประจำอยู่ เป็นฟรีแลนซ์แล้วก็เหนื่อยวิ่งหางาน”
               เขาพูดกับเราในขณะที่ยังคงหันหน้าเข้ากองผ้า
              “ทำไมไม่ไปสมัครสจวร์ตล่ะ เงินดีจะตาย ขาวๆ ตี๋ๆ แบบเป็ดต้องได้แน่นอน”
              “ชั้นสูงไม่ถึง 165 แกร๊ แล้วสจวร์ตบางสายการบินเขารับ170 ด้วยซ้ำ ...เออ แต่เดือนหน้ามีเปิดรับแอร์ฯ ครั้งใหญ่นะแกไปสมัครสิ”

               ย้อนกลับไปช่วงมัธยมปลาย เรานี่แหละที่สนใจอยากเป็นแอร์ฯ ถึงขั้นซื้อหนังสือ เป็นได้แน่.. แอร์ฯ-สจ๊วด มาอ่าน เพราะอยากรู้วิธีการเตรียมตัวสมัครอย่างละเอียด ซึ่งในนั้นมีบทสัมภาษณ์ลูกเรือ รวมทั้งแจกแจงคุณสมบัติเฉพาะของแต่ละสายการบินที่แตกต่างกันไป ก่อนจะทิ้งท้ายไว้ว่า การมีทักษะการสื่อสารที่ดีก็เป็นคุณสมบัติหนึ่งในการคัดเลือกแอร์โฮสเตสด้วย และนั่นอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราตัดสินใจเลือกเรียนวารสารศาสตร์ฯ คณะที่ฝึกทักษะให้ครอบคลุมทั้งการทำงานเป็นนักข่าวและนักเขียน
               แต่ตลอดสี่ปีของชีวิตนักศึกษา เราสนุกกับงานแต่งหน้าจนลืมไปเลยว่าครั้งหนึ่งตอนเป็นเด็กหัวโปกกระโปรงบาน แอร์ฯก็เคยเป็นอาชีพในฝันของเราเหมือนกัน งานอะไรแต่งตัวเดินสวยๆ บินไปเมืองนอกฟรี มีเงินใช้ เช้านี้ดินเนอร์อยู่ปารีส อีกสองวันกินบรันช์อยู่ลอนดอน
               บทสนทนากับเป็ดทำให้ความคิดตอนเด็กๆ ของเรากลับเข้ามาในหัวแบบสลัดไม่ออก


               “Shin up, please”
               “Please move to the right side...”
               เสียงรัวชัตเตอร์สลับกับคำสั่งของช่างภาพให้นางแบบขยับท่าโพสดังขึ้น ขณะที่ทีมงานกำลังดูภาพถ่ายที่ลิงก์จากกล้องบนจอโน้ตบุ๊ก เรานั่งสแตนด์บายอยู่ใกล้ๆ มือข้างหนึ่งถือแป้งฝุ่นเผื่อซับหน้านางแบบ มืออีกข้างหนึ่งกดมือถือหาอะไรบางอย่าง
               รับสมัคร พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน 2017
               เราพิมพ์คีย์เวิร์ดในกูเกิล ข่าวรับสมัครแอร์ฯ ที่เป็ดพูดถึงโผล่ขึ้นมาเป็นลิงก์แรก สายการบินชื่อดังของประเทศกำลังเปิดรับสมัครพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจำนวน 500 อัตรา สมัครได้ทางออนไลน์ตั้งแต่วันนี้ถึง 10 มิถุนายน 2017
               (ตาดูวันที่)
               อ๋อ อีกเจ็ดวันปิดรับสมัคร
               ……
               !!!
               อีผี อีกเจ็ดวัน จะทันมั้ย!!!!!
               โอ๊ย! อีเป็ด สร้างงานสร้างอาชีพให้กูแล้วไง เรารู้สึกงุ่นง่านอยากจะทิ้งแป้งฝุ่นแล้วกลับบ้านไปเตรียมตัวเดี๋ยวนี้เลย คะแนนสอบภาษาอังกฤษที่ต้องนำไปยื่นก็ยังไม่มี ชุดสูทสมัครแอร์ฯ ก็ยังไม่ได้ซื้อ
    ตอนนี้ก็โคตรอ้วน แล้วโดยธรรมเนียมที่ผ่านมา สายการบินนี้จะเปิดรับลูกเรือสามปีครั้ง อายุผู้สมัครต้องไม่เกิน 24 ปี ตอนนี้เรา 22 แล้ว เท่ากับว่านี่จะเป็นโอกาสแรกและโอกาสสุดท้ายกับการเป็นแอร์ฯ ประจำสายการบินนี้ด้วย
              จังหวะดีขนาดนี้ เราจะพลาดไม่ได้!
              “เป็ดๆ เรากลับบ้านได้ยังวะ?”
              “อีบ้า เพิ่งเริ่มถ่ายลุคแรกเอง!”


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in